บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
2.7K
2 นาที
4 กรกฎาคม 2567
แค่ใส่ใจ ใช้ให้เป็น Data-Driven Marketing อาวุธลับเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ 
 

การทำธุรกิจในยุคนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องใช้ Data เพื่อพัฒนาธุรกิจและสร้างยอดขาย ดังนั้น ก่อนใช้ Data ผู้ประกอบการต้องรู้จักเก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ เมื่อได้ข้อมูลอะไรมาแล้ว ต้องนำไปใช้ให้เป็น ผู้ประกอบการจะมีวิธีการเก็บ Data อย่างไร และนำ Data ไปใช้ เพื่อเพิ่มยอดขายได้อย่างไร มาดูบทสัมภาษณ์กูรู้ด้านการตลาดสาย Data ที่จะมาเล่าและอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ สามารถนำไปใช้ในการทำธุรกิจและค้าขายได้จริง 
 
คุณหนุ่ย-ณัฐพล ม่วงทำ เจ้าของเพจ “การตลาดวันละตอน” นักการตลาดสาย Data-Driven Marketing เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของการทำเพจ "การตลาดวันละตอน" มาจากการเป็นหัวหน้าเครีเอทีฟช่วงทำงานเป็นเอเจนซี่ โดยทุกครั้งที่รับงานคุณหนุ่ยจะทำการรีเสิร์ซข้อมูลต่างๆ แล้วนำเอามาเล่าให้น้องๆ ในทีมฟัง พอเล่าทุกๆ วัน จึงอยากเปลี่ยนจากการเล่ามาเป็นการเขียนผ่านเพจเพื่อเก็บเอาไว้อ่าน และแชร์ความรู้ต่อได้ อีกทั้งยังมองว่าการทำเพจสามารถหารายได้เสริมได้ด้วย 

 
จากข้อมูลที่คุณหนุ่ยเคยให้สัมภาษณ์มา กว่ารายได้จะเข้ามาคุณหนุ่ยต้องเขียนลงเพจถึง 500 ตอน ถึงจะมีโฆษณามาลงเพจ ได้รับมาประมาณ 5,000 บาท หลังจากนั้นเพจก็เริ่มบูมมีคนติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีคนทาบทามให้ไปร่วมทำงานด้วยมากมาย จนได้เป็นที่ปรึกษา อาจารย์สอนพิเศษและวิทยากรตามสถานที่ต่างๆ 
 
การตลาดเปลี่ยน แต่ต้องใส่ใจ เข้าใจลูกค้า 
 

คุณหนุ่ย เล่าว่า ปัจจุบันเทรนด์การตลาดแทบจะเปลี่ยนทุกปี แต่แก่นของการตลาดยังเหมือนเดิม ทำอย่างไรให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น เพื่อทำให้ลูกค้าซื้อของจากเราเร็วขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการ หรือนักการตลาดต้องรู้จักเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการนำข้อมูล (Data) ของลูกค้าจากหลายช่องทางมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งด้านพฤติกรรม สถิติที่เกี่ยวกับลูกค้า เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาธุรกิจ หรือสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
 
ยกตัวอย่าง...การเก็บข้อมูลของแม่ค้าขายส้มตำ ถ้าเราไปซื้อร้านนี้บ่อยๆ จนแม่ค้าจำเราได้ พอจำได้ก็เริ่มทักทาย พูดจาสนิทสนมกัน เริ่มถามชื่อ รู้ว่าเราชอบกินแบบไหน ใส่พริกกี่เม็ด ทั้งหมดคือข้อมูล หรือ Data อันหนึ่ง แต่เป็นแค่ข้อมูลที่อยู่ในหัวสมองความทรงจำของแม่ค้าส้มตำเท่านั้น ถ้าเป็นธุรกิจใหญ่ๆ Data จะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลใหญ่ๆ เช่น เวลาที่เราไปซื้อชานมไข่มุก เขาก็จะกดใส่เครื่อง POS ด้านหน้า เปลี่ยนจากเอาข้อมูลจากสมองไปใส่ในระบบคลาวด์บนซอฟต์แวร์
 
 
คุณหนุ่ย เล่าต่อว่า หลังจากจำข้อมูลลูกค้าได้แล้ว จะเอายังต่อ เช่น แม่ค้าส้มตำ เห็นลูกค้าเก่ามากินส้มตำ สั่งใส่พริก 10 เม็ด จากแต่ก่อนใส่ 5 เม็ด ถ้าแม่ค้าใส่ใจลูกค้าคนนั้น ก็จะถามทำไมวันนี้ใส่พริกเยอะ ถ้าไม่ใส่ใจก็จะไม่ถาม เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของร้านที่ใส่ใจลูกค้ามากกว่าคนไม่ใส่ใจ มักจะใช้ Data ได้ดีกว่า จะทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อของเราอีก 
การนำ Data มาใช้ให้เกิดประโยชน์
 
คุณหนุ่ย เล่าว่า สมมติร้านอาหารของเรามีลูกค้ามากินตอน 3 ทุ่มเยอะมาก เมื่อมีข้อมูลบอกแบบนี้ แล้วเราจะยังไงต่อ ถ้าเราอยากนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ เมื่อมีลูกค้ามากินเยอะช่วง 3 ทุ่ม สิ่งที่ต้องทำ ก็คือ เอาคนมาช่วยเยอะๆ จะได้เสิร์ฟได้เร็วขึ้น หรือขยายเวลาไปถึง 4 ทุ่ม จะได้เปิดดึกขึ้น จะได้ขายนานขึ้น หรือดูว่าลูกค้าที่มากินเป็นใคร จะได้หาลูกค้าแบบนี้เพิ่มขึ้น ขยายสาขาไปหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะได้ยอดขายเพิ่มขึ้น หรืออาจจะเตรียมเมนูขายดีไว้ล่วงหน้าเยอะๆ  
 
เพิ่มยอดขาย มัดใจลูกค้าด้วย Data 
 

คุณหนุ่ย เล่าว่า อยากให้ลูกค้าติดใจ อยากให้ลูกค้ากลับมาซื้อประจำ เจ้าของร้านอาหารต้องใสใจข้อมูลของลูกค้าเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าชอบกินอะไร รสชาติแบบไหน มากินช่วงเวลาไหน ใช้เวลานั่งกินนานไหม จะได้ให้บริการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ถูกต้อง บางคนไม่ใส่ Data อะไรเลย ขายไปไปเรื่อยๆ แม้มี Data ก็ไม่มีประโยชน์ 
 
ดังนั้น เจ้าของร้านอาหารต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากข้อมูลให้เป็น จะสามารถเพิ่มยอดขายได้ และให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เช่น ร้านอาหารเริ่มขายได้ดีช่วง 3 ทุ่ม มีลูกค้ากลุ่มผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ ชอบกิน ชอบดื่ม มาทุกครั้งอาหารเกือบหมด เจ้าของร้านสามารถนำ Data ไปใช้ได้โดยเปิดร้านช้ากว่าเดิมได้ เพิ่มเมนูอาหารให้มากขึ้น รวมถึงการเตรียมเมนูเครื่องดื่มให้หลากหลายรองรับความต้องการลูกค้าผู้ชาย 


ภาพจาก www.facebook.com/EverydayMarketing.co
 
หรืออีกกรณีถ้า Data บอกว่าลูกค้าไม่ค่อยมากินที่ร้านวันจันทร์ เจ้าของร้านอาหารเลือกที่จะปิดร้านพักผ่อนวันจันทร์ได้ หรือร้านอื่นๆ เก็บข้อมูลช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าร้าน ก็สามารถทำโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าเข้าร้านช่วงเวลานั้นได้ 
 
สรุปคือ การเก็บ Data ควรเก็บตั้งแต่ยอดขาย จะทำให้รู้ว่ายอดขายในแต่ละวัน วันไหนขายดี ขายไม่ดี ช่วงเวลาลูกค้าเข้าร้าน รายการสินค้าหรือเมนูขายดี ลูกค้าเป็นกลุ่มไหน ลงลึกไปจนถึงลูกค้าคนไหนชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หลังจากนั้นนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ตอบโจทย์ธุรกิจและความต้องการของลูกค้าให้ถูกต้อง 

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
499
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด