บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
301
2 นาที
27 ธันวาคม 2567
4 ข้อที่ไม่ควรทำ! เพื่อรักษา “ชื่อแบรนด์” ให้คนรู้จัก
 

การสร้างธุรกิจนั้นว่ายากแต่การรักษาชื่อเสียงของแบรนด์นั้นยากยิ่งกว่า คำว่า “ชื่อแบรนด์” เป็นภาพลักษณ์ของธุรกิจที่ตราตรึงอยู่ในใจลูกค้า ยิ่งมีคนรู้จักมาก คนพูดถึงมาก แสดงว่าเราเป็นแบรนด์ที่ใหญ่และมีโอกาสขายสินค้าได้ดี ในทางตรงกันข้ามหากชื่อแบรนด์เราไม่เป็นที่รู้จัก คนไม่พูดถึง โอกาสในการขายก็น้อย ดังนั้นเรื่องนี้จึงสำคัญ 
 
อย่างไรก็ดีเขาใจว่าบรรดา Start-ups และ SMEs ที่จำเป็นต้องโตให้เร็ว อาจมุ่งเน้นไปที่เรื่องการสร้างผลิตภัณฑ์เป็นหลัก บางครั้งละเลยเรื่องพื้นฐานอย่างชื่อแบรนด์โดยคิดว่าไม่จำเป็นสำหรับการสร้างรายได้ และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะที่อาจตามมาในอนาคตเช่นกำลังขายดีต้องมาเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่เพราะถูกฟ้องร้อง เป็นต้น ทีนี้ลองมาดูว่ามีข้อผิดพลาดอะไรที่ไม่ควรทำ เรียนรู้ไว้เพื่อให้ “ชื่อแบรนด์” เราฮิตติดตลอดได้ตลอดไป
 
1.ชื่อแบรนด์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ
 

การตั้งชื่อแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพไม่ได้หมายถึงว่าต้องเจาะจงว่าเป็นสินค้าหรือบริการอะไร อย่างเช่น เช่น Starbucks, Google, Apple, และ Shell ก็ไม่ได้เป็นชื่อที่บอกชัดเจน แต่ชื่อแบรนด์เหล่านี้มีประสิทธิภาพมากเวลาพูดถึงก็รู้ทันทีว่าเป็นแบรนด์เกี่ยวกับอะไร ยกตัวอย่าง Best Search Engine Company ที่ให้บริการด้าน Search Engine แทนที่จะให้ชื่อบริษัทมาตั้งชื่อแบรนด์ก็เลือกใช้คำที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย ตั้งชื่อแบรนด์ว่า Google สุดท้ายก็กลายมาเป็นคำฮิต เป็นแบรนด์ที่ติดตลาดและเติบโตเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้

ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญในการตั้งชื่อแบรนด์ของคนทำธุรกิจทั่วไปที่อาจใช้คำที่มีลักษณะ Fanciful หรือเรียกว่า Fanciful Marks ซึ่งเป็นคำที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมหรือเป็นคำที่มีความหมายบางอย่าง เช่น Exxon, Ikea, Google เป็นต้น โดย Fanciful Marks เป็นทางเลือกที่เหมาะสมและแข็งแกร่งสำหรับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
 
2.ไม่ได้สืบค้นชื่อแบรนด์ก่อนขอจดทะเบียน
 

อีกข้อผิดพลาดที่คนทำธุรกิจก้าวพลาดอย่างมหันต์จนทำให้ชื่อแบรนด์ที่เราสร้างมาได้รับผลกระทบ คือการไม่ยอมสืบค้นชื่อแบรนด์ก่อนขอจดทะเบียน และเมื่อดำเนินธุรกิจไปแล้ว สินค้าเริ่มจำหน่าย เริ่มมีคนรู้จัก บางครั้งอาจมีปัญหาย้อนหลังจากการที่ชื่อแบรนด์เราไปเหมือน หรือไปคล้ายกับแบรนด์อื่น จนนำมาสู่การฟ้องร้อง สุดท้ายคนที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องก็จะได้รับสิทธิทางกฎหมาย ในฐานะคนที่แพ้ก็ต้องมาเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่ มีผลกระทบต่อการขายสินค้าได้
 
และการสืบค้นก่อนตั้งชื่อแบรนด์ยังมีประโยชน์ในอีกหลายด้านไม่ใช่แค่การตลาดในประเทศ เราต้องเข้าใจก่อนว่าในต่างประเทศก็มีกฏหมายที่ต่างกัน ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนการสืบค้น เพื่อดำเนินการที่ดีและเป็นระบบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการจดทะเบียนและลดความเสี่ยงได้มากที่สุด
 
3.ละเลยเรื่อง Website Domains
 

ความผิดพลาดเรื่องการเลือกซื้อ Domains ที่เหมาะสมกับการสร้างแบรนด์ให้ธุรกิจและการจัดการ Social Media Platforms เพื่อขยายการรับรู้ถึงแบรนด์ เป็นเรื่องที่คนทำธุรกิจต้องเจอปัญหาอยู่บ่อย เราต้องเข้าใจก่อนว่ายุคนี้เน้นการซื้อขายและทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

ดังนั้นก่อนที่จะเลือกใช้ชื่อแบรนด์โดยยังไม่ตรวจสอบว่า @name มีผู้อื่นใช้แล้วอยู่บนช่องทาง Social Media ต่างๆ แล้วหรือไม่ อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ มีผลที่ทำให้แผนการขายและการตลาดไปไม่ถึงเป้าหมายที่ควรจะเป็น ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีผลแค่ตลาดในประเทศแต่ยังหมายถึงการขยายตลาดไปต่างประเทศด้วย เคล็ดลับที่ดีที่สุดคือการใช้ Trademark Databases ในทุกประเทศที่ต้องการขยาย
 
แบรนด์หรือส่งออกสินค้า โดยการใช้บริการผ่านทางผู้เชี่ยวชาญตัวจริง พร้อมกับตรวจสอบเจ้าของ Domain Names ใน ICANN และโอกาสในการจับจองชื่อแบรนด์ใน Social Media Platforms ให้ครบถ้วน
 
4.คิดประหยัดงบโดยไม่จ้างผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องหมายการค้า
 

การเริ่มธุรกิจไม่ว่าใครก็อยากประหยัดงบลงทุนให้มากที่สุด จนบางครั้งละเลยในบางเรื่องที่สำคัญไป เช่นการยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หากเราลงมือทำเองโดยขาดความชำนาญ แม้ว่าเราจะประหยัดต้นทุนที่ไม่ต้องจ้างผู้มีประสบการณ์แต่ผลที่ตามมาในอนาคตอาจส่งผลเสียต่อ “ชื่อแบรนด์” ได้

เช่น การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่จำกัดวงแคบเกินไป หรือการเลือกรายการสินค้าหรือบริการที่กว้างจนเกินไป จนทำให้มีผู้อื่นเข้ามาคัดค้านและทำให้เครื่องหมายการค้าของเราโดนปฎิเสธการรับจดทะเบียน หรือการไม่ได้เลือกจำพวกรายการสินค้าและบริการที่ถูกต้อง อาจทำให้ต้องเสียเงินยื่นคำขอใหม่ให้ครอบคลุมสินค้าหรือบริการ เป็นต้น

เคล็ดลับในข้อนี้คืออาจต้องยอมจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดูแลด้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อป้องกันการผิดพลาดที่คาดไม่ถึงในรูปแบบต่างๆ อาจต้องใช้ต้นทุนเพิ่มแต่อย่างน้อยก็ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์นั้นมีประสิทธิภาพในระยะยาวได้
 
บางครั้งเรื่องง่ายๆ ที่เรามองข้ามอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ในภายหลัง คำว่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย ยังใช้ได้ในการทำธุรกิจ การรักษาชื่อแบรนด์ที่สั่งสมมาเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไปแบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise