บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การบริหารจัดการองค์กร    สร้างความสมดุลของชีวิตกับการทำงาน
4.0K
2 นาที
8 มีนาคม 2559
5 เทคนิคมองตนเอง ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา


นี่คือยุคแห่งการแข่งขัน ทุกแวดวงอาชีพคือการต่อสู้ คนที่มีเทคนิคดี การตลาดดี มักจะได้รับโอกาสที่ดีก่อนเสมอๆ


ยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจตกสะเก็ด รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ผู้บริโภคเองก็ต้องหันมาคำนวณเรื่องรายรับรายจ่ายอันไหนที่มองเห็นว่าไม่มีประโยชนก็มักจะไม่เลือกสรร จึงเป็นเกมส์กลยุทธ์ที่คนทำธุรกิจต้องชูประเด็นนี้มาแข่งขัน


แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ผ่านเข้ามาในเวทีนี้แต่มีแนวคิดว่ากำลังจะเข้ามาแต่ดันเจอกับปัญหาใหญ่คือรายได้ฝืดเคือง สภาพคล่องไม่ค่อยดีแล้วอย่างนี้ถ้าคิดจะทำธุรกิจสักอย่างจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้รับผลกระทบนี้น้อยที่สุด

ทีมงาน www.ThaiFranchiseCenter.com รวบรวมเทคนิคดีๆ 5 ประการมาเป็นไกด์นำทางสู่การสานฝันในการสร้างอาชีพหากว่าคุณยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองทำตามแนวคิดที่ว่านี้อาชีพดีๆที่คุณต้องการอาจจะใกล้แค่เอื้อมก็เป็นได้

1.ทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองถนัด หรือ ทำเป็นประจำอยู่แล้ว


หลายคนอาจจะดิ้นรนมองหาอาชีพที่คนอื่นทำแล้วได้ดี แต่การทำตามๆกันอาจส่งผลร้ายมากกว่าที่คิด ทางที่ดีใช้ความ “ชำนาญ” ของคุณให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุดจะดีกว่า
 
ยิ่งถ้าคุณมีธุรกิจอยู่บ้างแล้วให้พิจารณาห่วงโซ่ธุรกิจตัวเองว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพตรงไหนได้บ้าง ที่สำคัญถ้าสินค้าหรือบริการของคุณไม่ได้ถูกจัดอยู่ในประเภทของฟุ่มเฟือยความต้องการของลูกค้าก็น่าจะคงอยู่ หรือถ้ายังไม่ได้ทำธุรกิจอะไรแต่รู้ว่าตัวเองมีความถนัดด้านใดด้านหนึ่ง ให้ขยายความสามารถนั้นออกมาอย่างเต็มที่

เช่นถ้ามีพรสวรรค์ด้านการวาดรูป อาจจะรับวาดภาพให้กับคนที่สนใจ หรือถ้ามีความสามารถด้านการถ่ายภาพก็หาช่องทางโปรโมทตัวเองผ่านโซเชี่ยลต่างๆเพื่อรับงานถ่ายภาพจากคนที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายๆอย่างที่เราเอาความถนัดตัวเองมาเป็นอาชีพได้

การที่ใช้ความถนัดและความชำนาญอย่างน้อยก็ทำให้อาชีพนั้นๆมีความมั่นคงเพราะเกิดมาจากการทำด้วยความรู้สึกที่เรารักเราชอบ ขอย้ำอีกครั้งว่าเราไม่จำเป็นต้องทำตามใครค้นหาหาตัวเองให้พบก็สามารถเริ่มต้นอาชีพในยุคเศรษฐกิจแย่ๆได้แล้วครับ

2. สำหรับคนจบใหม่มองหางาน ควรสร้างจุดเด่นให้ตัวเองเพิ่มด้วย

   

ว่ากันว่านี่คือปัญหาใหญ่ของสังคมกับการจบมาแล้วยังหางานไม่ได้ ยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจเป็นอย่างนี้หลายคนตั้งใจเลือกเอาสายวิชาที่จบออกมาแล้วมีงานดีๆ มารองรับ

แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามนั้นเสมอเพราะเมื่อทุกคนคิดเหมือนกันทำเหมือนกันก็ทำให้เกิดการแย่งงานกันอยู่ดีหรือบางทีการเรียนแบบที่เราไม่ถนัดก็ทำให้เราเสียเวลาว่านี่ไม่ใช่เส้นทางที่เราควรเดิน ดังนั้นถ้าคิดจะอยู่รอดในยุคเศรษฐกิจแบบนี้จงเรียนในสิ่งที่ตัวเองถนัดแล้ว “สร้างทักษะ” ให้ตัวเองเพิ่มเติมจะดีกว่า

คำว่า “ทักษะ” นี้จะต้องเป็นความเชี่ยวชาญในระดับที่ “ดีมาก”  เช่นภาษา  ความคิดสร้างสรรค์  คอมพิวเตอร์ หรือผลงานการประดิษฐ์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นใบเบิกทางที่ดีกว่าการเรียนตามหลักสูตรต่างๆ การเพิ่มขีดความสามารถนี้ปัจจุบันกำลังเป็นที่ต้องการของทุกองค์กร มั่นใจได้ว่าถ้าเรามีสิ่งเหล่านี้ต่อให้เศรษฐกิจแย่กว่านี้ก็ไม่มีวันตกงานหรืออยู่อย่างคนไร้อาชีพแน่นอน

3.ถ้าเป็นการเริ่มต้นอาชีพครั้งแรก ควรมองหาธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด



แม้ทุกอาชีพจะอยู่ในระบบเศรษฐกิจเดียวกันผลกระทบที่ได้รับมากน้อยกันไปตามแต่ละสาขาอาชีพ แต่ถ้าถามว่าแล้วกลุ่มอาชีพไหนที่น่าจะอยู่รอดปลอดภัยได้มากที่สุด     ยกตัวอย่างให้เห็นภาพน่าจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับความงาม  ธุรกิจร้านอาหาร  ธุรกิจรีสอร์ท  ธุรกิจเกี่ยวกับขนมหวาน และธุรกิจด้านการสอนพิเศษ

ทั้ง 5 กลุ่มที่ยกตัวอย่างนี้มีบทบาทในสังคมค่อนข้างมากเพียงแต่คนที่มองเห็นช่องทางนี้และทำอยู่ก่อนบ้างก็มีมากพอสมควรดังนั้นการเลือกเข้ามาจึงต้องวางแผนการตลาด และหาเอกลักษณ์ของตัวเองให้ดี เพื่อนำเสนอทั้งสินค้าและบริการให้น่าสนใจ แนะนำว่าควรก้าวจากเล็กไปใหญ่จะทำให้ธุรกิจมีความมั่นคงในระยะยาวครับ

4.ทางออกที่ดีคือ หาอาชีพเสริม ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย
 

อีกหนทางหนึ่งที่น่าสนใจมากคือการหารายได้พิเศษมาชดเชยกับรายได้หลักที่หดหายกันไป แต่งานพิเศษที่ว่านี้ถ้าจะให้เลือกจริงๆ มีเยอะมากก็ต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกพอสมควร ทางที่ดีเราควรเรียนรู้จุดแข็งของอาชีพเสริมนั้นๆก่อนว่ามีเงื่อนไขแบบไหนที่จะสร้างรายได้ให้กับเรา

เมื่อตัดสินใจได้ก็ให้ทำแบบค่อยเป็นค่อยไปเริ่มต้นจากเล็กๆแล้วค่อยแสวงหาโอกาสต่อยอด เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพและจัดสรรเวลาจะได้ไม่กระทบกับงานประจำที่เรายังต้องรับผิดชอบต่อไป   

5.ค้นคว้าหาข้อมูลใหม่ๆ เพื่อสร้างอาชีพที่ใครก็คาดไม่ถึง


ในการที่จะทำอาชีพหสักอย่างคำว่าเป็น “เจ้าแรก” มักจะดีที่สุดแต่ทุกวันนี้อาชีพที่เกิดขึ้นมีคนทำกันมาแทบจะทั้งหมด การทำต่อๆกันก็ต้องมาวัดกันที่เทคนิคการตลาด คุณภาพสินค้า หากเรามองเผื่อไปวันข้างหน้าศึกษาหาแนวทางดูว่าเทรนด์อนาคตจะเป็นอย่างไร สิ่งไหนที่น่าจะกำลังมา  เมื่อได้เป้าหมายให้รีบลงมือทำก่อน ฟังดูเหมือนเป็นโลกจินตนาการแต่ถ้าทำได้นั้นคือเส้นทางของกำไรที่จะใช้คำว่า “ผู้บุกเบิก” สำหรับเราได้เลยทีเดียว

องค์ความรู้ที่จะได้มาซึ่งแนวคิดเหล่านี้อยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้น ทั้งการอ่านหนังสือมากๆ  การติดตามกระแสสังคมสม่ำเสมอ  หรือถ้าจะให้ดีเพิ่มการเข้าอบรมหรือสัมมนาในบางโอกาส สิ่งเหล่านี้จะเป็นการเปิดโลกทรรศน์ที่ทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจ  อาชีพใหม่ๆที่เกิดขึ้นบางทีอาจจะอยู่แค่ใกล้ตัวเรา แต่ยังไม่เคยมีใครฉุกคิด ถ้าเราเริ่มได้ ทำได้ สบายก่อนเพื่อนเลยครับ

และสำหรับคนที่ยังมองภาพไม่ออกว่าแท้ที่จริงตัวเองนั้นมีความถนัดอะไร หรือมีความสนใจในอาชีพแบบไหนลองมาค้นหาตัวเองกับแบบทดสอบสู่สาขาอาชีพในอนาคตและความสนใจด้านอาชีพ ที่จะบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้ชัดเจนเพื่อให้เลือกตัดสินใจเดินทางได้ถูกต้องเพื่อประโยชน์ของตัวเองในอนาคต

แบบทดสอบค้นหาตัวเอง สู่สาขาอาชีพในอนาคต http://goo.gl/opwY9c
แบบทดสอบความสนใจด้านอาชีพ http://goo.gl/hixtRJ

เรียบเรียงโดย ThaiFranchiseCenter.com
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ฟองสบู่ร้านอาหารแตก! วิกฤตที่คนทำร้านอาหารต้องรู..
703
10 คาเฟ่เขาหลัก จิบกาแฟกลางธรรมชาติ สัมผัสเสน่ห์..
554
กลยุทธ์โต้กลับ CP เปิด Lotus´s go fresh ใกล้ 7-E..
531
23 จิตวิทยาการขายขั้นเทพ ขายแบบไม่ขาย ฉบับใช้จริง
530
ซบเซาหนัก! 14 ร้านอาหารดังในไทย ปิดกิจการ ปิดสาขา
485
รวม 5 ธุรกิจไทยเอาใจวัยเกษียณ! ทำไมดีกว่า Gen Z
450
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด