เตรียมไว้ มาแน่! ร้านค้า SMEs อยากเปิดรับชําระด้วย bitcoin ต้องทำยังไง
 

ต้องยอมรับว่ากระแสของการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency กำลังมาแรงอย่างมากตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 เป็นต้นมา เพราะหลายคนมองว่าสามารถเพิ่มมูลค่าได้มหาศาลในอนาคต อีกทั้งยังสามารถใช้แลกเปลี่ยนหรือชำระค่าสินค้าและบริการได้ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของบรรดาร้านค้าต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างมาก 
 

ล่าสุดแฟรนไชส์ร้านกาแฟอินทนิล ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ประกาศรับชำระค่าเครื่องดื่มกาแฟด้วย Cryptocurrency ประเดิมเริ่มต้น 21 สาขา เริ่มวันที่ 1 ธ.ค. 2564 ถือเป็น Chain Store Coffee ที่รับชำระค่าสินค้าด้วยคริปโตฯ รายแรกในเมืองไทย โดยสกุลเงินดิจิทัลที่รับชำระในครั้งนี้ ได้แก่ บิตคอยน์ (Bitcoin/BTC), อีเทอเรียม (Ethereum/ETH) และเทเทอร์ (Tether/USDT) ผ่าน บิทาซซ่า (Bitazza) Digital Asset Platform รายแรก ที่แปลงคริปโตฯ เป็นเงินบาท ทำให้ร้านค้าสามารถรับรู้รายได้ที่แน่นอน ไม่ผันแปรไปตามอัตราแลกเปลี่ยน
 

ภาพจาก bit.ly/3ljahrq

 

นอกจากนี้ ยังมีแฟรนไชส์เครื่องสำอางชั้นนำของไทย “บิวตี้เซนเตอร์ (บีโค้)” แฟรนไชส์ออนไลน์ขายเครื่องสำอางความสวยงามทุกชนิด ประกาศรับชำระค่าซื้อแฟรนไชส์ หรือ สินค้าด้วยเงินดิจิทัล Cryptocurrency โดยสามารถใช้เหรียญดิจิทัลได้ทุกสกุล เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายพร้อมก้าวสู่ยุคสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) อย่างเต็มรูปแบบ 

 

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าท่านใดอยากเพิ่มช่องทางการขาย ด้วยการรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วย Cryptocurrency วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีวิธีการมานำเสนอให้ทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวสู่สังคมไร้เงินสด
 

อยากเปิดรับชําระด้วย bitcoin ต้องทำยังไง
 

ภาพจาก https://bitcoin.org/en/

สำหรับร้านค้าต่างๆ ที่อยากรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วย Cryptocurrency ก็สามารถเข้าสู่ระบบได้ง่ายๆ เนื่องจากในประเทศไทยมีตลาดค้าขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับใบอนุญาตจากทางภาครัฐอย่างถูกต้องมากมาย และการรับเหรียญสกุลดิจิทัลก็สามารถนำมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท และถอนออกได้ง่ายๆ เพียงการกดขายใน Bitkub Exchange หรือผู้ให้บริการรายรายอื่นๆ 
 

ในปัจจุบันได้มีเว็บไซต์สำหรับให้บริการในการเป็นตัวกลาง “เปรียบเทียบและแปลงค่าเงิน” โดยผูกปลายทางที่รับชำระเงินไว้กับคริปโทวอลเล็ตของร้านค้าอีกด้วย ซึ่งตัวกลางเหล่านี้ก็มีผู้ให้บริการค่อนข้างหลากหลายและจำนวนเหรียญที่รับก็แตกต่างกัน  โดยปัจจุบันมีเว็บไซต์ตัวกลางในการชำระเงินที่มี “คู่เงินบาท” อาทิ https://bitcoin.org/en/, https://www.omise.co/, https://bitpay.com/ 
 

 

ภาพจาก https://bitpay.com/ 

แต่ถ้าผู้ประกอบการร้านค้าไม่อยากใช้ตัวกลางในการรับชำระเงิน Cryptocurrency ก็สามารถใช้ Wallet Address ของกระเป๋าในการรับชำระได้ แต่ควรใช้กับ Stable coin (เหรียญมูลค่าคงที่) เช่น สกุลเงินหลักที่ใช้ดอลลาร์ ผู้ประกอบการสามารถรับชำระเงินด้วยเหรียญ USDT แทนการรับชำระเงินแบบปกติได้ หรือถ้าต้องการรับชำระด้วยสกุลเงินดิจิทัลที่ค่อนข้างหลากหลาย ควรเลือกรับชำระเป็นสกุลเหรียญที่คนนิยมเทรดจะปลอดภัยที่สุด 
 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาหากทางร้านค้าต้องการเลือกสกุลเงินดิจิทัล อาทิ BTC , ETH , XZC , XLM เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ผู้ประกอบการร้านค้าควรเลือกใช้บริการ Payment Gate way ของผู้ให้บริการในตลาดที่ได้รับความนิยมอย่าง Bitkub, Binance, Zipmex หรือ Bitazza ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะทางผู้ประกอบการณ์หรือโบรคเกอร์เหล่านี้ จะสามารถเลือกสกุลเหรียญดิจิทัลที่ต้องการรับ รวมถึงคู่แพร์มูลค่าเหรียญได้โดยตรง

ภาพจาก www.freepik.com/

 

เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้มีความผันผวนของราคาสูง ผู้ให้บริการ Payment Gate way จึงมีบทบาทเข้ามาอำนวยความสะดวก โดยทำการคอยแสดงมูลค่าของจำนวนเหรียญที่ต้องจ่าย โดยเทียบมูลค่าจริงๆ ของสินค้าที่ลูกค้าซื้อ 
 

โดยเมื่อลูกค้าเลือกสกุลเงินดิจิทัลที่ต้องการและจ่ายเงิน ระบบจะทำการคำนวณราคาที่จ่ายเทียบกับราคาเหรียญ ณ เวลานั้นจริงๆ ต่อจากนั้นระบบทำการโอนเหรียญที่ได้รับเข้าสู่ Wallet ของร้านค้าที่ทำการผูกไว้
 

หลังจากนั้นร้านค้าสามารถนำเหรียญเหล่านั้นแลกออกมาเป็นบาทได้ โดยการขายตามกระดานเทรดในไทยเพื่อแลกกลับเป็นเงินบาท ดังนั้น การเปิดบริการรับชำระด้วยเงินสกุลดิจิทัลเหล่านี้สามารถทำได้ง่ายและสะดวกสบาย แต่ผู้ประกอบการร้านค้าควรศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขวิธีการใช้บริการ Payment gateway แต่ละรายอย่างถี่ถ้วนก่อนการใช้งาน

• เข้าสู่หน้าสมัคร https://bitazza.com/signup หรือ กดตรงนี้
• กรอก email ที่ใช้งานจริง
• ตั้งรหัสผ่าน ซึ่งประกอบด้วย ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่-เล็ก ตัวเลข และ  อักขระพิเศษ เช่น @#$%
• กดปุ่ม ‘ ลงทะเบียน ‘
• เข้าไปยัง email ที่ใช้ลงทะเบียน เข้า email ที่ bitazza ส่งมา แล้วกดลิ้งค์ ‘ ยืนยันแอคเคาท์ ‘
• เสร็จการสมัครเบื้องต้น ต่อไปเป็นการยืนยันตัวตน KYC

• สิ่งที่ต้องเตรียม บัตรประชาชน , โทรศัพท์มือถือ
• เข้าสู่หน้ายืนยันตัวตน KYC : https://kyc.bitazza.com (ให้เข้าด้วยโทรศัพท์มือถือ เพราะต้องใช้ในการถ่ายรูป)
• ใส่ email และ รหัสผ่านที่เราได้ทำการลงทะเบียนไว้ที่ส่วนที่ 1 เพื่อทำการเข้าสู่ระบบ
• ระบบจะเข้าสู่ขั้นตอนการถ่ายรูปบัตรประชาชนด้าหน้า ด้านหลัง และถ่ายรูปเซลฟี่ (ให้ทำตามที่ระบบแนะนำได้เลย ระบบ KYC ของเขาดีมากครับ)
• ระบบจะดึงข้อมูลของเราจากรูปมากรอก ในแบบฟอร์มให้เอง (ให้เราตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ต้องเป็นข้อมูลเดียวกันกับในบัตรฯ) สะดวกสุดๆ
• ตอบแบบสอบถามข้อมูลส่วนตัวและการเงิน เพื่อความปลอดภัยและโปร่งใส
• เมื่อส่งข้อมูลยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว ให้รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยจะแจ้งผลทาง email

 
ต้องจับตาดูว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจจะได้เห็นการซื้อขายธุรกิจ SMEs การซื้อสินค้าและบริการ การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ การเซ้งกิจการ โดยใช้เหรียญคริบโตมากขึ้น และอาจไปถึงการซื้อธุรกิจแฟรนไชส์มาลงทุนด้วยเหรียญดิจิตัลในประเทศไทย ซึ่งในสหรัฐอเมริกาก็เริ่มมีการซื้อขายกันบ้างแล้ว

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

อ้างอิงข้อมูล 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)