บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.7K
3 นาที
18 พฤษภาคม 2563
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! แอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ”


 
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 คน รวมยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,018 คน หายแล้ว 2,850 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม และด้วยสถานการณ์ที่ดูจะเริ่มคลี่คลายมากขึ้น ทำให้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้มีการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 2 ซึ่งก็ดูเหมือนว่าทางภาครัฐเองก็กำลังเตรียมรับมือหากมีการผ่อนปรนโดยหนึ่งในวิธีการที่ภาครัฐเตรียมนำมาใช้คือ “แอปพลิเคชั่น ไทยชนะ” ที่คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวให้ใช้ผู้ประกอบการสามารถดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการได้ในวันที่ 15-17 พฤษภาคมนี้
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่านี่คือ New normal อีกอย่างที่เราต้องปรับตัวและพบเจอซึ่งหลายคนอาจยังสงสัยและไม่เข้าใจในวิธีการทำงานของ “แอปพลิเคชั่น ไทยชนะ” เราจึงรวบรวม 10 เรื่องจริงของแอปพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดนี้มาฝากกัน
 
1. จัดทำโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)


ภาพจาก bit.ly/2LAwLSv
 
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ร่วมกับ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. จัดทำแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” เพื่อเป็นมาตรการหนึ่งในการรองรับกรณีที่จะมีการประกาศผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 2 โดยตั้งใจที่จะพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของโรค และให้ทราบข้อมูลความหนาแน่นของประชาชนในแต่ละร้านค้า เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรครอบที่ 2
 
2. จาก “หมอชนะ” สู่ “ไทยชนะ”


ภาพจาก bit.ly/2LAx5AH
 
แอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” จะเริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 แต่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 มีแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เปิดตัวขึ้นมาก่อนชื่อว่า “หมอชนะ” เพื่อใช้ติดตามและประเมินความเสี่ยงของการแพร่ระบาด COVID-19รูปแบบการใช้งาน "หมอชนะ" แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ให้ผู้ใช้รายงานความเสี่ยงของตัวเอง และแจ้งเตือนผู้ใช้หากเข้าใกล้พื้นที่เสี่ยง ที่มีผู้ติด COVID-19 โดยเป็นผลงานร่วมระหว่าง กลุ่มผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระ Code for Public, กลุ่มผู้เชี่ยวชาญซอฟต์แวร์-วิเคราะห์ข้อมูลชื่อ กลุ่มช่วยกัน และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรธุรกิจ สถาบันการศึกษาอีกจำนวนมาก
 
3. ถอดบทเรียนต้นแบบจากจีนและเกาหลีใต้


ภาพจาก bit.ly/2LGl9gM
 
แอป “ไทยชนะ” ถือว่าเป็นการพัฒนาโปรแกรมที่ได้จากการถอดบทเรียนจากจีนและเกาหลีใต้ที่ได้มีการผ่อนปรนหลายมาตรการไปก่อนหน้า อย่างในเกาหลีใต้ มีการตรวจคัดกรองแบบไดรฟ์ทรู โรงพยาบาลแยกพื้นที่ในการรักษาผู้ป่วยและใช้ App Self Safety และโปรแกรมโพเทคชั่น ส่วนในประเทศจีน มีการกำหนดโรงพยาบาลสำหรับรักษาผู้ป่วย 29 โดยเฉพาะแจกใบอนุญาตเข้าออกชุมชนแบบจำกัดจำนวนคนในแต่ละวันให้ผู้นำชุมชน ติดตามสถานะสุขภาพของลูกบ้าน ด้วยการเยี่ยมและโทรศัพท์สอบถามอย่างใกล้ชิด และให้ประชาชนสแกน QR Code และบาร์โค้ด ทุกครั้งที่ออกและเข้าสถานที่ต่างๆเพื่อตรวจประวัติสุขภาพ และการเดินทาง พร้อมกับให้ประชาชนสามารถปรึกษาแพทย์ ซื้อยา ชำระค่าตรวจผ่านแอปแทนการเดินทางมาโรงพยาบาล
 
4. หลักการทำงานของแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ”


ภาพจาก bit.ly/3fZiJYH
 
แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ใช้ในการเช็กอิน-เอ้าท์ การเข้าออกการรับบริการจากร้านต่างๆ ประชาชนที่ใช้ระบบจะได้ทราบความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในร้านค้านั้นๆและสามารถตัดสินใจว่าจะใช้บริการหรือไปร้านอื่น ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากในการติดตามผู้ติดเชื้อ ถ้าได้ข้อความแจ้งจากระบบให้ตรวจเชื้อ จะสามารถเข้าตรวจได้ฟรี โดยเริ่มต้นผู้ประกอบการ หรือร้านค้าจะต้องไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ เพื่อให้ได้คิวอาร์โค้ดมาแปะที่หน้าร้าน และเมื่อประชาชนมาใช้บริการจะต้องสแกนคิวอาร์โค้ด ถือเป็นการเช็คอิน และลงทะเบียนข้อมูลไปยังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  

5. ดีสำหรับร้านค้าช่วยสร้าง “เรตติ้ง” ให้คนมั่นใจ
 
สำหรับการผ่อนปรนในระยะที่ 2  จะมีบรรดาห้างร้านต่างๆ ที่ได้เปิดทำการอีกจำนวนมาก แต่ประชาชนส่วนใหญ่จะมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” คือตัวที่จะสร้าง “เรตติ้ง” ให้กับร้านค้าเหล่านี้ เพราะหากผู้ประกอบการไม่ร่วมลงทะเบียนและไม่ปฏิบัติตาม ประชาชนจะรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งถือเป็นยุค New normal ที่ร้านค้าจำเป็นต้องปรับตัวจะใช้รูปแบบและวิธีการที่เคยชินเหมือนสมัยก่อนไม่ได้
 
6. ไม่ต้องกังวลเรื่อง “ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล”


ภาพจาก bit.ly/3bErHqP
 
หลายคนเป็นห่วงว่า แอปพลิเคชั่น ไทยชนะ เมื่อมีการลงทะเบียนมีการกรอกข้อมูล จะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่ เรื่องนี้ได้รับการยืนยันว่าไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแต่อย่างใดข้อมูลนี้จะอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น เพียงต้องการเบอร์โทรศัพท์ในการติดตาม ไม่ต่างจากการที่เราต้องไปโรงพยาบาลและต้องบอกข้อมูลกับแพทย์และข้อมูลนั้นจะเก็บไว้ในกรมควบคุมโรค นำมาใช้ด้วยเหตุผลในการควบคุมโรคเท่านั้น
 
7. ถ้าร้านค้าไม่ติดตั้งแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ก็ต้องมีสมุดจดลงทะเบียน


ภาพจาก bit.ly/2yZAxCy
 
เรียกว่ามีความยุ่งยากมากขึ้นหากผู้ประกอบการเมินเฉยต่อการติดตั้งแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ ซึ่งภาครัฐได้มีข้อกำหนดว่าหากไม่มีการติดตั้งแอปดังกล่าวนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจจะต้องมีสมุดจดและรับหน้าที่ลงทะเบียนให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ ซึ่งวิธีนี้จะวุ่นวายและยุ่งยาก เพราะถ้าหากร้านนั้นกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงจะต้องตามเช็คข้อมูลผู้ใช้บริการกันทั้งวันและไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ แต่หากใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ดจะสามารถจำกัดบุคคลกลุ่มเสี่ยงได้เป็นช่วงเวลา ซึ่งจะลดความวุ่นวายลงได้

8. ทุกกิจการที่ได้รับการผ่อนปรนมาตรการควรติดตั้งแอปพลิเคชั่นไทยชนะ
 
แอปพลิเคชั่นไทยชนะไม่ได้เลือกปฏิบัติว่าจะต้องเป็นกิจการขนาดเล็กหรือใหญ่ ทุกกิจการที่ได้รับการผ่อนปรนสามารถไปลงทะเบียนเพื่อติดตั้งแอปพลิเคชั่นดังกล่าวนี้ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นร้านค้าในห้าง ร้านริมทาง หรือว่าแม้แต่ร้านรถเข็นทั่วไป หากติดตั้งแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ ก็เหมือนได้ร่วมด้วยช่วยกันในการลดความเสี่ยงที่จะไม่ทำให้เกิดการระบาดซ้ำในรอบที่ 2 ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่เราควรช่วยกันเพราะยังไว้ใจไม่ได้แม้ตัวเลขคนติดเชื้อจะน้อยลงมากๆ ก็ตาม
 
9. เป็น New normal ใหม่ของคนไทย


ภาพจาก bit.ly/3bGahdu
 
ความกังวลอีกส่วนหนึ่งคือคนไทยยึดติดกับความสะดวกสบายมานานจนเคยชิน การที่จะให้มาทำอะไรแบบมีกฏเกณฑ์หลักการมากขึ้น อาจไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ซึ่งหลักการของแอปพลิเคชั่นไทยชนะในส่วนของลูกค้าคือต้องสแกนคิวอาร์โค้ดที่ร้านค้าลงทะเบียนไว้ ทั้งก่อนเข้าร้านและเมื่อออกจากร้าน ซึ่งในช่วงแรกๆ มองว่าคงจะมีปัญหาในเรื่องความไม่เข้าใจของคน และบางคนก็อาจจะลืมสแกนออก หรือสแกนเข้าแค่อย่างเดียว นี่ก็คือปัญหาว่าข้อมูลในแต่ละร้านจะตรงกับความเป็นจริงแค่ไหน ซึ่งก็ต้องมาดูผลงานของแอปนี้ในช่วงแรกก่อนที่จะเอามาปรับปรุงแก้ไขต่อไป
 
10. คาดหวังสู่การผ่อนปรนในระยะที่ 3 และ 4 จนเข้าสู่ภาวะปกติ


ภาพจาก bit.ly/36aVKp9
 
แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเริ่มน้อยลงชัดเจนจนหลายคนออกมาเรียกร้องให้คลายล็อคดาวน์ต่างๆ เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม แต่สิ่งนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่หากปล่อยไปโดยไม่มีวิธีการควบคุมหวั่นว่าจะเกิดการระบาดในรอบที่ 2 ซึ่งอาจจะหนักกว่าเดิมและต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ แอปไทยชนะจึงเป็นเครื่องมือในการผ่อนปรนระยะที่ 2 ที่ถูกนำมาใช้ ซึ่งหากได้ผลดีก็จะมีการผ่อนปรนในระยะที่ 3 และ 4 จนเข้าสู่ภาวะปกติ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ซึ่งการใช้เทคโนโลยีควบคู่กับการป้องกันคือสิ่งที่ยุคนี้น่าจะใช้ได้ผลมากที่สุด
 
สถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID 19 เป็นเรื่องที่เราต้องอดทนเพราะหากปล่อยให้เกิดการระบาดซ้ำสิ่งที่ทำมาจะกลายเป็นสูญเปล่าและเราทุกคนจะต้องกลับเข้าสู่วังวนเดิมๆ ที่รอบนี้อาจทำให้ธุรกิจพังทลายได้ยิ่งกว่ารอบแรก เมื่อตัวเลขเริ่มดี และสถานการณ์เริ่มดีเราก็ควรให้ความร่วมมือแก่ภาครัฐในการป้องกันตามมาตรการต่างๆ อย่าคิดแค่ว่าไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องทำเพราะหากเกิดปัญหาซ้ำขึ้นมากจะกลายเป็นปัญหาและภาระของทุกคนทันที
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id:
 @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
ขอบคุณข้อมูล
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สงครามส่งด่วน • เกมส์ • กลยุทธ์ • ธุรกิจ
442
คิดวิเคราะห์ขายอาหารใน Food Court คุ้มหรือไม่
378
“Store Assortment” กลยุทธ์ร้านค้าปลีก ที่เจ้าของ..
374
ไฮเปอร์มาร์เก็ต VS ซูเปอร์เซ็นเตอร์! ใครจะรุ่ง ..
371
รวมทายาทแบรนด์ดังทำ TikTok ต่อยอดธุรกิจ
345
“Markdown” วิธีใช้ “ป้ายเหลือง” เพิ่มรายได้ร้านส..
341
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด