บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การขาย
2.1K
2 นาที
10 กุมภาพันธ์ 2564
7 เทคนิคโคตรเจ๋ง! ร้านค้าเพิ่มยอดขาย 10 เท่า


หลักการให้ร้านค้าขายดีมี 2 เรื่อใหญ่ๆคือ มีลูกค้าเข้ามา 100 คนเราปิดการขายได้กี่คน ? และ ลูกค้าที่ซื้อสินค้ากับเราทำให้เขาซื้อได้กี่ชิ้น? แค่ 2 เรื่องนี้ที่พูดง่าย แต่ให้ทำจริงมันยาก เนื่องด้วยปัจจัยหลายด้านเข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งตอนนี้ไม่ต้องพูดถึง รายได้ของคนลดน้อยลงมาก รายจ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นเขาก็จะไม่จ่าย ยิ่งทำให้การขายของเรานั้นยากมากขึ้น เรื่องที่จะขายของให้ได้มากๆ เพิ่มเป็น 10 เท่า หลายคนบอกว่า “เพ้อเจ้อ”

แต่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่ายังมีโอกาสทำได้จริง เพียงแต่สินค้าและผู้ขายต้องจับจุดการตลาดให้เป็น รู้จักใช้การตลาดให้เข้าถึงลูกค้า เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส คำว่าขายของดีเพิ่มเป็น 10 เท่าจึงเป็นสิ่งที่ยังทำได้แต่ต้องใช้ความพยายามให้มาก ร่วมกับ 7 วิธีการที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
 
1.ส่งเสริมการขายด้วยของรางวัล
 
ภาพจาก facebook.com/7ElevenThailand/

กลยุทธ์นี้เอาตัวอย่างมาจากร้านสะดวกซื้อที่เราคิดว่าได้ผลดียิ่งไม่ว่าจะโลตัสเอ็กเพรส หรือ 7-Eleven ที่ใช้วิธีซื้อของและสะสมแสตมป์สำหรับแลกสินค้าพรีเมี่ยม ซึ่งดูไปดูมาบางสินค้าที่แลกหากเอาเงินไปซื้อจริงๆ อาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำ แต่ด้วยความรู้สึกของคนที่ว่า ไงฉันก็ต้องซื้ออยู่แล้ว สินค้าพรีเมี่ยมเหล่านี้ถ้าได้ก็คือการคืนกำไรที่เราซื้อไป แต่ในความเป็นจริงหากอยากได้สินค้าพรีเมี่ยมนั้น ๆเราอาจจะซื้อสินค้าจากร้านมากกว่าปกติ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร้านค้าเหล่านี้มียอดขายเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
 
2.Plus Sales 
 

ภาพจาก facebook.com/7ElevenThailand/

ยังอยู่กับตัวอย่างใน 7-Eleven ซึ่งวิธี Plus Sales คือการนำเสนอขายสินค้าเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการ อาศัยหลักว่าหากหนึ่งครั้งเพิ่มยอดขายได้ 5 บาท วันหนึ่งมีลูกค้า 100 คน ก็เพิ่มยอดขายได้ 500 บาท ซึ่งการ Plus Sales อาจดูว่าเป็นการเพิ่มที่ไม่มาก แต่ลองคำนวณดูว่าแต่ละเดือนหากทำได้วันละ 500 หนึ่งเดือนก็มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 15,000 บาท ดังนั้นอย่าแปลกใจที่เราจะได้ยินทุกทีตอนคิดเงินว่า รับสินค้าตัวนี้ตัวนั้นเพิ่มด้วยไหมคะ มาใหม่นะคะ ลองไหมคะ นี่คือเทคนิคการเพิ่มยอดขายล้วนๆ
 
3.กิจกรรม Sale
 

คำว่า Sale ยังมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ หากไม่เชื่อลองจัดกิจกรรมนี้ ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าร้านเราพร้อมจะ Sale ตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน แน่นอนว่าเราไม่ได้ลดราคาสินค้าทุกชนิด มันจะมีสินค้าบางชนิดเท่านั้นที่เราลดราคา สิ่งสำคัญคือเราต้องแจ้งลูกค้าว่าสินค้าที่เราลดราคามีอะไรบ้าง เทคนิคการลดราคาก็ต้องดูว่าสินค้าไหนที่เราต้องการเคลียร์สต็อคหรือเป็นสินค้าที่เก็บไว้ก็ไม่ทำให้เกิดรายได้ นำมาSale เพื่อดึงเงินเข้าร้านได้บางส่วน แต่ความหมายที่แท้จริงเมื่อลูกค้ามาซื้อของ Sale บางส่วนก็จะซื้อสินค้าชนิดอื่นที่ไม่ได้ลดราคาติดไม้ติดมือไปด้วย และนั่นคือส่วนที่จะทำให้เรามียอดขายเพิ่มขึ้นด้วย
 
4.การตลาดแบบเหยื่อล่อ
 

วิธีการง่ายๆ คือ ตั้งราคาขายสินค้าบางอย่างให้ถูกมากๆ โดยอาจจะมีการจำกัดจำนวนซื้อ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความอยากไปซื้อสินค้าราคาถูกพิเศษนั้น แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อลูกค้าเข้ามาถึงร้านย่อมไม่ได้มาซื้อแค่สินค้าลดราคาอย่างเดียวแน่ ยังมีสินค้าอื่นๆที่ลูกค้าจะซื้อกลับไปด้วยแบบไม่ลดราคา ถ้านึกภาพไม่ออกกลยุทธ์นี้ Tesco Lotus ,Big C เขานิยมใช้อยู่บ่อยๆ
 
5.ยิ่งแปลกยิ่งขายดี
 

รูปแบบการขายก็เป็นการจุดกระแสความสนใจให้คนแย่งซื้อได้เช่นกัน โดยเฉพาะในยุคการตลาดออนไลน์แบบนี้อะไรที่แปลกแตกต่างแค่ข้ามคืนเดียวคนก็รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง ยกตัวอย่างล่าสุดกับร้านเครื่องดื่มชาลึกลับที่มาเปิดจำหน่ายย่านลาซาล จุดเด่นคือเมื่อมาถึงหน้าร้านต้องโทรสั่ง และคนซื้อจะไม่เห็นหน้าคนขาย ถามว่ารสชาติเครื่องดื่มแตกต่างแค่ไหน คำตอบคือไม่แตกต่างแต่ทำไมคนยอมมาต่อแถวซื้อยาวเหยียดก็เพราะต้องการลิ้มรสการขายที่แปลกใหม่นี่เอง รวมถึงการตั้งชื่อร้านแปลกๆ ก็มีส่วนเพิ่มยอดขายและดึงดูดลูกค้าเช่น “แล้วแต่..กะเพราะระดับโลก..เฮ้ย” หรือ “ร้านกาแฟ ชงเอง กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็ทิ้งไป” เป็นต้น
 
6.กระหน่ำโปรโมทด้วยแสงสีเสียง
 

ลงทุนกับการโปรโมทดึงดูดลูกค้าได้แน่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลร้านค้าควรจัดหนัก จัดเต็ม แสง สี เสียง ถ้าจะให้ดีวิ่งรถประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักกันมากยิ่งขึ้น แม้ร้านเราจะเปิดมานานและมีคนรู้จักมาบ้าง แต่การสร้างสีสันใหม่ๆ ก็ทำให้ร้านเราดูน่าสนใจ แน่นอนว่าช่วยเพิ่มยอดขายได้ดีขึ้นกว่าเดิมแบบคาดไม่ถึงทีเดียว
 
7.เพิ่มยอดขายด้วย “ขนาด”
 

สังเกตได้ว่าหากสินค้าเรามี “ขนาด” ที่ไม่ธรรมดา ส่วนใหญ่คนจะนิยมมาก โดยเฉพาะในบรรดาร้านอาหารที่ง่ายมากกับการใช้เทคนิคนี้ ไม่ว่าจะเป็น หมูปิ้งยักษ์ ผัดกระเพราจานยักษ์ ข้าวมันไก่ยักษ์ ฯลฯ แม้ต้นทุนของอาหารเหล่านี้จะต้องมากขึ้นแต่เราก็สามารถขายในราคาที่สูงขึ้นได้ และเราอาจจำกัดจำนวนว่ามีกี่ชิ้น กี่จาน/วัน ใครที่สนใจก็ต้องมาให้ทันกับปริมาณสินค้าที่มี ซึ่งบางคนมาที่ร้านก็อาจไม่ได้สั่งเมนูพิเศษนี้ แต่สั่งอาหารธรรมดาแทน รวมถึงการมีเมนูพิเศษๆก็ทำให้เราจัดกิจกรรมพิเศษสร้างสีสันได้ เช่น การแข่งกิน เป็นต้น ซึ่งกระแสที่ดึงดูดคนมานี้ ย่อมทำให้เรามียอดขายมากขึ้นด้วย
 
ทั้งนี้การทำธุรกิจที่หวังให้ลูกค้าแห่กันมาซื้อสิ่งสำคัญคือเราต้องมองระยะยาวไม่ใช่แค่ดึงดูดคนในระยะสั้นเมื่อลูกค้ามาแล้วจะทำอย่างไรให้เขาประทับใจและกลับมาเป็นลูกค้าประจำของเรา นั่นคือตรรกะที่เราควรคิดไม่ใช่แค่อยากสร้างรายได้วันต่อวัน ธุรกิจที่มั่นคงแข็งแรงต้องรู้จักการสร้างลูกค้าให้มากขึ้นและทำให้ภักดีต่อแบรนด์แบบที่ไม่อยากเปลี่ยนแปลงไปซื้อเจ้าอื่นได้อีก
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
749
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
691
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
629
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
501
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
425
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
416
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด