ถ้าทำงานประจำแล้วเงินพอใช้ ก็คงไม่มีใครอยากหารายได้เพิ่ม ลำพังแค่ทำงานประจำแต่ละวันก็ใช้เวลาถึง 1 ใน 3 เรียกว่าแทบไม่มีเวลาให้ไปทำอย่างอื่นได้ แต่คำว่า “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” เงินเดือนออกมาใช้ได้แค่อาทิตย์ก็หมด เป็นตัวเร่งให้ต้อง “หารายได้เพิ่ม” เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ตัวเอง วิธีที่ดีสุดคือควรหาการลงทุนที่ “คนทำงานประจำ” ไม่ต้องดูแลธุรกิจเอง ปล่อยให้ “ระบบ” ช่วยทำงาน ซึ่งปัจจุบันมีหลายแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
 

 

ภาพจาก ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส

จุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรสคือการสร้างรายได้แบบ passive income เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่มาพร้อมระบบแฟรนไชส์อย่างเต็มรูปแบบ มีการวางระบบบริหารจัดการในร้านอย่างดี มีอุปกรณ์เปิดร้านกว่า 26 รายการ มีการฝึกอบรมให้ก่อนเปิดร้าน มีระบบ POS ช่วยจัดการหน้าบ้านหลังบ้าน ควบคุมจุดรั่วไหล มั่นใจได้ว่าถึงไม่ได้เข้ามาดูแลร้านเองก็ยังเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรได้อย่างดี ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 150,000 บาท งบในการลงทุน 500,000 – 1 ล้านบาท มีทั้งหมด 3 แพ็กเกจให้เลือกลงทุนได้ ที่สำคัญไม่ต้องมีประสบการณ์ก็เริ่มธุรกิจนี้ได้ เพราะมีทีมงานคอยให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี
 

 

2.โจ๊กสยาม
 

ภาพจาก โจ๊กสยาม

ร้านโจ๊กสยามให้บริการแบบ Table Service ซึ่งลูกค้าสามารถนั่งทานที่ร้าน หรือซื้อกลับบ้านก็ได้ และมีบริการเดลิเวอรี่ผ่านแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นต่างๆด้วย เช่น แกร๊บ , ไลน์แมน , โรบินฮู้ด , ฟู้ดแพนด้า สำหรับคนทำงานประจำสามารถลงทุนสร้างเป็นอีกธุรกิจให้คนในครอบครัวช่วยดูแล หรือจ้างพนักงานมาช่วยขาย

ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 150,000 บาท งบการลงทุน 500,000 – 800,000 บาท การลงทุนมีให้เลือก 2 แบบคือคีออส และอาคารพาณิชย์ สิ่งที่จะได้รับคือการฝึกอบรมพนักงาน , อุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน , การสอนเทคนิค และทีมงานสนับสนุนให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจ การลงทุนกับโจ๊กสยามเป็นอีกหนึ่งธุรกิจครอบครัวที่สร้างรายได้ดีมาก คืนทุนไว ยิ่งทำเลดี ยิ่งขายดี สินค้ามีความต้องการมาก

 

โจ๊กสยาม สนใจลงทุน คลิก https://bit.ly/4bUELbl โทร.081-8307093 , 082-3647502 , 085-5355678

3.ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว
 

ภาพจาก ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว

ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ลงทุนง่าย รายได้ดี มีโอกาสคืนทุนไว ไม่จำเป็นต้องขายเอง ก็สามารถจ้างพนักงานมาช่วยขายได้ เป็นแฟรนไชส์ที่สร้างรายได้ให้คนทำงานประจำได้ดี ทำเลที่ดีเช่นหน้าร้านสะดวกซื้อ , ตลาด , ย่านชุมชน เป็นต้น

งบในการลงทุน 70,000 – 150,000 บาท มี 3 รูปแบบการลงทุนคือชายสี่บะหมี่เกี๊ยวรุ่นไฮคลาสโมเดิร์น , รุ่นมินิช้อป และรุ่นบิ๊กจิ๋ว ที่ทุกแพ็กเกจจะได้รับอุปกรณ์การขายครบชุดกว่า 72 รายการ มีการฝึกอบรมให้ก่อนเริ่มเปิดร้านจริง รวมถึงการจัดส่งวัตถุดิบคุณภาพ การส่งเสริมด้านการตลาด เคล็ดลับการลงทุนของคนทำงานประจำคือต้องบริหารเวลาให้ดี ควบคุมพนักงานให้ทำงานแทนเราได้ หรือถ้าเป็นคนในครอบครัวญาติพี่น้องก็ยิ่งดี ทำให้อุ่นใจในการทำธุรกิจได้มากขึ้น

 

ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว สนใจลงทุน คลิก  https://bit.ly/3YUSPLn โทร.090-9086910 , 090-9086914 , 090-9086929

 

 

ภาพจาก ซอห์น ฟู้ด

ถ้าทำงานประจำและอยากสร้างธุรกิจง่ายๆ ด้วยอาหารสตรีทฟู้ดส์เลือกลงทุนกับ ซอห์น ฟู้ด ซึ่งเป็นอาหารญี่ปุ่นแนวสตรีทฟู้ดซื้อง่าย ทานง่าย ราคาไม่แพง จุดเด่นคือการนำวัตถุดิบแบบญี่ปุ่นผสมผสานสร้างสรรค์เมนูที่หลากหลายเช่นแกงส้ม , ผัดกะเพรา , แกงมัสมั่น , แกงกะหรี่ไทย และยังมีอาหารเกาหลี ญี่ปุ่น ให้เลือกรับประทาน

ค่าแฟรนไชส์ 119,000 บาท งบลงทุน 119,000 – 789,000 บาท โดยมี 3 แพ็กเกจให้เลือกลงทุนได้ตามต้องการทั้ง Stand Alone , Kios , Street Kios โดยมีการเซ็ทอัพร้านและการวางระบบบริหารจัดการในร้านให้เป็นอย่างดี และยังมีช่องทางขายในแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ร่วมด้วย โอกาสคืนทุนประมาณ 3 – 6 เดือน โดยขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดในการลงทุนเป็นสำคัญ

 

5.ธุรกิจห้าดาว
 

ภาพจาก https://fivestar.in.th

การลงทุนกับธุรกิจห้าดาวที่ปัจจุบันมีสินค้าให้เลือกขายเยอะมากเช่นไก่ย่างห้าดาว , ไก่ทอดห้าดาว , บะหมี่ห้าดาว เป็นต้นผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์เริ่มธุรกิจได้ ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องเฝ้าร้านเอง สามารถจ้างพนักงานมาช่วยขาย มีเวลาไปทำธุรกิจอื่นได้

ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 6,000 บาท งบในการลงทุน 99,000 – 1 ล้านบาท ข้อดีของการลงทุนในธุรกิจห้าดาวคือมีการสำรวจและวิเคราะห์พื้นที่เปิดร้านให้ ไม่จำเป็นต้องมีทำเลของตัวเอง แม้เปิดหลายแฟรนไชส์ก็ไม่ต้องกังวล , มีทีมงานดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มธุรกิจ และยังดีลกับ Delivery Platform ต่าง ๆ ให้ ช่วยให้เสียค่า GP ต่ำลง เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากขึ้น
 

 

6.ฮิปสเตอร์ สเต็ก
 

ภาพจาก FB : แฟรนไชส์สเต็ก Hipster 

สำหรับคนที่มีเงินทุนไม่มาก แต่อยากมีรายได้เพิ่มนอกเหนือจากงานประจำ ก็เลือกลงทุนกับ ฮิปสเตอร์สเต็กได้ ค่าแฟรนไชส์9,900 บาท งบลงทุน 9,900 บาท – 17,900 บาท

ข้อดีคือการจัดร้านไม่ยุ่งยาก อุปกรณ์น้อย และแฟรนไชส์มีวัตถุดิบมาให้พร้อม ก่อนเปิดร้านก็มีสอนสูตร สอนเทคนิคการเปิดร้าน สามารถคืนทุนได้ตั้งแต่ขายวัตถุดิบในแต่ละแพ็กเกจได้หมด โอกาสคืนทุนประมาณ 1 เดือน แต่ถ้าเลือกทำแฟรนไชส์นี้ก็ควรมีเวลาในการเปิดร้านเช่นเสาร์ – อาทิตย์ หรือตอนเย็นหลังเลิกงาน และควรมีคนช่วยในการเปิดร้าน เช่นญาติพี่น้อง หรือคนในครอบครัว ยิ่งทำเลดี ธุรกิจนี้กำไรดีมาก

 

 

จุดเด่นของนาเนียสเต็กคือมีอุปกรณ์อะไรก็เอามาใช้ได้ ใช้เงินลงทุนเริ่ม 25,000 บาท ได้อุปกรณ์+เตาย่างสเต็กและวัตถุดิบชุดเริ่มต้น ซึ่งหากขายวัตถุดิบชุดนี้หมดสร้างรายได้ประมาณ 30,000 บาท ถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดี ขายง่าย ขายได้ในหลากหลายทำเล เช่นหน้าโรงเรียน ตลาดนัด แต่ก็ควรมีเวลาในการทำธุรกิจอย่างจริงจัง เช่นวันเสาร์ – อาทิตย์ หรือหลังเลิกงาน อาจเลือกทำเลที่ไม่ไกลจากบริษัทมากนักเพื่อสะดวกในการเปิดร้าน ถ้ามีกลยุทธ์การตลาดดี บริหารจัดการร้านดี สร้างรายได้ที่ดีได้แน่

 

 

ภาพจาก www.facebook.com/phoenixcha19

การเปิดร้านเครื่องดื่มสำหรับคนทำงานประจำที่อยากมีรายได้เพิ่ม เลือกลงทุนกับฟินิกซ์ชาที่มีจุดเด่นคือ ลงทุนน้อย คืนทุนไว ค่าแฟรนไชส์ 15,999 บาท แม้เป็นแพ็กเกจที่เราต้องทำร้านเอง (ได้อุปกรณ์ + วัตถุดิบครบ) ก็สามารถเริ่มจากร้านเล็กๆ ก่อนได้ไม่ต้องลงทุนมาก ให้คนในครอบครัวมาช่วยเปิดร้าน ที่สำคัญเป็นแฟรนไชส์เก็บค่าธรรมเนียมรายปี พัฒนาเมนูใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง กำไรต่อแก้ว 50-70% นอกจากขายหน้าร้านยังขายเดลิเวอรี่ได้อีกด้วย

 

ฟีนิกซ์ชา  สนใจลงทุน แฟรนไชส์ คลิก https://bit.ly/3HP7CB5 โทร. 064-1377278

9.เอชเจ เฟรชมิลค์ ปังหยา-นมสด
 

ภาพจาก www.facebook.com/hjfresmilk

เป็นอีกแฟรนไชส์ที่เหมาะกับคนทำงานประจำเพราะเอชเจ เฟรชมิลค์ ปังหยา – นมสด ให้เงินทุนเริ่มต้นไม่แพง แพ็กเกจชุดประหยัดเริ่มต้นแค่ 18,900 บาท สิ่งที่ได้คือป้ายร้าน ตู้กระจก, อุปกรณ์พร้อมขายครบชุด + พร้อมฝึกอบรม + หนังสือคู่มือการขาย + วัตถุดิบในการขายเครื่องดื่มได้ 200 แก้ว ขนมปังได้ 25 ชุด โอกาสคืนทุน 1-2 เดือน กำไรจากเครื่องดื่ม , ขนมปังปิ้ง ประมาณ 50% กำไรจากขนมปังสังขยาประมาณ 40% ลงทุนง่าย ขายดี ไม่มีค่ารายเดือน รายปี ไม่มีส่วนแบ่งจากยอดขาย
 

เอชเจ เฟรชมิลค์ ปังหยา-นมสด สนใจลงทุน แฟรนไชส์ คลิก https://bit.ly/2X2Eceb โทร.089-6738594, 086-5448738, 087-7033490

 

ซึ่งนอกจากแฟรนไชส์เหล่านี้ก็ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่เหมาะสมกับการเลือกลงทุนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ และงบในการลงทุนของแต่ละคน เพราะปัจจัยในการทำธุรกิจของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่สำคัญคือต้องบริหารเวลา บริหารจัดการร้านให้ดี เพราะการทำงานประจำ เวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการทำงานในบริษัท ข้อดีของแฟรนไชส์เหล่านี้คือมีระบบสนับสนุนคนลงทุนเป็นอย่างดี ให้ระบบทำงานแทนได้ และเป็นแฟรนไชส์ที่มีลูกค้าประจำ ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ก็พร้อมสร้างรายได้ที่ดี

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)