บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
266
2 นาที
3 ตุลาคม 2568
เศรษฐกิจยังทรุด! 9 แบรนด์ดังไทย-เทศ “ปิดกิจการ-ลดพนักงาน” 

 

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบางจากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ความผันผวนของตลาดทุน ต้นทุนพลังงานที่ทรงตัวในระดับสูง และผลกระทบจากการเร่งใช้งานเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI และระบบอัตโนมัติในภาคธุรกิจ ส่งผลให้หลายบริษัททั่วโลกต้องเร่งปรับโครงสร้าง ลดต้นทุน และลดพนักงานจำนวนมาก
 
ข้อมูลจากรายงานในต่างประเทศระบุว่า กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยมีการเลิกจ้างพนักงานรวมมากกว่า 100,000 คน ภายในครึ่งปีแรกของ 2568 ขณะเดียวกัน ธุรกิจค้าปลีกและภาคบริการในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ยุโรป และเกาหลีใต้ ก็เผชิญกับการปิดกิจการและลดขนาดองค์กรอย่างต่อเนื่อง
 
ส่วนประเทศไทย แม้ภาครัฐพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่างๆ แต่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าชี้ว่า ในเดือนกรกฎาคม 2568 มีธุรกิจจดทะเบียนเลิกกิจการสูงถึง 1,825 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 24% จากเดือนก่อนหน้า หากรวมช่วง 7 เดือนแรกของ 2568 ตัวเลขสะสมอยู่ที่ 8,069 ราย รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนรวมกันกว่าหมื่นล้านบาทได้ปิดตัวลง คือ บริษัท อินโดรามา ปิโตรเคม จำกัด, บริษัท ทรู ไลฟ์ พลัส จำกัด และ บริษัท ทรู อีโลจิสติกส์ จำกัด
 
ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ความเปราะบางยังไม่สิ้นสุด
 
ภายใต้แรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ยังไม่คลี่คลายทั้งในประเทศและทั่วโลก ส่งผลให้ธุรกิจจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญภาวะยอดขายลดลง ค่าใช้จ่ายสูง และการแข่งขันรุนแรง จนนำไปสู่การตัดสินใจปิดกิจการหรือปรับโครงสร้างองค์กรผ่านการลดพนักงานจำนวนมาก โดยในช่วงเดือนสิงหาคม–กันยายน 2568 ที่ผ่านมา มีธุรกิจหลากหลายประเภททยอยปิดตัวลง ดังนี้
 
ธุรกิจในประเทศไทยที่ปิดกิจการ
 
1.ก๋วยเตี๋ยวเรือ มาเด้อ (ขอนแก่น)

ภาพจาก www.facebook.com/Mardernoodle

ประกาศปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2568 หลังจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้จำนวนลูกค้าลดลงอย่างต่อเนื่อง
 
2. เหยี่ยน衍 สุกี้หม้อไฟจีน (สาขาภูเก็ต)

ภาพจาก www.facebook.com/yanphuket

ร้านสุกี้หม้อไฟจีนชื่อดัง ซึ่งเปิดให้บริการมากว่า 10 ปีในจังหวัดภูเก็ต ประกาศปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2568 พร้อมขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่สนับสนุนตลอดมา

3. เนื้อวัวใส่ก๋วยเตี๋ยว – อนันศักดิ์ สิงห์สมบุญเจ้าเก่า (กรุงเทพฯ)
 
ภาพจาก www.facebook.com/Beefnoodlepredee16

ตำนานร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเก่าแก่กว่า 60 ปี ประกาศปิดตัวลงเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 เนื่องจากยอดขายลดลงต่อเนื่อง คาดว่าสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่าย และลดการรับประทานอาหารนอกบ้าน

4. GREE (เครื่องปรับอากาศ)
 
ภาพจาก www.facebook.com/GreeTHOfficial

บริษัท กรี อิเลคทริค (ไทยแลนด์) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ GREE จากจีน ประกาศยุติบทบาทในไทยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เนื่องจากการปรับเปลี่ยนนโยบายจากบริษัทแม่ที่ประเทศจีน

5. Overtide (แฟชั่นเสื้อผ้า Unisex)
 
แบรนด์เสื้อผ้าไทยที่เคยได้รับความนิยมบน TikTok และ Shopee ประกาศปิดกิจการในเดือนกันยายน 2568 หลังเผชิญ การขาดทุนสะสมต่อเนื่อง แม้พยายามปรับตัวผ่านช่องทางออนไลน์

6. Mongni Cafe’ X ขอนแก่น (ร้านชานมไข่มุก)
 
ภาพจาก www.facebook.com/MongniCafeXKhonkaen

ร้านชานมไข่มุกชื่อดังซึ่งเปิดมายาวนานกว่า 7 ปี ประกาศยุติการดำเนินกิจการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 29 กันยายน 2568 คาดว่าปัญหาหลักมาจากผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่อง

ธุรกิจต่างประเทศที่ลดพนักงาน / ปิดกิจการ
 
7. Novo Nordisk (บริษัทเวชภัณฑ์จากเดนมาร์ก)
 
https://citly.me/7VWJB

บริษัทเภสัชกรรมยักษ์ใหญ่ ประกาศลดพนักงาน 9,000 ตำแหน่ง คิดเป็นประมาณ 11.5% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อปรับโครงสร้างองค์กร ลดค่าใช้จ่ายลงปีละ 1.3 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางการแข่งขันรุนแรงในตลาดยาสหรัฐฯ

8. Accenture (บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก)
 
ภายในเวลาเพียง 3 เดือน Accenture ได้ลดพนักงานไปแล้ว 11,000 คน จากทั้งหมดกว่า 710,000 คนทั่วโลก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ยุค AI ซึ่งจะเข้ามาแทนที่บางบทบาทของที่ปรึกษามนุษย์ในอนาคต

9. Starbucks (แบรนด์กาแฟระดับโลก)
 

ภาพจาก https://citly.me/Thq6U

Starbucks ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะปิดร้าน 500 สาขาทั่วอเมริกาเหนือ และเลิกจ้างพนักงานกว่า 900 คน ถือเป็นการลดขนาดองค์กรรอบที่สอง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปลดพนักงานระดับองค์กรไปแล้ว 1,100 คน 
 
สรุป การปิดกิจการและลดพนักงานอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจกำลังเผชิญแรงกดดันในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และการเข้ามาของ AI ผู้ประกอบการจึงต้องเลือกลดต้นทุน ปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อความอยู่รอด บางรายไม่สามารถปรับตัวได้จึงต้องปิดกิจการ เพราะแบกรับต้นทุนต่อไม่ไหว 
 
ดังนั้น ภาครัฐจึงจำเป็นต้องเร่งปรับทิศทางนโยบายให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมทักษะแรงงานใหม่, การช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็ก และเร่งสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้การฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
AI คลื่นลูกที่ 5 ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นเพื่อนค..
846
เทรนด์การตลาดส่งท้ายปี 2025 เมื่อผู้บริโภค “คิดเ..
679
5 ปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ปรับสมดุลชีวิตเพื่..
555
สสปท. มอบโล่ Zero Accident ย้ำความปลอดภัยคือราก..
483
จักรวาลร้านสเต็ก ข้างทาง ใครเจ้าตลาด
467
ทำเลทองของ “คาเฟ่ร้านกาแฟ” เปิดที่ไหน กำไรดีที่..
442
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด