บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    วางแผนขยายธุรกิจ    การสร้างมูลค่าทางธุรกิจ
5.5K
2 นาที
19 ตุลาคม 2559
11 วิธีของ Howard Schultz ให้คุณรวยด้วยธุรกิจร้านกาแฟ

 
ในยุคที่เราเห็นร้านกาแฟกันมากมายพอๆกับร้านสะดวกซื้อ

ไม่ว่าจะกาแฟโบราณ กาแฟสด กาแฟพรีเมี่ยม ทั้งแบบรถเข็น เป็นแฟรนไชส์ หรือว่าเป็น Coffee Shop สวยงามก็ตามที แต่เมื่อมีจำนวนร้านค้ามากก็ต้องมีเสียงบ่นตามมาว่ามีร้านค้ามากกว่าคนซื้อทีนี้ก็เป็นปัญหาว่าจะทำอย่างไรให้ร้านกาแฟที่เราลงทุนนั้นเติบโตได้ดีท่ามกลางคู่แข่งจำนวนมาก 
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าคงไม่มีใครสอนธุรกิจการทำกาแฟให้รุ่งเรืองได้ดีเท่ากับ Howard Schultz ผู้ก่อตั้งStarbucks และสามารถขายกาแฟได้กว่าวันละพันล้านบาทเลยทีเดียว
 
จุดเริ่มของ Starbucks

ในปี 1971 ร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งได้เกิดขึ้นในรัฐ Seattle สหรัฐอเมริกาหลังจาก Howard Schultz ได้ซื้อต่อกิจการนี้มาตั้งแต่ปี 1987 โดยเริ่มต้นจากการขายเมล็ดกาแฟดิบคุณภาพดีก่อนจะเริ่มต้นขายกาแฟสดพร้อมดื่มในอีกหลายปีต่อมา กว่า 40 ปีที่พัฒนาจากร้าน Starbucks เล็กๆจนสามารถขยายสาขาได้กว่า 21,000 แห่งใน 65 ประเทศทั่วโลก

สิ่งที่เราอยากเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องผลกำไรแต่คือKnowhowว่าร้านเล็กๆในวันนั้นต้องใช้วิธีอย่างไรเพื่อให้ยิ่งใหญ่ระดับโลก

11 แนวคิดสู่ความสำเร็จของ Howard Schultz กับStarbucks แบรนด์กาแฟระดับโลก
 
Howard Schultz เป็น CEO ที่ให้ความสำคัญกับ Passion ในการทำงาน แม้จะยอมรับว่าชื่นชอบกาแฟแต่สิ่งที่เหนือกว่าคือ “ความหลงใหลในการสร้างธุรกิจ” หัวใจของ Starbucks คือการส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าแก่ชีวิตผู้คนด้วยวัฒนธรรม  Starbucks จึงเป็นบริษัทแห่งแรกในอเมริกาที่มีการเสนอหุ้นแก่พนักงาน

แม้กระทั่งพนักงานพาร์ทไทม์ก็มีโอกาสที่จะถือหุ้นของบริษัทได้เช่นกัน และนี่คือจุดแข็งแบบภาพรวมที่ทำให้ Starbucks เป็นแบรนด์กาแฟที่ทุกคนให้การยอมรับระดับโลก ซึ่งนอกจากนี้ยังมีอีก 11 แนวคิดที่ Howard Schultz นำมาใช้เป็นหลักการบริหารที่ถือว่าได้ผลดียิ่ง
 
1.กำหนดภารกิจให้เป็นเพียงหนึ่งเดียว

คำกล่าวหนึ่งของ Howard คือ “To inspire and nurture the human spirit-one person, one person, one cup, and one neighborhood at time” หมายถึงการเป็นที่พิงใจให้ผู้คน หนึ่งคน หนึ่งถ้วย หนึ่งหมู่บ้าน ก็คือจุดยืนที่ชัดเจนว่า Starbucks ไม่ได้ขายแค่กาแฟแต่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้ทุกคนสามารถปลีกออกมาจากสังคมที่วุ่นวายเพื่อเจอเพื่อนสนิท เพื่อนัดพบหรือพูดคุยได้อย่างเป็นกันเอง
 
2.ต้องพูดคุยกับลูกค้า

สิ่งที่ Starbucks สอนคือให้พนักงานสอบถามความต้องการของลูกค้า หากเป็นลูกค้าใหม่พนักงานต้องเสนอตัวเข้าช่วยเหลือว่าลูกค้าต้องการอะไร เป็นการสร้างความสัมพันธ์ง่ายที่มีประสิทธิภาพมาก เมื่อรู้ความต้องการ พนักงานก็สรรหาสิ่งที่ต้องการมาให้ เท่ากับเป็นการปิดการขายได้อย่างถาวรและยาวนาน
 
3.ต้องรู้จักชื่อลูกค้าและพนักงาน

Starbucks ให้ความสำคัญกับ Relationship ทั้งลูกค้าและพนักงาน ยิ่งเป็นลูกค้าประจำยิ่งต้องจำทั้งชื่อลูกค้าและเมนูที่สั่งประจำ เป็นการสร้างความภักดีให้กับแบรนด์สินค้าสร้างการยอมรับและจดจำได้เป็นอย่างดี
 
4.รู้จักประยุกต์การใช้เทคโนโลยี

Starbucks ตอบสนองความต้องการในโลกยุคไอทีด้วยการเพิ่มบริการ Wi-Fi ฟรี และเมื่อพบว่ามีลูกค้าที่ต้องการความรวดเร็วและนำกลับไปทานที่อื่นจึงพัฒนากาแฟซองสำเร็จชื่อ Starbucks VIA Ready Brew รวมถึงนำเทคโนโลยีชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นมาใช้ กลายเป็น Retailer กลุ่มแรกๆ ที่เข้าสู่ Mobile Technology
 
5.มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า
 
Starbucks ให้ยึดถือความเชื่อที่ว่าลูกค้าส่วนมากเป็นคนดี ดังนั้นเมื่อลูกค้าบอกว่าเสิร์ฟกาแฟผิดจะต้องเปลี่ยนสินค้าให้อย่างไม่มีเงื่อนไข Starbucks เชื่อว่าทุกคนมีโอกาสทำผิดพลาด แต่การยืดอกรับผิดคือการแสดงความเป็นมืออาชีพตัวจริง
 
6.ต้องเข้าถึงในทุกพื้นที่
 
Starbucks ไม่คำนึงว่าจะมีคู่แข่งในพื้นที่มากมายสักแค่ไหน สิ่งที่ Starbucks ต้องการคือ การปรากฏอยู่ทุกที่ เข้าถึงได้ง่าย แม้บางแห่งจะเป็นสถานที่ไม่น่าสนใจนักก็ตาม การทำเช่นนี้ทำให้แม้แต่พื้นที่เล็กๆก็ยังเป็นทางเลือกของลูกค้ารายใหม่ๆได้เช่นกัน
 
7.เพิ่มการตลาดโซเชี่ยล ขายโดยไม่ต้องขาย

Starbucks ใช้โซเชี่ยลทำตลาดได้อย่างชาญฉลาดไม่ว่าจะเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม แต่ละโพสต์ของ Starbucksไม่เน้นขายของแต่เป็นการส่งมองเรื่องราวดีๆ ผ่านทางรูปภาพเป็นแนวคิดการสร้างStory ที่น่าสนใจและสร้างความประทับใจให้ผู้ติดตามได้กดไลค์กดแชร์ กลายเป็นComment มหาศาล เป็นเหมือน Viralที่แผ่ขยายวงกว้าง

8.ปรับปรุงสินค้าให้เข้ากับแต่ละท้องถิ่น
 
Starbucks นั้นมีสาขาอยู่ทั่วโลก สิ่งสำคัญคือการศึกษาถึงเชื้อชาติ รสนิยมของแต่ละท้องที่เพื่อปรับเมนูให้สอดคล้องกับความต้องการนั้น จึงเป็นเหตุสำคัญที่ทำไม Starbucks ถึงครองใจคอกาแฟได้ทั่วโลก
 
9.มีคุณภาพเดียวกัน
 
แต่ทั้งนี้การปรับเมนูในแต่ละประเทศ สูตรของ Starbucks ในประเทศนั้นๆ ต้องเหมือนกันทั้งประเทศ แต่สิ่งที่เหมือนกันทั่วโลกคือคุณภาพในการบริการ ที่กลายเป็นจุดแข็งทางการตลาดที่สำคัญอย่างมาก
 
10.รู้จักการสร้างเครือข่ายพันธมิตร เพื่อขยายธุรกิจให้ก้าวไกล
 
แม้ว่า Starbucks จะมีสาขามากมายแต่การสร้างไมตรีเพื่อต่อยอดธุรกิจนั้นก็สำคัญมาก ดังนั้น Starbucks จึงจับมือกับ Barnes and Noble นำร้านกาแฟไปเปิดในร้านหนังสือ หรือการจับมือกับ Apple ให้คนสามารถซื้อเพลงที่ได้ยินในร้านผ่านทาง iTune
 
11.ต้องสร้างทัศนคติที่ดีในการทำงานแก่ผู้นำ
 
กำไรของธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญแต่คนสำคัญที่ทำให้เกิดกำไรคือลูกค้า Starbucks จะอบรมผู้บริหารให้เข้าใจในปรัชญาข้อนี้เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า รวมถึงการถ่ายทอดความตั้งใจนี้ไปถึงพนักงานทุกคนในสาขาเพื่อให้มีปรัชญาการทำงานที่เป็นแบบเดียวกันทั้งหมด
 
และนี่เป็นตัวอย่างของการสร้างธุรกิจที่น่าสนใจ และคงคลายความสงสัยว่าต้องทำอย่างไรให้สร้างกำไรด้วยร้านกาแฟได้อย่างยั่งยืนสิ่งสำคัญคือการนำแนวคิดเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับแบรนด์ไม่จำเป็นต้องเหมือนทั้งหมดแต่ให้ใกล้เคียงและมีแนวทางคล้ายๆกันธุรกิจร้านกาแฟที่ลงทุนจากแบรนด์เล็กๆตอนนี้ก็อาจจะกลายเป็นแบรนด์ใหญ่ติดระดับโลกในอนาคตก็เป็นได้
 
และสำหรับใครก็ตามที่กำลังคิดหาลู่ทางเกี่ยวกับการทำธุรกิจร้านกาแฟ เรารวบรวมแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จและพร้อมเป็นทางลัดให้การลงทุนนั้นได้ผลเร็วยิ่งขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ goo.gl/nZwn5s
 
ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/9pNAAb , goo.gl/DVrDpo
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
605
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
496
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
418
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด