บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ไอเดียธุรกิจ
5.4K
2 นาที
30 สิงหาคม 2559
กาแฟถัง อินเทรนด์เครื่องดื่มยุคใหม่! ใหญ่ขึ้น กำไรมากขึ้น
 
การพัฒนาสินค้าให้ก้าวล้ำอยู่เสมอเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งของการตลาดที่ทำให้ธุรกิจหลีกหนีจากความจำเจ อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงนี้ยังทำให้ลูกค้าทั้งหลายรู้สึกถึงสินค้าใหม่ๆทั้งที่ความจริงก็ไม่มีอะไรมาก อาจเป็นแค่การเพิ่มลูกเล่นนิดหน่อยแต่ก็ดันยอดขายได้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
www.ThaiFranchiseCenter.com  มองเห็นถึงพัฒนาการอย่างหนึ่งในแวดวงของเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ ซึ่งสินค้าประเภทนี้มีอยู่ทั่วไปมากมายทั้งขึ้นห้าง ริมทาง รูปแบบแฟรนไชส์ หรือว่าเปิดร้านขายกันเอง

แต่ความน่าสนใจที่เห็นชัดเจนคือความไม่หยุดนิ่งมีลูกเล่นใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ จนวันนี้อินเทรนด์ล่าสุดเป็นกระแสฮอตฮิตที่เปลี่ยนแพคเกจให้มีกำไรมากขึ้นเรียกรวมๆว่า “กาแฟถัง” ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่ากันแทบทุกคนเลยทีเดียว
 
พัฒนาการของเครื่องดื่มชา กาแฟ เหล่านี้เปิดตัวจาก กาแฟแก้วธรรมดาจากนั้นก็เริ่มเป็นกาแฟแก้วใหญ่ที่ปริมาตรมากกว่าทำให้ลูกค้าบริโภคได้อย่างจุใจมากขึ้นเท่านั้นยังไม่พอวิวัฒนาการต่อมาคือเปลี่ยนแพคเกจเป็น “กาแฟถุงกระดาษ” ที่มีข้อดีสำคัญคือสามารถเก็บความเย็นไว้ได้นานยิ่งขึ้น

จนมาถึงเทรนด์ฮิตล่าสุดที่เราเห็นได้จากงานเปิดตัวสินค้าต่าง ๆตลอดจนร้านค้าแถวบ้านก็เริ่มมีวางขายกันแล้วกับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ล่าสุดคือ “กาแฟถัง” ซึ่งก็เป็นการเรียกรวมๆเท่านั้นเพราะไม่ว่าจะ ชานม ชาเขียว โกโก้ ฯลฯ เมื่ออยู่ในภาชนะแบบถังก็ทำกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างน่าสนใจมาก

รูปแบบของกาแฟถังพัฒนามาเพื่อการตลาดโดยเฉพาะ
เป็นพัฒนาการที่พัฒนาจากกาแฟแก้วใหญ่ (32 ออนซ์) และกาแฟถุงกระดาษที่สามารถเก็บความเย็นได้ดี มาเป็น “กาแฟถัง” ที่ปริมาตรความจุนั้นสมชื่อคือ 45 ออนซ์ในภาชนะที่สามารถหิ้วได้ วางได้

ที่สำคัญคือสามารถดื่มด่ำกับรสชาติได้นานยิ่งขึ้นและดูเหมือนว่าเทรนด์นี้มีข้อดีที่น่าสนใจซึ่งแตกต่างจากแพคเกจทุกอย่างที่เคยมีมา นั้นคือเจ้าถังเปล่าๆ ที่เรากินน้ำหมดแล้วสามารถเอาไปใช้งานอย่างอื่นได้อีกด้วย 
 
แต่คำถามที่น่าสนใจกว่าคือปริมาตรมากขึ้น ความจุมากขึ้นแล้วจะดีกว่าเดิมอย่างไรซึ่งเราประมวลความน่าสนใจมาให้เห็นเป็นตัวอย่างดังนี้

1.ลงทุนซื้อแพคเกจใหม่ (ถัง) ปริมาณยิ่งมาก ต้นทุนยิ่งต่ำ จากที่เราสอบถามในงาน TFBO ล่าสุดซึ่งจัดที่ไบเทคบางนา เจ้าของร้านกาแฟถังซื้อแพคเกจเหล่านี้ในปริมาณ 1,000 ถัง/เดือน ราคาต้นทุนคือใบละ 6 บาท นำมาติดฉลากรวมแล้วต้นทุนเบื้องต้นในส่วนบรรจุภัณฑ์ประมาณ 10 บาท
 
2.ปริมาตรที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนหนึ่งคือน้ำแข็งที่อาจเป็นต้นทุนที่เปลืองมากกว่าเดิมแต่ในส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักจากการสอบถามต้นทุนต่อเดือนค่าวัตถุดิบต่างๆก็ไม่ได้ขยับไปมากนักอยู่ที่หลัก 5,000 บาท/เดือน
 
3.ส่วนนี้สำคัญมากคือการตั้งราคาขายที่เฉลี่ยแล้วเมื่อเปลี่ยนเป็นกาแฟถังจะขายได้ใบละ 40-45 บาท ซึ่งเมนูที่ใช้ก็มีให้เลือกมากมายเหมือนเดิมทั้งประเภทก็ไม่แตกต่างมีทั้งแบบเย็นและแบบปั่น พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในทำเลดีๆ เช่นย่านออฟฟิศ หรือว่าโรงเรียน แต่ละวันอาจขายได้ถึง 200 ถัง เป็นรายได้วันละกว่า 8,000 บาท
 
4.บางร้านมีการพลิกแพลงให้น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มลูกเล่นภายในบรรจุภัณฑ์ให้สามารถใส่น้ำได้ถึง 2 ชนิดในถังเดียวกันเรียกว่า“เมนู 2ใจลังเล”เพิ่มราคาขายจาก 40-45 เป็น 60 บาท เป็นทางเลือกในการเพิ่มพูนรายได้ที่ดีเป็นอย่างยิ่ง
 
และนี่คือรูปแบบที่น่าสนใจแฟรนไชส์หลายแห่งก็เริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบเอากาแฟถังมาเป็นส่วนหนึ่งในการขยายฐานลูกค้า เสียงตอบรับส่วนใหญ่พึงพอใจและคาดว่าในอนาคตอาจมีลูกเล่นแบบใหม่ที่ดีกว่า

ซึ่งตอนนี้ก็มีให้เห็นบ้างแต่ยังไม่ฮืฮฮาเช่นบรรจุภัณฑ์แบบทรงสูงที่มีความสวยงามมากขึ้น อาจอยู่ในช่วงทดลองตลาดแต่ถ้าฮืฮอาเมื่อไหร่เราจะไปตามติดเรื่องนี้มานำเสนออีกทีแน่นอน
 
เรียบเรียงโดย ThaiFranchiseCenter.com
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
633
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
566
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
524
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
444
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
439
ยอดวิวคือพลังการตลาด! ปั้มวิว TikTok ให้แฟรนไชส์..
426
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด