บทความทั้งหมด    บทความสร้างอาชีพ    ความรู้ค้าขาย    ความรู้สร้างอาชีพ
2.0K
3 นาที
8 ตุลาคม 2563
อาชีพเพิ่มรายได้ “การเลี้ยงปลากัด” ทำง่าย รายได้ดีจริง
 

 
คนไทยหลายคนไม่รู้จัก “ปลากัด” หรือบางคนเพียงแต่เคยได้ยินชื่อและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแท้ที่จริง “ปลากัด” สร้างมูลค่าให้กับประเทศไทยได้อย่างมาก ในแวดวงปลากัดเองก็มีการซื้อขาย เพาะเลี้ยง บางคนมีที่ดิน มีบ้านหลังใหญ่ ก็ด้วยการ “เพาะปลากัดขาย” โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญอย่างฉะเชิงเทรา นครปฐม เพชรบุรี และหลายจังหวัดในภาคใต้ แม้แต่ทางภาคเหนือหรืออีสานก็มีกลุ่มคนเพาะเลี้ยงปลากัดจำหน่ายเช่นกัน แม้ชื่อเสียงวงการนี้จะไม่ใหญ่โต แต่ในความจริงสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้เกินความคาดหมายที่เดียว
 
อย่างไรก็ดี www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าอาชีพการเพาะเลี้ยงปลากัดไม่ใช่นึกจะทำก็ทำได้ ขั้นแรกคือคุณต้องใจรัก การเพาะปลากัดมีขั้นตอนหลายอย่าง รวมถึงมีเทคนิคที่ต้องศึกษา อย่างการสังเกตตัวผู้ตัวเมีย การเทียบคู่ การอนุบาลลูกปลา การคัดแยกปลาเมื่อมีขนาดโต การเทสต์ปลาว่าเก่งพอจะขายได้หรือยัง ไหนจะเรื่องอาหารและเทคนิคการหาพ่อปลาแม่ปลามาผสมพันธุ์เพื่อให้ได้ลูกเก่งๆ สิ่งเหล่านี้ต้องใช้ประสบการณ์มากกว่าความรู้ แต่ถ้าสนใจและทำได้จริง ขอบอกว่า "รวยทุกคน" 
 
ประเภทของปลากัด


ภาพจาก bit.ly/30Jg4fA
 
1. ปลากัดลูกหม้อ
 
มีลักษณะลำตัวค่อนข้างหนาเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น ส่วนหัวค่อนข้างโต ปากใหญ่ ครีบสั้นสีเข้ม เดิมมักจะเป็นสีเขียว , น้ำเงินแกมแดง แต่ปัจจุบันมีหลายสี เช่น สีแดง สีน้ำเงิน สีม่วง สีเขียว ถือเป็นปลาที่มีความอดทน กัดเก่ง ได้รับความนิยมสำหรับการกัดพนัน ปัจจุบันนิยมเรียกเป็นกลุ่มของ ปลากัดครีบสั้น
 
2. ปลากัดลูกทุ่ง
 
มีลักษณะลำตัวเล็กกว่าพันธุ์ลูกหม้อ ลำตัวค่อนข้างยาว ครีบยาวปานกลางหรือยาวกว่าพันธุ์ลูกหม้อเล็กน้อย สีไม่เข้มมากนัก ส่วนมากมักจะเป็นสีแดงแกมเขียว เป็นพันธุ์ที่มีความตื่นตกใจได้ง่ายที่สุด การกัดจะมีความว่องไวมากกว่าพันธุ์ลูกหม้อ
 
3. ปลากัดลูกผสม
เป็นลูกปลาที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างปลากัดลูกหม้อกับปลากัดลูกทุ่ง ผู้เพาะต้องการให้ปลาลูกผสมที่ได้มีลักษณะปากคม กัดคล่องแคล่วว่องไวแบบปลาลูกทุ่ง และมีความอดทนแบบปลาลูกหม้อ ปลาลูกผสมนี้จะกัดทนกว่าปลาลูกทุ่ง
 
4. ปลากัดจีน
 
เป็นปลากัดที่เกิดจากการเพาะและคัดพันธุ์ปลากัดโดยเน้นเพื่อความสวยงาม พยายามคัดพันธุ์เพื่อให้ปลามีหางยาวและสีสันสดเข้ม
 
การเพาะเลี้ยงปลากัด


ภาพจาก bit.ly/2I8VI9m
 
1. การเตรียมพ่อแม่พันธุ์
 
ปลากัดจะสมบูรณ์เพศเมื่ออายุ 4 - 6 เดือน สามารถนำไปใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ การเลือกปลาเพศผู้ควรเลือกปลาที่คึกคะนอง สำหรับปลาเพศเมียควรเลือกปลาที่มีท้องแก่ คือมีไข่แก่เต็มที่ โดยสังเกตได้จากส่วนท้องของปลา ซึ่งจะขยายตัวพองออกอย่างชัดเจน
 
2. การเทียบพ่อแม่พันธุ์

เมื่อได้พ่อแม่พันธุ์ที่ต้องการนำปลาใส่ขวดแก้วใสขวดละตัวแยกเพศกันไว้ก่อน แล้วนำมาตั้งเทียบกันไว้ โดยการวางขวดใส่ปลาให้ชิดกันและไม่ต้อมีกระดาษปิดคั่น ต้องการปล่อยให้ปลามองเห็นกัน ลักษณะเช่นนี้เรียกว่า “การเทียบ” ควรเทียบไว้นานประมาณ 4 - 7 วัน เพื่อให้ปลาเกิดความเคยชินซึ่งกันและกัน เมื่อปล่อยลงบ่อเพาะแม่ปลาจะไม่ถูกพ่อปลาทำร้าย
 
3. การเตรียมบ่อเพาะพันธุ์

ส่วนมากนิยมใช้ภาชนะต่างๆไม่มีบ่อถาวร เช่น อ่างดินเผา กะละมัง ถัง หรือตุ่มน้ำขนาดเล็ก เพราะสะดวกกว่าการเพาะในบ่อ   ภาชนะดังกล่าวมักมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 - 40 เซนติเมตร ใส่น้ำสะอาดลงในภาชนะที่เตรียมไว้ให้มีระดับสูงประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร จากนั้นใส่พันธุ์ไม้น้ำที่มีใบหรือลำต้นอยู่ผิวน้ำ เช่น จอก ผักตบชวา ผักบุ้ง หรือผักกระเฉด ลงไปบ้างเล็กน้อยเพื่อให้ปลาสร้างหวอดได้ง่าย  
 
4. การปล่อยปลาลงบ่อเพาะ

เมื่อเทียบปลาไว้เรียบร้อยแล้วจึงปล่อยปลาทั้งคู่ลงบ่อเพาะที่เตรียมไว้ ต้องพยายามอย่าให้ปลาตื่นตกใจมากนัก จากนั้นหาแผ่นวัสดุ เช่น กระดาษแข็ง หรือแผ่นกระเบื้อง ปิดบนภาชนะที่ใช้เพาะ โดยปิดไว้ประมาณ 2 ใน  3 ของพื้นที่ปากภาชนะ เพราะปลากัดมักชอบวางไข่ในบริเวณที่มืด เนื่องจากต้องการความเงียบสงบ วัสดุที่นำมาปิดจะสามารถช่วยบังแสงและกันลมไม่ให้หวอดของปลาแตก เทคนิคที่สำคัญคือ การปล่อยพ่อแม่ปลาควรปล่อยในตอนเย็น เวลาประมาณ 17.00 - 18.00  น.
 
การอนุบาลลูกปลากัด


ภาพจาก bit.ly/33H0OBO
 
การอนุบาลลูกปลากัดจะเริ่มจากที่ลูกปลาเริ่มหากินอาหาร ลูกปลากัดต้องการอาหารที่มีชีวิต แต่ปัญหาจะอยู่ที่ว่าลูกปลากัดเป็นลูกปลาที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ปากจะไม่ใหญ่พอที่จะจับกินอาร์ทีเมียหรือไรแดงได้ อาหารที่เหมาะสมจะใช้ให้ลูกปลากินในช่วงนี้คือไข่แดง โดยใช้ไข่ไก่หรือไข่เป็ดมาต้มให้สุกแล้วแกะเอาเฉพาะไข่แดงไปเลี้ยงปลา เนื่องจากลูกปลากัดจะต้องการจับกินอาหารมีชีวิตยังไม่สามารถกัดแทะอาหารได้ ดังนั้นต้องนำเอาไข่แดงที่จะใช้ เช่น ลูกปลากัด 1 ครอกจะใช้ไข่แดงขนาดเท่าเม็ดถั่วดำต่อการให้ 1 ครั้ง
 
การเลี้ยงปลากัดให้สามารถจำหน่ายได้


ภาพจาก bit.ly/3jHifbe
 
มีทั้งแบบที่เป็นบ่อดินและบ่อปูนซีเมนตร์ ถ้าเป็นบ่อดินควรมีขนาด 10 - 30 ตารางเมตร ถ้าเป็นบ่อซีเมนต์ควรมีขนาด 2 - 6  ตารางเมตร มีความลึกประมาณ 50 - 60 เซนติเมตร คัดแยกลูกปลาจากบ่ออนุบาลโดยคัดเอาเฉพาะปลาเพศผู้มาเลี้ยง เนื่องจากปลาเพศผู้เป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่าและราคาสูงกว่าปลาเพศเมียมาก ปล่อยเลี้ยงในอัตรา 150 - 200 ตัว ต่อเนื้อที่ 1 ตารางเมตร สำหรับบ่อดิน และอัตรา 100 - 150 ตัว ต่อเนื้อที่ 1 ตารางเมตรสำหรับบ่อซีเมนต์ ใช้เวลาเลี้ยงอีกประมาณ 50 - 60 วัน ปลาจะมีขนาดประมาณ 5 เซนติเมตร สามารถคัดแยกใส่ขวดเพื่อรอจำหน่ายต่อไป
 
ราคาในการจำหน่ายปลากัด


ภาพจาก bit.ly/3jITX0p
 
ปลากัดสำหรับเดิมพันจะมีฤดูกาลแข่งขันโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ปลากัดส่วนใหญ่จะมีความเก่งและกัดได้ดี ราคาขายของปลากัดในกลุ่มเดิมพันซึ่งเป็นตลาดที่มีกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคราคาขายต่อตัวประมาณ 40-50 บาท หรือบางรายก็ขายเป็นชุด เช่น  12 ตัว 1,000 ซึ่งการทำตลาดของเจ้าของบ่อปลากัดส่วนใหญ่จะมี “ปลาลอง” คือปลาขนาดเล็กให้ลูกค้าลองเอาไปกัดดูก่อน
 
ซึ่งปลากัดมีความพิเศษตรงที่หากบ่อไหนเก่งก็จะเก่งเหมือนกันทั้งคอก แต่ก็ต้องมาคัด “รอย” หรือขนาดของตัว เพื่อให้สามารถกัดกับคู่ต่อสู้ได้แบบไม่เสียเปรียบ สำหรับกลุ่มการขายปลากัดเดิมพันถือว่ามีรายได้ค่อนข้างดีแถวแปดริ้วหรือนครปฐมมีการทำอาชีพนี้กันอย่างชัดเจน มีเงินหมุนเวียต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 -30,000 บาท และอีกกลุ่มคือการเพาะปลากัดเพื่อความสวยงาม ตรงนี้ส่วนใหญ่ปลากัดยิ่งแปลกยิ่งขายดี เช่น ฮาร์ฟมูน คราวเทล หรือสีแปลกๆอย่างสีธงชาติ เป็นต้น ราคาขายส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักหมื่นบาทก็ยังมี
 
วิธิสร้างรายได้ด้วย “การหาปลากัดจากบ่อ ส่งขาย”


ภาพจาก bit.ly/34DDR1E
 
นอกจากจะเป็นคนเพาะแล้ว วิธีการสร้างรายได้ที่นิยมอีกแบบหนึ่งคือ “การหาปลาขาย”  โดยคนเหล่านี้อาจไม่มีบ่อของตัวเองแต่อาศัยติดต่อบ่อปลาที่สนิทเพื่อถามว่ามี “ปลาเบอร์ไหนเก่ง” ซึ่งเจ้าของบ่อส่วนหนึ่งก็ต้องอาศัย “คนจับปลา” เหล่านี้ในการนำปลาไปขาย ซึ่งต้องมีการ “เทสต์” ก่อนว่าปลากัดดังกล่าว เนื้อหนัง เขี้ยว เชิงกัดเป็นอย่างไร หากเทสต์ในสนามผ่าน ก็จะสั่งออร์เดอร์จากบ่อว่าต้องการปลาเบอร์เก่งนี้จำนวนเท่าไหร่ บางครั้งถ้าเก่งมากถึงกับต้องขอ “ปิดบ่อ” (หมายถึงขอเหมาทั้งบ่อห้ามขายให้คนอื่นอีกในบ่อนั้น) เมื่อคนจับปลามีปลาเก่งก็จะกระจายให้ลูกค้าที่ตัวเองรู้จัก ราคาขายก็จะบวกเพิ่มจากหน้าบ่อหรือถ้ายิ่งมีผลงานราคาก็ยิ่งแพง จากปลากัดหน้าบ่อตัวละ 60-80 บาท เมื่อเก่งจริง อาจขายที่ตัวละ 100 หรือ 3 ตัวพันธุ์ (ส่วนใหญ่เป็นลูกนอก จากมาเลเซีย อินโดนีเซีย) สำหรับลูกค้าที่ซื้อปลากัดเก่งเหล่านี้ไปก็จะนำไปเดิมพันในสนาม อัตราต่อรองก็แล้วแต่คู่ต่อสู้ ซึ่งการตีไก่ กัดปลาถือเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของคนไทยที่มีมาอย่างช้านาน

ภาพจาก bit.ly/2V368rL
 
สำหรับคนที่สนใจเพาะเลี้ยงหรืออยากหารายได้จากปลากัดก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และไม่ใช่แค่ปลากัดเก่งเท่านั้นวงการที่ใหญ่และได้การยอมรับมากกว่าคือปลากัดสวยงามที่ถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศไทยถึงกับมีประกาศจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ประกาศให้ “ปลากัดไทย” เป็นสัตว์น้ำประจำชาติอีกด้วย
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
ปลาหมอไทย เป็นปลาที่มีรสมัน เนื้อแน่น นุ่ม ก้างน้อย สามารถประกอบอาหารหรือแปรรูปได้หลากหลาย ทั้งต้มยำ แกง ทอด ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศ และส่งออก เป็นปลาที่มีความทนในสภาพที่มีน้ำน้อยหรือขาดน้ำ จึงสามารถขนส่ง และจำหน่ายในรูปปลาสดที่มีชีวิตในระยะทางไกลๆได้ โดยมีความต้องการในต่..
46months ago   1,983  6 นาที
การเลี้ยงแพะขายได้ทั้งเนื้อ นม หนัง และขน แต่การเลี้ยงแพะในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังขาดข้อมูลบางอย่างทำให้ผลผลิตได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น อีกทั้งการเลี้ยงแพะยังมีข้อดีที่น่าสนใจหลายอย่างเช่น การเลี้ยงแพะใช้ระยะเวลาสั้นกว่าการเลี้ยงวัว , แพะหากินเก่ง และกินใบไม้ได้หลายชนิด , แพะทนทานต่อทุกสภาพอากา..
46months ago   2,924  6 นาที
บทความสร้างอาชีพมาใหม่
บทความอื่นในหมวด