บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    รีวิวหนังสือ สปอยหนัง
1.7K
5 นาที
17 พฤศจิกายน 2563
#รีวิวหนังสือ คัมภีร์เล่มเล็กของคนคิดใหญ่ (The Little Book of Thinking Big)


 
รีวิวหนังสือ คัมภีร์เล่มเล็กของคนคิดใหญ่ (The Little Book of Thinking Big) เคยสงสัยบ้างไหมว่าทำไมบางคนถึงคิดค้นในสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ ทำไมคนดังระดับโลกหลายคนถึงได้ชื่อว่ามีแนวคิดพลิกโลก คนเหล่านี้เขานึกอะไรในสมอง คนเหล่านี้เขามีอะไรที่โดดเด่นแตกต่างไปจากคนทั่วไป คัมภีร์เล่มเล็กของคนคิดใหญ่ จะมาชี้ช่องทางแสดงให้เราเห็นว่าแท้ที่จริงทุกคนก็คือคนธรรมดาเพียงแต่เขามีกระบวนการลำดับความคิดที่ไม่ธรรมดาและนั่นคือจุดแตกต่างที่สำคัญ

หมวดหมู่ : จิตวิทยาพัฒนาตนเอง
ผู้เขียน : Richard Newton | ริชาร์ด นิวตัน
ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์



 
อย่าให้ความฝันของคุณสะดุดเพียงเพราะ  “ความคิด” ของคุณสั่งให้หยุดทำ
 
รีวิวหนังสือเล่มเล็กนี้เป็นคัมภีร์ของคน “คิดใหญ่” ซึ่งไม่เพียงมอบ “วิธีคิด” ที่จะช่วยให้คุณได้ทุกสิ่งที่ต้องการ แต่ยังมอบ “แรงกระตุ้น” ที่จะดันคุณให้ลุกจากเก้าอี้ทันทีที่อ่านจบ...แล้วลงมือทำสักที
 
เขาบอกกับผมว่า ถ้าเธอเดินเข้าหาพระเจ้าสองก้าว พระเจ้าจะทรงวิ่งเข้าหาเธอ
Life of Pi - ยานน์ มาร์เทล
 
สมองเป็นอวัยวะที่น่าอัศจรรย์สุดๆ มันเริ่มทำงานไม่หยุดตั้งแต่นาทีที่เราลืมตา จนกระทั่งตอนเราไปถึงที่ทำงานนั้นแหละ…
โรคเบิร์ต ฟรอสต์
 
รัสเซลล์
 
เซธ โกดิน นักเขียนชาวอเมริกัน 
ผู้คนจะยอมจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อแลกกับสิ่งที่คาดไม่ถึง สิ่งที่หายากและล้ำค่า
 
โรเบิร์ต ริดจ์เวย์
Color Standards and Color Nomenclature 
 
ออโต้จูน ถูกคิดค้นโดยนักธรณีวิทยา ผู้มีความสนใจด้านดนตรี เขาพบว่า ตัวเองสามารถเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง การปรับเปลี่ยนคลื่นความถี่ มาใช้ในการสร้างสรรค์งานเพลงได้
 
หรือคุณอาจ เอาแนวคิดเรื่อง จิตมนุษย์ และแม่แบบทางวัฒนธรรมของ นักจิตวิเคราะห์อย่างคาร์ล ยุงก์ ไปพัฒนาจนกลายเป็นทฤษฎีทางมนุษย์วิทยา ซึ่งอธิบายว่า ตำนานปรัมปราทุกเรื่องในโลกล้วนมีโครงเรื่องหลักเหมือนกัน
 
แต่ก่อนอื่นคุณต้องมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้เสียก่อนและหมายความว่า คุณต้องสนใจและกระหายใคร่รู้ถึงความเป็นไปในโลก

1. อย่าปล่อยตัวไปตามกระแส

 
  • บทเรียนชีวิตจากเพรียงหัวหอม
    • ตัวอ่อนเพรียง จะคล้ายกับ ลูกอ๊อด
    • หลังฟักออกมา จะว่ายไปทั่วทะเล หาอาหารและที่อยู่
    • เมื่อเจอโขดหิน หรือซากเรือเหมาะๆ ก็จะเกาะอยู่ตรงนั้น
    • จากนั้นก็จะไม่ไปไหนอีก อาหารก็สุดแต่ทะเลจะพามา
    • แล้วสุดท้ายเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้สมอง เพรียงหัวหอมก็จะกินสมองตัวเอง
       
  • สมองมนุษย์เหมืนหมูจอมตะกละ
    • มีน้ำหนักแค่ 1 ใน 50 ของน้ำหนักร่างกาย
    • แต่ใช้พลังงานถึง 1 ใน 5 ของพลังงานทั้งหมด
    • การส่งสัญญาณ 1 ครั้งเซลล์สมองต้องใช้พลังงานมาก
    • พอๆกับเซลล์กล้ามเนื้อขา ในการใช้ในการวิ่งมาราธอน
       
  • บทเรียนจากเพรียงหัวหอม คือ ถ้าไม่ใช้สมองก็จงกินมันซะ
     
  • พลังงานให้กำเนิดพลังงาน 
    • ไม่ว่าจะนำความคิดไปทิศทางไหน ชีวิตก็จะมุ่งหน้าไปทิศทางนั้น
       
  • ใครๆก็ทำได้
    • คนเราต่างมีวิธีการมองโลกของตัวเอง
    • การนำมาใช้ประโยชน์ต้องอาศัยการกระตุ้นความคิด
    • ยิ่งปรับวิธีคิดให้ถูกต้องได้เร็ว ก็จะยิ่งเข้าใจและประสบผลสำเร็จ
    • ต้องปรับความคิด ให้คิดใหญ่ขึ้น 
    • จะได้มาซึ่งการตัดสินใจ และความคิดที่ดีขึ้น
       
  • เดี๋ยวนะ นี่ฉันคิดอะไรอยู่
    • ตัวคุณคือกุญแจสำคัญ ไม่จำเป็นต้องเพิ่งพาสิ่งอื่น
    • เพียงแค่คุณต้องดึงศักยภาพของคุณออกมา
    • ต้องเริ่มต้นว่า วันนั้นคุณจะคิดอะไร 
    • เมื่อคุณใช้ความคิดกับสิ่งนั้น สิ่งนั้นก็จะนำทางชีวิตคุณ
    • พยายามฉุกคิดว่า เดี๋ยวนะ นี่ฉันคิดอะไรอยู่ ให้เป็นนิสัย
    • การควบคุมความคิด หมายถึง การไม่ปล่อยให้สมองคิดโดยอัตโนมัติ รวมถถึง ไม่ตอบสนองต่ออุปสรรคโดยไม่คิด
    • ยิ่งควบคุมความคิดของตัวเองได้มากเท่าไหร่ ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้นมากเท่านั้น
       
  • วันจันทร์แห่งการเริ่มใหม่
    • วันแรกหลังจากหยุดยาวปีใหม่ทุกคนมีความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลง แต่ไม่นานก็จะถูกทุกอย่างรุมเร้าจนค่อยๆลืมไป
       
  • เพรียงหัวหอมกินสมองตัวเอง
  • ชีวิตประกอบขึ้นจากสิ่งที่เราคิดในแต่ละวัน
  • การจดจ่อกับภาพรวมและสิ่งสำคัญต้องอาศัยการฝึกฝน
     
  • การหยุดคิดเป็นเรื่องง่าย
    • กรุงแบกแดดเคยเป็นเมืองหลวงทางปัญญาของโลก
    • แต่ในศตวรรษที่ 12 นักเผยแผ่ศาสนา ฮามิด อัล กาซาลี ประกาศว่า คณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ และฟิสิกส์ขัดแย้งกับคำสอนศาสนาอิสลาม
    • นั้นคือ จุดจบของกรุงแบกแดด ในฐานะศูนย์กลางความก้าวหน้า
    • เพียงเพราะศาสนาเข้ามาแทนที่การค้นคว้า
    • คัมภีร์เข้ามาแทนที่วิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์
       
  • บทเรียนที่สองจากเพรียงหัวหอม
    • หากใช้ชีวิตโดยไม่ใช้สมองคุณก็จะถูกกลืนสมองไปในที่สุด
       
  • ข้อคิดจากนิทาน ฝูงหมูป่าแห่งบึงโอกีฟีโนกี
    • ชายแปลกหน้าหันไปใช้วิธีใหม่จึงประสบความสำเร็จ
    • พวกหมูเลิกใช้สมอง จึงไม่ทันสังเกตว่าตัวเองถูกล้อมรั้วและโดนจับ
2. ทำหัวให้โล่ง
  • วังวนขยะในหัว
    • เต็มไปด้วย ความคิดเห็นของคนอื่น แรงกดดันในการทำงาน ข่าวลือ ธุระจุกจิก ความกลัว และอคติต่างๆ
    • หากอยากดึงศักยภาพออกมาใช้ ต้องค้นหาเป้าหมายของคุณหรือต้องเข้าใจตัวเองเสียก่อน คืออะไร
       
  • เป้าหมายที่แท้จริง
    • การรู้ว่าสิ่งใดสำคัญกับคุณจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรทุ่มเทพลังงานไปที่ไหน 
    • คุณแค่ต้องการทิศทางที่แน่ชัดเพื่อค้นหาว่าอะไรคือสิ่งสำคัญอย่างแท้จริง หมายความว่าในหัวของคุณต้องมีพื้นที่โล่งเสียก่อน
       
  • อย่าตกอยู่ในวังวนของการคิดที่คับแคบ
    • การหลงวนเวียนในเรื่องเรื่อยเปื่อยเป็นเรื่องง่าย
    • แต่คุณนั้นแหละที่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น
    • วังวนขยะในสมองจะกัดกินเวลาที่คุณควรใช้กับสิ่งสำคัญ
       
  • ฝูงแกะชั้นยอด
    • คุณกำลังทำเพื่อเป้าหมายของตัวเองอยู่รึเปล่า?
       
  • ศาสตร์แห่งการใคร่ครวญและมองเห็นคุณค่า
    • ชีวิตผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่หยุดแล้วมองไปรอบๆ คุณอาจจะพลาดอะไรไป
    • เราแทบไม่เคยหยุดนิ่งหรือใคร่ครวญถึงความน่าอัศจรรย์ของชีวิตและจักรวาล และนั้นคือ ความผิดพลาด เพราะการได้ครุ่นคิดว่าสิ่งใดสำคัญต่อเราอย่างแท้จริง เป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต
    • การคิดใหญ่ > ใคร่ครวญว่าสิ่งใดสำคัญ > ทุ่มเทพลังงานไปกับสิ่งนั้น > รักทุกนาทีในชีวิต
    • หากไม่พยายามอย่างจริงจัง เราจะไม่ตระหนักถึงความน่าอัศจรรย์ของชีวิตและสิ่งสำคัญต่างๆ เหมือนกับปลาที่ไม่ตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ
       
  • สิ่งสำคัญไม่อาจวัดเป็นตัวเลข
    • 1. แม้การวัดค่าเป็นตัวเลขจะมีประโยชน์ แต่มันไม่สามารถวัดความซับซ้อนของประสบการณ์มนุษย์ได้
    • 2. ถ้าโลกหมุนตามสิ่งที่วัดค่าเป็นตัวเลขได้ ความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ก็จะมีความสำคัญมาก
    • 3. โดยทั่วไปงานของนักเศรษฐศาสตร์คือการจัดการกับตัวเลข พวกเขาย่อมอยากรู้ว่าสิ่งใดวัดค่าเป็นตัวเลขได้ ชีวิตยังมีอะไรมากกว่าทรัพย์สินเงินทอง
       
  • ลัทธิบ้างาน
    • แนวคิดที่ว่าการทำงานเป็นความดีนั้นถือเป็นรากฐานของลัทธิบ้างานเลยกว่าว่าได้
       
  • งูลอกคราบหลังจากงูลอกคราบแล้ว มันจะใช้ชีวิตต่อไปสักพักและเมื่อมันโตขึ้นก็จะลอกคราบอีกครั้ง
    • ความคิดต่างๆ ล้วนเป็นผลลัพธ์จากประสบการณ์ชีวิต ถ้าคุณหลบหลีกขยะทางความคิดทั้งหลายพ้น คุณก็จะได้ปลดปล่อยจิตนาการของตัวเองให้โลดแล่น
    • การใช้ประโยชน์จากความคิดต้องอาศัยความกล้าหาญ ความมุ่งมั่นและการฝึกฝน แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นคุ้มค่า
       
  • ไม่มีใครรักของปลอม
    • ความไม่สมบูรณ์แบบ ลักษณะเฉพาะตัว และอารมณ์ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านบทเพลง ทำให้เราหลงรักนักร้อง และเสียงของพวกเขา การใช้ออโต้จูนจึงเหมือนการหลอกลวง และดูปลอม
    • ดังนั้นการคิดใหญ่ พวกเขาจะไม่ลอกเลียนคนอื่น แต่จะพยายามเป็นตัวของตัวเอง
    • ไม่มีใครชอบของปลอม เราไม่ให้คุณค่าเพราะมันไม่มีความพิเศษ

3. เติมสิ่งดีๆใส่สมอง

 
  • สนใจแค่ทฤษฎีอย่างเดียวไม่พอ ต้องสนใจภาคปฏิบัติด้วย
  • ความสำเร็จไม่มีทางเกิดขึ้นได้หากไม่มีการทุ่มสุดตัวให้กับสิ่งที่หลงใหล
  • คุณไม่มีทางเป็นคนน่าสนใจได้ ถ้าคุณไม่มีความสนใจในสิ่งใดเลย
  • ยิ่งมีรากฐานให้ปีนป่ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งไปได้ไกลเท่านั้น
     
  • เมนูสำหรับสมอง
    • ความรู้
    • ความหลงใหล
    • บุคคลต้นแบบ
    • อาจารย์
    • การอยู่ว่างๆ
    • คู่แข่ง
    • ความสันโดษ
    • การถกเถียงและการคิดต่าง
    • การติดใคร่ครวญ
       
  • เราไม่ใช่ผืนผ้าว่างเปล่า
     
  • ย่ามสารพัดนึกของเทพโฮเตอิ
    • เทพเจ้าแห่งโชคลาภของญี่ปุ่น
       
  • สำรวจให้กว้างและดำดิ่งให้ลึก
     
  • หยุดพักสักครึ่งนาที
    • เพื่อทบทวนสิ่งต่างๆและเลือกว่าสิ่งไหนสำคัญ
       
  • ใส่ผู้คนลงไปในย่ามของคุณด้วย เปิดรับไอเดียที่หลากหลายแล้วต้องพาตัวเองไปอยู่กับกลุ่มคนที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้คุณก้าวไปได้ไกลขึ้น
    • 1. มองหาต้นแบบ
    • 2. มองหาความเห็นต่าง
    • 3. อยู่ท่ามกลางมาตรฐานสูงๆ
    • ส่วนผสมวิเศษ การอยู่ว่างๆ
      • การทำสมาธิ
      • การคิดเรื่อยเปื่อย
         
  • ยิ่งคุณพาตัวเองไปซึมซับจากต้นแบบเก่งๆ และไอเดียดีๆ คิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง และใช้ชีวิตด้วยความ สนอกสนใจและกระตือรือร้นมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งมีของขวัญที่จะมอบให้โลกใบนี้มากขึ้นเท่านั้น
     
  • เม่นแคระกับสุนัขจิ้งจอก
    • สุนัขจิ้งจอกมีวิธีมากมายในการหลบหนีจากผู้ล่า
    • ส่วนเม่นแคระนั้นวิ่งช้า มันมีวิธีเดียวนั้นคือการม้วนตัวเป็นลูกบอลหนาม
    • สุนัขจิ้งจอกทำหลายสิ่งได้ค่อนข้างดี ส่วนแม่นแคระทำสิ่งเดียวได้ดีมากๆ
    • จิ้งจอกรู้รอบ เม่นแคระรู้จริง
    • วิธีคิดแบบเม่นแคระจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องเดียวเพิ่มโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จในเรื่องนั้น
    • วิธีคิดแบบจิ้งจอกมีความหลากหลาย จะทำให้คุณมีทางเลือกมากขึ้น

4. หูตาต้องไว
  • เรียนรู้ที่จะจับสังเกต เมื่อมีบางสิ่งกำลังเกิดขึ้น
  • แค่ต้องรู้ว่ากำลังมองหาอะไร แล้วคุณจะรู้ได้ทันทีที่สิ่งนั้นเกิดขึ้นซึ่งสิ่งนั้นก็คือความรู้สึกสะกิดใจว่ามีอะไรแปลกๆ และควรค่าแก่การคิดทบทวน
  • การจะสังเกตเห็นและใช้ประโยชน์จากมันถือเป็นทักษะอย่างหนึ่ง สิ่งที่คุณต้องทำคือเปิดใจให้กว้าง 
  • การสังเกตเห็นไอเดียและวิธีแก้ปัญหานั้นยากกว่ามาก
     
  • ดึงออกมาให้ได้
    • เมื่อไอเดีย หรือเรื่องแปลกเกิดขึ้น หยุดทำทุกอย่างเดียวนี้ ปล่อยให้สมองขบคิดว่าอะไรที่แปลก อะไรที่ซ่อนอยู่ หรือจะนำมาใช้ได้อย่างไร
    • หยุดสิ่งรบกวน คำตอบก็คือ คุณต้องหนีจากวังวนขยะ ถ้าอยากสังเกตเห็นสิ่งต่างๆ คุณต้องเลิกจดจ่อกับความคิดที่วุ่นวายรกสมอง
    • ความเบื่อหน่ายช่วยให้ไอเดียต่างๆผุดขึ้นมาได้
    • สิ่งที่ยอดเยี่ยมทั้งหลายมักเป็นผลมาจากความเบื่อหน่าย นำไปสู่การคิดใหญ่ในเรื่องที่เหนือความคาดหมาย
    • การสร้างภาวะที่น่าเบื่อหน่าย ช่วยให้ผู้คนคิดอะไรแปลกใหม่ได้มากขึ้น
    • ช่างสังเกตให้เหมือนนักดนตรี
    • จดไอเดียลงไป เมื่อมีไอเดียดีๆ รีบจดมันลงไป
       
  • หนีจากระบบ
    • ช่วงเวลาที่คุณค้นพบว่าเพียงแค่เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสถานการณ์ต่างๆ คุณก็จะเจอหนทางใหม่ที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมาย หรือใช้ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่
 
5. อย่าปฏิเสธความจริง แต่จงเปลี่ยนมันให้ได้

 
  • ต่อต้านไปก็ไร้ประโยชน์ ปฏิกิริยาที่มนุษย์มีต่อเทคโนโลยีอยู่ใต้กฎ 3 ข้อนี้
    • 1. สิ่งที่มีอยู่แล้วตอนเกิดมา ดูเป็นสิ่งปกติธรรมดา
    • 2. สิ่งที่ถูกสร้างตอนอายุ 15-35 ดูเป็นสิ่งแปลกใหม่
    • 3. สิ่งที่ถูกสร้างหลังอายุ 35 ปี จะเป็นสิ่งฝืนธรรมชาติ
    • ความรู้สึกต่อต้านเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันจะไม่พาคุณไปไหนไกล
       
  • จะไปทางไหนดี
    • คนที่ต่อต้านจะบอกว่า ฉันไม่ต้องการสิ่งนี้
    • คนที่ยอมรับจะบอกว่า ลูกดูสักตั้ง
    • การต่อต้าน นำไปสู่การหยุดชะงัก และทำให้เสียพลังงานมากโดยเปล่าประโยชน์
    • การยอมรับ จะช่วยตั้งเป้าหมายบนรากฐานอันมั่นคงและก้าวหน้าไปได้ไกลกว่า
       
  • จะชนะได้ไม่ต้องถอดใจ
    • เมื่อมีไอเดียใหม่ๆขึ้นมา อย่าเพิ่งทำอะไรนอกจากคิดต่อสักครึ่งนาที จากนั้นอีกครึ่งนาทีจดมันลงไป
    • เวลาที่ต้องหยุดชะงักเพราะปฏิกิริยาที่คนอื่นมีต่อไอเดียของคุณหรือเพราะคุณนึกสงสัยตัวเองขึ้นมา ให้ลองคิด พิจารณา ยอมรับแก้ไข
    • หลังจบประขุมทุกครั้ง ใช้เวลา 1 นาทีจดบันทึกสิ่งที่สังเกตเห็นหรือสิ่งที่ได้รับ

6. ทั้งถ่อมตนและหลงตัวเอง
  • ทำตัวเป็นมือสมัครเล่น 
    • มือสมัครเล่นเท่านั้นที่เป็นผู้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ และดินแดนใหม่ๆ
    • วิทยาศาสตร์คือการเชื่อในความไม่รู้ของผู้เชี่ยวชาญ
    • การคิดโดยใช้ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่าในโลกนี้ไม่มีทฤษฎีใดที่ถูกต้องเสมอไป
    • หากจะให้ถูกต้องตามวิทยาศาสตร์ ทฤษฎี ก็คือ สมมุติฐานที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริงเสมอ
       
  • เสาะหาอุปสรรค 
    • อุปสรรคคือจุดเริ่มต้นสู่แรงบันดาลใจ
    • คุณต้องสู้เพื่อสิ่งที่คุณเชื่อและสร้างสรรค์ขึ้นมา
    • กล้าที่จะยืนหยัดเพื่อความคิดของคุณ และถ่อมตัวพอที่จะยอมรับเมื่อตัวเองเป็นฝ่ายผิด
       
  • ใครคาดการณ์แม่นยำที่สุด
    • คนที่มีอาการซึมเศร้าขั้นรุนแรง คาดการณ์เลวร้ายเกินจริง
    • คนที่มีอาการซึมเศร้าเล็กน้อย คาดการณ์ได้ค่อนข้างแม่นยำ
    • คนที่มีอาการซึมเศร้าขั้นรุนแรง คาดการณ์ดีเกินจริง
    • การมองโลกแง่ดี คือ การไม่ยอมรับความจริง

7. ใช้ของดีในตัว

 
  • คิดแบบเป็นขั้นตอนกับคิดแบบอิสระ
    • ต้องรู้ว่า เวลาไหนควรจดจ่อความคิด และเวลาไหนควรปล่อยให้จิตใต้สำนึกทำงาน
    • ไอเดียใหญ่ๆ มาจากของสองสิ่ง
      • 1. แรงบันดาลใจ ความหลงไหล
      • 2. การคิด และทำอย่างเป็นขั้นตอน
    • คุณต้องรู้ว่ามีของดีในตัว และรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรใช้มัน
       
  • สับสวิตช์
    • สมองคนเราจะสลับไปมาระหว่างการคิดแบบเป็นขั้นตอน กับการคิดแบบอิสระ แต่จะใช้ความคิดแบบใดก่อนขึ้นอยู่กับว่าคุณแก้ปัญหาไปถึงไหนแล้ว

8. กำจัดตัวถ่วง
  • ตรวจสอบความเชื่อของคุณให้ดี
    • คนเราจะยอมโดนผูกมัด ก็ต่อเมื่อเราเชื่อว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้ว
       
  • ระวังอย่าสับสน
  • ระวังความเสมอต้นเสมอปลาย เพราะมันทำให้คุณมีความคิดที่คับแคบ
  • โยนคู่มือทิ้งไป มองหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ
  • เมื่อไหร่ที่มนุษย์โยนความคิดแย่ๆทิ้งไป แล้วลงมือใช้ความคิดกับเรื่องต่างๆอย่างแท้จริง เราจะมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิดมากนัก
     
  • เคล็ดลับที่ช่วยให้มองเห็นอย่างชัดเจน
    • มองในมุมมองของคนนอก

9. โดนใจ
  • ถ้าไม่โดนใจก็ไร้ความหมาย
    • หากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ได้ ไอเดียของคุณต้องโดนใจ
       
  • เมื่อมันโดนใจคุณ ต้องตรวจสอบไอเดียนั้นว่าเป็นไปตามเงื่อนไขรึเปล่า
    • 1. คุณมั่นใจว่าไอเดียสะท้อนถึงสิ่งที่ต้องการจริงๆ
    • 2. ไอเดียตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
    • 3. จะสามารถทำให้ไอเดียนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้
       
  • เมื่อมันโดนใจคนอื่น
    • ความรู้สึกเชื่อมโยงของไอเดียมีจะเติบโตและขยายใหญ่ขึ้น
       
  • เล่าเรื่องของคุณ
    • หากต้องการให้คนอื่นๆ รู้สึกเชื่อมโยงกับสิ่งที่คุณคิด คุณต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นนักเล่าเรื่องเสียก่อน
       
  • อย่าต้านแรงลม
    • ความคิดของคุณก็เหมือนเรือ มันต้องการแรงหนุนที่จะช่วยส่งให้ถึงเป้าหมาย
    • เมื่อคุณพยายามคิดให้ใหญ่ขึ้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือคำวิจารณ์ที่มีประโยชน์
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
793
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
710
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
641
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
522
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
441
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
421
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด