บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
4.7K
1 นาที
15 พฤษภาคม 2552

โชห่วยสู้เขา
  

ครั้งนี้ดิฉันขอเปิดประเด็นด้วยเรื่องค้าปลีกของไทย เนื่องจากเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสไปร่วมงาน “ร่วมมือร่วมใจพัฒนาค้าปลีกไทย“ จัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่ อิมแพค เมืองทองธานี มีคุณเกริกไกร จีรแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานปาฐกถาพิเศษ "นโยบายการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกไทย" เน้นการสร้างพันธมิตรทางการค้า เป็นโครงการเชื่อมโยงระหว่างผู้ค้าปลีก และค้าส่ง

เพื่อเสริมสร้างศักยภาพแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการค้าปลีกไทย มีผู้ประกอบจากวงการค้าปลีกค้าส่ง และผู้ที่สนใจจากทั้งกรุงเทพ และจากจังหวัดต่างๆเข้ ร่วมงานค่อนข้างมาก งานนี้ดิฉันไปในฐานะที่ปรึกษาด้านธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจแฟรนไชส์  ให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าร่วมงานที่มีปัญหาต้องการคำแนะนำ มีผู้ประกอบการ ค้าปลีกทั้งจากในกรุงเทพและจากต่างจังหวัดเข้ามาปรึกษาหารือ ประเด็นที่พูดถึงกันมาก ดูเหมือนจะเป็นปัญหาของการทำธุรกิจ ที่ต้องเผชิญกับ คู่แข่งขันค้าปลีกรายใหญ่

ดิฉันขอยกตัวอย่าง ผู้ประกอบการท่านหนึ่งเปิดร้านโชห่วยอยู่ในซอยแถวห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแคมาหลายปี ทำเลที่ตั้งก็ไม่เลว เพราะเป็นซอยที่เป็นทางลัดทางผ่าน มีผู้คนสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน จู่ๆวันหนึ่งก็มีร้านสะดวกซื้อที่เอ่ยชื่อแล้วไม่ว่าเด็กหรือ ผู้ใหญ่ก็ต้องรู้จัก 

มีจำนวนสาขาเป็นหลักพันกระจายอยู่ทั่วประเทศ มาตั้งอยู่ใกล้ๆ ปกติถ้ามีเพื่อนบ้านที่มีการดำเนินชีวิตคล้ายๆกันกับเรามาอยู่ใกล้เรา เราก็คงสบายใจที่มีเพื่อนใหม่  แต่นี่เป็นธุรกิจที่เหมือนกันกับเรามาอยู่เป็นเพื่อนบ้าน เราก็ไม่อยากได้เพราะเขาไม่ได้มาอยู่อย่างเพื่อนท่านผู้ประกอบการท่านนี้ก็บ่นว่าตั้งแต่เพื่อนบ้านใหม่นี้มา ร้านของเขาก็ขายไม่ค่อยจะได้ ที่จะมาซื้อจริงๆมักจะเป็นคนรู้จัก แต่พักหลังๆคนรู้จักของเราก็เริ่มห่างเหินไปทำความรู้จักทักทายเพื่อนบ้านใหม่ของเรา ทำให้ร้านเราเหงา เท่านี้ยังเจ็บช้ำไม่พอท่านเจ้าร้านโชห่วยยังได้ข่าวแว่วๆมาว่า ร้านค้าปลีกกลิ่นอายผู้ดีอังกฤษที่มีชื่อเอ็กเพรสห้อยท้ายกำลังจะมาเปิดถัดไปจากร้านไม่ไกลเท่าไหร่  ถ้าข่าวนี้เป็นจริงท่านเจ้าของร้านโชห่วยยืนยันว่าจะปิดร้านอย่างแน่นอน หันไปทำอย่างอื่นดีกว่า ก็จริงอย่างเขาว่านะ

ท่านผู้อ่านลองนึกภาพดูเล่นๆสิ เหมือนมีผู้หญิงสามคนมายืนให้ท่านเลือก คนแรกดู ทันสมัย คล่องตัว อัธยาศัยก็น่ารัก คนที่สองเหมือน เจ้าแม่ประจำซอย (ศาล) ดูเก๋า (เก่า) คนที่สามดูเพียบและพร้อมไปหมดอยากได้อะไรเธอหาให้ได้ทันใจสมชื่อที่ห้อยท้ายนั่นแหละ เป็นท่านๆจะเลือกใคร

กรณีข้างต้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่กำลังลุกลามไปทั่ว ร้านค้าแบบดั้งเดิมหรือโชห่วยไทยกำลังจะหมดแรงสู้ธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติ ยังไม่พอข้อตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ที่ไทยกำลังมุ่งมั่นตามกระแสชาวบ้านโดยไม่ดูความพร้อมของตัวเอง กำลังทำให้ต่างชาติพากันเข้ามาลงทุนในไทยได้สะดวกมากขึ้น  เราคงเห็นร้านเก่าแก่ของไทยเราที่เราเรียกว่าโชห่วยปิดกิจการไปเรื่อยๆ ถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลืออย่างจริงจังอย่างน้อยตอนนี้

ดิฉันก็ดีใจที่ หน่วยงานรัฐเริ่มมีความเคลื่อนไหวหาทางช่วยเหลืออย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น ค้าปลีกของเราก็คงรอให้ทางรัฐบาลช่วยฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องช่วยตัวเองด้วย ปฏิวัติตัวเองเสียใหม่ ร้านโชห่วยก็เหมือนตัวเรา ถ้าเราดูแลตัวเองดี สะอาด มีสุขภาพแข็งแรง รู้จักแต่งเนื้อแต่งตัว แต่งหน้าแต่งตาให้ดูดี เหมาะสม ใครๆก็อยากเข้าใกล้จริงไหม?


ที่มา : ดร.สุนันทา ไชยสระแก้ว

บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
791
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด