บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    AEC
6.0K
3 นาที
28 กรกฎาคม 2558
กฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า
 


กฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์


สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าก็เป็นอีกประเทศหนึ่งในประเทศสมาชิกอาเซียนที่ไม่มีการตรากฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์เป็นการเฉพาะเช่นเดียวกันกับอีกหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น ในเรื่องของสัญญาแฟรนไชส์จึงต้องบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาของประเทศพม่า ค.ศ. 1872 (Myanmar Contract Act 1872) ซึ่งเป็นกฎหมายกลางว่าด้วยเรื่องสัญญาโดยทั่วไป โดยบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับสัญญาแฟรนไชส์ มีดังนี้
  • มาตรา 2 (h) ที่กำหนดว่า สัญญาเป็นความตกลงที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมาย
  • มาตรา 2 (a) และ (b) ที่กำหนดว่า ความตกลง ได้แก่ คำเสนอและคำสนองรับคำเสนอนั้น
  • มาตรา 11 ที่กำหนดเกี่ยวกับความสามารถของบุคคลซึ่งเป็นคู่สัญญาในการเข้าทำสัญญา
  • มาตรา 14 ที่กำหนดเกี่ยวกับเจตน์จำนงอิสระของคู่สัญญาในการเข้าทำสัญญา
  • มาตรา 22 มาตรา 23 และมาตรา 24 ที่กำหนดเกี่ยวกับค่าตอบแทนตามกฎหมายที่จะต้องกำหนดไว้ในสัญญาหรือข้อตกลง
ภาพจาก bit.ly/38wxbCX

นอกจากบทบัญญัติเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยสัญญาดังกล่าวข้างต้นแล้ว กฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญาก็เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญต่อการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์เช่นกัน โดยบทบัญญัติเกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องได้แก่ การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า (trademark licensing) การอนุญาตให้ใช้สิ่งประดิษฐ์ (invention licensing) และการอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์ (copyright licensing)

กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์
1) กฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า


ประเทศพม่าไม่มีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองในเรื่องเครื่องหมายการค้าโดยตรง ดังนั้น ระบบการให้ความคุ้มครองเครื่องหมายการค้าจึงเป็นไปตามหลักการที่ว่า ผู้ใช้ก่อนย่อมมีสิทธิดีกว่า ซึ่งเป็นหลักการตามกฎหมายจารีตประเพณีของประเทศพม่า ตราบใดที่เครื่องหมายการค้านั้นมีการใช้จริงในท้องตลาดเพื่อเป็นการชี้หรือแสดงให้ผู้ซื้อสินค้าเห็นว่าสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวผลิตมาจากบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ เครื่องหมายการค้าดังกล่าวก็จะเป็นเอกสิทธิของบุคคลหรือบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของสินค้านั้น ๆ โดยบุคคลอื่นไม่มีสิทธิที่จะลอกเลียนเครื่องหมายการค้านั้นหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของเครื่องหมายการค้านั้น

สิ่งที่ได้รับความคุ้มครองได้แก่ เครื่องหมายการค้า และเครื่องหมายบริการ โดยมาตรา 478 แห่งประมวลกฎหมายอาญา กำหนดว่า “เครื่องหมายการค้า” หมายถึง “เครื่องหมายที่ใช้แสดงให้เห็นว่าสินค้าภายใต้เครื่องหมายดังกล่าวเป็นสินค้าที่ผลิตโดยบุคคลใดโดยเฉพาะ” และ มาตรา 479 กำหนดว่า “เครื่องหมายที่ใช้แสดงให้เห็นว่าสังหาริมทรัพย์ใดเป็นของบุคคลใดโดยเฉพาะเรียกเครื่องหมายนั้นว่า เครื่องหมายทรัพย์ (Property Mark)”

เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนย่อมมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าที่ได้รับการจดทะเบียนนั้นในประเทศพม่า หากมีการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้า เจ้าของเครื่องหมายการค้าย่อมสามารถฟ้องผู้กระทำละเมิดสิทธินั้นได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา

โดยการใช้สิทธิทางแพ่ง คือการขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้กระทำการละเมิดใช้เครื่องหมายที่ละเมิดนั้นและสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดจากการใช้เครื่องหมายการค้าที่ละเมิดได้ด้วย สำหรับการใช้สิทธิฟ้องคดีอาญา เจ้าของเครื่องหมายการค้าสามารถยื่นคำร้องขอต่อกรมศุลกากรให้ดำเนินการยึดสินค้าหรือสินค้าปลอมแปลงภายใต้เครื่องหมายการค้าที่ละเมิดนั้น

อายุความคุ้มครองของเครื่องหมายการค้าในประเทศพม่านั้นไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจน โดยในทางปฏิบัติบริษัทตัวแทนในประเทศพม่าจะแนะนำให้ผู้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ายื่นคำแถลงแสดงความเป็นเจ้าของ (Declaration of Ownership) เครื่องหมายการค้าของตนพร้อมทั้งลงประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นทุกๆ 2 ปี ทั้งนี้ ไม่มีข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาในการประกาศโฆษณา และการประกาศ

ภาพจาก bit.ly/2RGyDMq

โฆษณาไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารใดๆ ประกอบ นอกจากร่างคำประกาศโฆษณาที่ต้องการจะลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แม้ว่าประเทศพม่าจะยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า แต่การยื่นคำขอและจดทะเบียนเพื่อคุ้มครองเครื่องหมายการค้ามีบทบัญญัติปรากฏอยู่ในมาตรา 18 (f) แห่งพระราชบัญญัติการจดทะเบียน ค.ศ. 1909 (Registration Act 1909) และใน Direction (13) ของ the Inspector General of Registration

สรุปได้ว่า การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นสามารถดำเนินการโดยยื่นเอกสารคำแถลงแสดงความเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า (Declaration of Ownership) และเมื่อได้รับการจดทะเบียนแล้วก็จะมีการลงประกาศในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นซึ่งเรียกกันว่า “Cautionary Notice” ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงสิทธิในเครื่องหมายการค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้าให้สาธารณชนรับทราบโดยทั่วกัน

การโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าสามารถทำได้โดยต้องบันทึกการโอนสิทธิดังกล่าวต่อสำนักเครื่องหมายการค้า และต้องเป็นการโอนสิทธิพร้อมกิจการที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้านั้น ในส่วนของ การอนุญาตให้ใช้สิทธิ ด้วยเหตุที่ไม่มีกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้าเป็นการเฉพาะ ดังนั้น จึงไม่มีข้อห้ามในเรื่องการอนุญาตให้ใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าตราบเท่าที่การอนุญาตให้ใช้สิทธิดังกล่าวไม่เป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติการทำสัญญาของพม่า (Myanmar Contract Act 1872) และเนื่องจากไม่มีกฎหมายเครื่องหมายการค้าจึงไม่มีบทบัญญัติเป็นการเฉพาะในเรื่องวิธีการจดทะเบียนการอนุญาตให้ใช้สิทธิหรือผลของการจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนการอนุญาตให้ใช้สิทธิ แต่ในทางปฏิบัติควรให้มีการติดต่อนายทะเบียนเพื่อขออนุมัติอย่างไม่เป็นทางการก่อน


ภาพจาก bit.ly/2TMB7LE

ด้วยเหตุที่ประเทศพม่าไม่มีสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญา ดังนั้นการบังคับใช้สิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนต่อผู้กระทำละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าจึงสามารถดำเนินการผ่านศาลได้ และยังสามารถแจ้งข้อมูลเป็นลายลักษณ์โดยการทำรายงานข้อมูลเบื้องต้น (The First Information Report) เพื่อให้ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนการกระทำผิดเพื่อนำไปสู่การดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ตามพระราชบัญญัติศุลกากรทางทะเลของพม่า (The Myanmar Sea Customs Act) ยังมีบทบัญญัติว่าด้วยการห้ามการนำเข้าสินค้าซึ่งมีการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าภายใต้ประมวลกฎหมายอาญาทั้งทางบกหรือทางทะเล ดังนั้น กรมศุลกากรจึงเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการริบสินค้าที่มีการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า ในทางปฏิบัติจะเป็นการดีกว่าหากมีคำสั่งศาลมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรว่าสินค้าที่จะริบเป็นสินค้าที่มีการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า

หน่วยงานที่รับผิดชอบ
The Office of the Registration of Deeds and Assurances Ministry of Science and Technology No. (6) Kaba Aye Pagoda Road, Yangon Tel.: (951) 65 01 91 / 66 57 01 Fax: (951) 66 76 39 / 66 60 19
E-mail: most@mptmail.net.mm

2) กฎหมายว่าด้วยความลับทางการค้า


ประเทศพม่าไม่มีบทบัญญัติกฎหมายที่ให้คุ้มครองความลับทางการค้าเป็นการเฉพาะ อย่างไรก็ตาม กฎหมายที่มีบทบัญญัติเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวอยู่บ้าง คือ กฎหมายว่าด้วยยาปราบศัตรูพืช (The Pesticide Law) ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2533 ซึ่งกำหนดว่า คณะกรรมการจดทะเบียนยาปราบศัตรูพืชจะถือว่าข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาปราบศัตรูพืชหรือส่วนผสมสำคัญของยาปราบศัตรูพืช ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ที่จดแจ้งไว้ถือเป็นข้อมูลที่เป็นความลับของเจ้าของ

นอกจากนี้ยังมีพระราชบัญญัติว่าด้วยสัญญาแห่งประเทศเมียนมาร์ (The Myanmar Contract Act) ซึ่งไม่มีบทบัญญัติห้ามคู่สัญญาทำข้อตกลงที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลที่จดแจ้งต่อหน่วยราชการ และไม่มีบทบัญญัติห้ามคู่สัญญาระบุเงื่อนไขในสัญญาที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลความลับทางการค้า การที่ไม่มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองความลับทางการค้าเป็นการเฉพาะ


ภาพจาก bit.ly/30JfTjq
 

ส่งผลให้ไม่มีบทบัญญัติที่ให้คำจำกัดความหรือนิยามของคำว่าความลับทางการค้าไว้ ในขณะเดียวกัน ความลับทางการค้าย่อมที่จะได้รับความคุ้มครองตราบที่ข้อมูลนั้นยังเป็นความลับทางการค้าอยู่ ในกรณีที่มีการละเมิดสัญญาเกี่ยวกับความลับทางการค้า เจ้าของความลับทางการค้าที่ได้รับความคุ้มครองนี้อาจนำคดีขึ้นสู่ศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายได้ แต่อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการกำหนดหน่วยงานราชการผู้รับผิดชอบเป็นการเฉพาะ และไม่มีกรณีตัวอย่างที่ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินคดี

อ้างอิงจาก  กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ประเทศลาวก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ไม่มีกฎหมายแฟรนไชส์บังคับใช้โดยตรง ทั้งยังไม่มีข้อกำหนด ระเบียบกฎเกณฑ์เฉพาะเจาะจงสำหรับการจัดตั้งธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งเหมือนดังเช่นประเทศสิงคโปร์และประเทศอื่นๆ ที่มิได้หมายความว่าการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศลาวจะไม่มีข้อกำหนด กฎเกณฑ์อื่นมาควบคุม กฎหมายท..
126months ago   5,139  4 นาที
ประเทศมาเลเซียมีการตรากฎหมายเพื่อควบคุมการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์เป็นการ เฉพาะ คือ พระราชบัญญัติแฟรนไชส์ ค.ศ.1998..
131months ago   6,334  13 นาที
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
902
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
631
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
568
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
520
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
504
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
483
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด