บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
953
2 นาที
17 มกราคม 2566
สร้างรายได้ 3 ทาง VS สร้างรายได้ทางเดียว แบบไหนดีสุดในยุคนี้
 

จากกระแสดราม่าในสัปดาห์ที่ผ่านมากรณีที่มีการโพสต์แสดงความเห็นว่า “ถึงยุคที่เราต้องหารายได้ 3 ทาง” และบอกว่า “ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อหาเงิน” ซึ่งก็มีการแสดงความคิดเห็นทั้งในเชิงเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจำนวนมาก หลายคนบอกว่าทุกวันนี้ก็ทำงานมากกว่า 1 อย่างอยู่แล้ว

แต่รายได้ก็ยังไม่พอจะใช้ หรือบางคนก็บอกว่าถ้าให้ทำงานหลายอย่าง ลำพังแค่งานประจำอย่างเดียวก็ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นแล้ว ไหนจะเรื่องwork-life balance ที่อาจจะได้ไม่คุ้มเสีย หรือบางคนที่มีความเห็นในอีกแง่มุมว่าแทนที่จะให้คนขยันมากขึ้นที่ดูยังไงก็ไม่พอกับค่าครองชีพทำไมไม่พูดถึงเรื่องรัฐสวัสดิการ ที่ควรดูแลประชาชนมากกว่านี้ เป็นต้น 

www.ThaiFranchiseCenter.com เข้าใจทุกความเห็นและเชื่อว่าปัญหาสำคัญของเรื่องนี้คือ “การสร้างคุณภาพชีวิต” ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ และทุกชีวิตต่างก็ต้องการ “ความสุข” แต่ทั้งนี้คำว่าความสุขของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน วิธีการที่จะเข้าถึงความสุขที่แท้จริงของแต่ละคนก็ย่อมต่างกันด้วย จึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่ายุคนี้แท้ที่จริงการสร้างรายได้หลายทางกับสร้างรายได้ทางเดียว แบบไหนจะดีที่สุด

สร้างรายได้ 3 ทาง มีโอกาสรวยแค่ไหน?
 

ถ้าพูดในแง่ของรายได้ การมีช่องทางสร้างรายได้มากขึ้นโอกาสได้เงินเพิ่มขึ้นก็มีมาก แต่การทำงานมากๆ ก็ไม่ได้การันตีว่าจะรวยกว่าคนที่ทำงานน้อย เนื่องด้วยปัจจัยรอบด้านของแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งค่าใช้จ่ายประจำวัน หรือค่าตอบแทนที่ได้รับในแต่ละงาน

เช่น เราทำงานประจำเงินเดือน 15,000 ทำงานตั้งแต่ 8.30 – 17.30 หลังเลิกงานทำพาร์ทไทน์หรือขายของเป็นอาชีพเสริมอาจมีรายได้เพิ่มประมาณเดือนละ 3,000 – 5,000 นอกจากนี้เราอาจมีการขายของออนไลน์เพิ่มมีรายได้อีกไม่น้อยกว่าเดือนละ 1,000 – 3,000 เป็นต้น ดูเหมือนว่ารายได้รวมในแต่ละเดือนจะเกือบ 30,000 เป็นอย่างน้อย

แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องแลกมาด้วยการพักผ่อนที่น้อยลง การลงทุนในแต่ละธุรกิจที่ทำก็ต้องนำมารวมเป็นในค่าใช้จ่ายด้วย สำคัญคือการบริหารจัดการเงินที่ได้มาว่าจะจัดสรรปันส่วนอย่างไร อันไหนเก็บ อันไหนเอาไว้ใช้ยามเจ็บป่วย อันไหนเอาไว้ลงทุน หรือตัวแปรที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ “การจ่ายหนี้” บางคนมีภาระต้องผ่อนค่าบ้าน ค่ารถ ค่าบัตรเครดิต ค่าเทอม และจิปาถะต่างๆ 

รายจ่ายต่อเดือนอาจสูงเกินกว่า 30,000 บาท นั่นหมายความว่าต่อให้ทำงานหลายอย่างก็อาจจะแค่พอให้มีเงินหมุนเวียนใช้ แต่ไม่มีเหลือเก็บ คำถามที่ว่ายิ่งทำงานมากจะมีโอกาสรวยมาก จึงไม่ใช่บัญญัติไตรยางส์ที่จะเป็นคำตอบตายตัว แต่อย่างน้อยการทำงานมากก็มีข้อดีคือมีเงินหมุนเวียนใช้มาก อาจจะดีกว่าการทำงานอย่างเดียวที่คงไม่มีเงินหมุนเวียนพอใช้ แต่หากรายจ่ายน้อย แต่ทำงานมากมีรายได้มาก โอกาสมีเงินเหลือเก็บก็เป็นไปได้มากเช่นกัน

สร้างรายได้ทางเดียว มีโอกาสรวยแค่ไหน?
 

ในสถานการณ์ปัจจุบันการสร้างรายได้ทางเดียวดูจะไม่เพียงพอกับค่าครองชีพที่เพิ่มมากขึ้น อันที่จริงแนวคิดเรื่องการสร้างรายได้เพิ่มก็มีมานาน ในอินเทอร์เนตเองก็มีคนสนใจค้นหาคำว่า “การสร้างรายได้เสริม” กันจำนวนมากรวมถึงมีแนวคิดและกูรูแนะนำวิธีการหาเงินเพิ่มในรูปแบบต่างๆ กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ข้อดีของการหารายได้ทางเดียวคือเรามีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น work-life balance ถือว่าสมดุล

แต่คำถามคือเราจะเลือก work-life balance ที่ตัวเองพอใจ หรือเราจะเลือกสุขใจ เพราะ “มีเงินหนุนหลัง” ทางเลือกของคนที่ทำงานประจำและไม่คิดทำงานอื่นเพิ่ม ส่วนใหญ่จะใช้วิธีสร้างรายได้แบบ “เงินต่อเงิน” โดยใช้เงินลงทุนในสินทรัพย์ หรือหุ้น หรือกองทุนรวมต่างๆ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่ทำงานประจำจะทำแบบนี้ได้ ก็ขึ้นอยู่กับเงินเดือนประจำของแต่ละคน เพราะถ้าฐานเงินเดือนแค่ 15,000 -20,000 โอกาสแบ่งเงินมาลงทุนเป็นไปได้ยาก ยิ่งมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ร่วมด้วย แนวคิดการลงทุนก็เป็นได้แค่ทฤษฏีเท่านั้น แต่คนที่ทำได้ก็มีซึ่งอัตราตอแทนจากการลงทุนเหล่านี้สะสมให้มีเงินหมุนเวียนในระยะยาว

บางคนสะสมเป็นเงินไว้สำหรับตอนเกษียณเรียกว่าเป็นการวางแผนการเงินในระยะยาว ดังนั้นคำถามว่าทำงานสร้างรายได้ทางเดียวจะรวยได้ไหม คำตอบก็คือได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวแปรของแต่ละบุคคล เป็นสำคัญด้วย

ต้องสร้างรายได้แบบไหน ถึงจะรวยในยุคนี้?
 

ในเมื่อสร้างรายได้หลายทางก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี หรือการมีรายได้ทางเดียวก็ดูจะไม่พอ คำถามคือยุคนี้เราควรสร้างรายได้แบบไหนถึงจะเอาตัวรอดได้ คำตอบก็คือ “สร้างรายได้ให้เหมาะสมกับตัวเอง” ดังนั้นเราต้องพิจารณาตัวเองเป็นหลักว่าเรามีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่ เรามีรายได้เท่าไหร่

หักลบกลบหนี้ในแต่ละเดือนเรามีเหลือหรือขาดเงินที่ควรต้องมีใช้อีกเท่าไหร่ นำตัวเลขเหล่านั้นมาวิเคราะห์ ถ้าไม่พอก็ต้องหาเพิ่ม ถ้าเหลือก็ต้องคิดต่อว่าจะนำไปบริหารจัดการอย่างไร ในกรณีที่เงินไม่พอใช้ ก็ต้องมาคิดว่าควรจะหาเพิ่มด้วยวิธีไหนให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
 
คำว่าหาเงินเพิ่มของแต่ละคนไม่มีวิธีการที่ชัดเจนและไม่มีกฎตายตัวว่าต้องแบบนั้นแบบนี้ บางคนอาจใช้วิธีขายของออนไลน์ บางคนอาจเป็นพ่อค้าแม่ค้าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ บางคนอาจเปลี่ยนหน้าบ้านให้เป็นร้านค้าสร้างรายได้ หรือบางคนอาจลงทุนในกองทุนหุ้น กองทุนรวม หรือการปล่อยเงินกู้ต่างๆ 

ดังนั้นรูปแบบการหาเงินต้องดูที่ความพร้อม และเหมาะสมกับตัวเองเป็นสำคัญ ก็จะทำให้เรามีเงินหมุนเวียนใช้ได้ work-life balance ที่ดีร่วมด้วย การมาถกเถียงว่าต้องสร้างรายได้กี่ทางถึงจะเหมาะสมจึงไม่ใช่ประเด็น และการจะรอให้ใครมาช่วย รอให้มีสวัสดิการดีๆ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ

มีคำพูดหนึ่งที่น่าสนใจและคิดว่าใช้ได้ทุกยุคสมัยคือ “ลงทุนผิดที่กี่ปีก็ไม่รวย” คนที่จะมีเงินใช้คือคนที่รู้จักวิธีหาเงิน หาวิธีสร้างรายได้ที่เหมาะสม การสร้างรายได้กี่ทางจึงไม่น่าสนใจเท่ากับว่าเรามีวิธีสร้างรายได้แบบไหนให้เหมาะสมกับยุคสมัยนี้
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter


ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3iAvVJL
 
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
790
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
708
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
520
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
431
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด