บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การโฆษณา ประชาสัมพันธ์
5.0K
2 นาที
28 ตุลาคม 2559
ชูจุดเด่นเป็นจุดขาย! การตลาดที่ทำให้รวยเร็วยิ่งขึ้น


ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่กับการที่สินค้าแต่ละแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์ที่โชว์จุดเด่นที่ตัวเองมี

ทั้งนี้กลยุทธ์การโชว์จุดเด่นนี้มีความหมายซ่อนอยู่ในตัวเองหลายอย่างที่สำคัญคือ สร้างภาพลักษณ์ให้ดูโดดเด่นและเพื่อกลบจุดด้อยที่ตัวเองอาจจะด้อยกว่าคู่แข่ง เรียกว่าเป็นการใช้จุดใหญ่มากลบจุดอ่อน

แต่เทคนิคนี้จะใช้ได้ผลจริงๆกับแบรนด์ที่รู้จักจุดแข็งของตัวเองอย่างแท้จริงแต่ถ้าไม่เข้าใจตัวเองหาจุดเด่นยังไม่ได้ขอแนะนำว่าวิธีนี้คงไม่เหมาะจะใช้เพราะนอกจากไม่ทำให้ตัวเองโดดเด่นอาจทำให้คู่แข่งเห็นจุดบอดของธุรกิจเราได้มากขึ้นอีกต่างหาก

ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com มีตัวอย่างสินค้าที่เอาวิธีชูดจุดเด่นเป็นจุดขายแล้วได้ผลดียิ่ง แนะนำว่าดูได้ เลียนแบบได้ แต่ต้องมั่นใจก่อนว่าสินค้าของเราจุดแข็งอยู่ตรงไหนกันแน่ๆ
 
1. Innisfree เครื่องสำอางแบรนด์เกาหลี ชูจุดเด่นความเป็นธรรมชาติบนเกาะเชจู
Innisfree เป็นแบรนด์เครื่องสำอางจากเกาหลีที่เน้นใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติบนเกาะเชจู และนี่ก็คือจุดแข็งที่น่าสนใจและ Innisfree ก็หยิบยกเอาเรื่องนี้มาทำการตลาดได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

สิ่งที่ Innisfree ทำคือการผลิตสินค้าไฮเทคในซุ้มสินค้าหรือบูธของ Innisfree โดยผลิตเป็นแว่น VR ที่ทำให้ผู้สวมใส่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเกาะเชจูได้ทั้งหมดราวกับการปั่นจักรยานเที่ยวเล่นบนเกาะกันเลยทีเดียว

ลูกค้าที่ได้สวมแว่นนี้ใช้เวลาเพียง 3 นาทีก็สามารถชมความงามตามธรรมชาติของเกาะเชจูได้ทั้งบนบกและโลกใต้น้ำ แนวคิดนี้เริ่มใช้ในประเทศจีนและมีแนวโน้มว่าจะขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้ด้วย
 
2. Coke Zero ชูจุดเด่นคือความหลากหลายของรสชาติ

แบรนด์อย่าง Coke ถือว่าเป็นเจ้าตำหรับลูกเล่นสารพัด โฆษณาแทบทุกตัวของ Coke มีความขี้เล่นแบบเป็นธรรมชาติซ่อนอยู่ทุกครั้ง แม้กระทั่งการโปรโมท3 เครื่องดื่มภายใต้ตระกูล Coke

อันได้แก่ Coke Zero เข้มข้นเท่าเดิมแต่แคลอรี่ต่ำ, Coke light หรือ Diet coke ไม่มีน้ำตาล , Coke life ฉลากสีเขียวให้ความหวานจากหญ้าหวาน ให้วัยทีนได้เข้าใจความแตกต่างและแยกแยะดีไซน์ของขวดได้ชัดเจน

ทีมงานจึงเชิญ Justin Flom นักมายากลวัยทีนที่ดังไปทั่วโลก ให้มามาปลอมตัวเป็นบ๋อยในร้านอาหาร และโชว์ทริกมายากลเจ๋งๆ อย่างการเสกโค้กคลาสสิกให้กลายเป็นโค้กรสอื่นๆ ได้ในพริบตา ประทับใจลูกค้าได้เต็มๆ
 
3. Esurance ธุรกิจประกันภัยชูจุดเด่น “เน้นความปลอดภัยในการขับขึ่” 

แคมเปญของ Esurance ชิ้นนี้อิงกระแสเกมส์ Pokemon Go ที่โด่งดังเมื่อสัก 2 เดือนก่อนกับแคมเปญที่ชื่อว่า“Don’t Catch and Drive “ (อย่าจับตอนขับ) โดยได้เอเยนซี่อย่าง Leo Burnett มาทำแคมเปนี้ โดยการสร้าง 3D โมเดล มอสเตอร์ที่ชื่อว่า Fenderbendix ขึ้นมาและจัดฉากว่ามีคนขับรถพยายามจับเจ้า Fenderbendix จนทำให้เกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับรถขายฮอทดอก

ซึ่งเกือบจะทำให้คนขายบาดเจ็บไปด้วย เป็นการสร้างสรรค์งานเพื่อเรียกความสนใจจากผู้สัญจรไปมาบนถนนที่แสนวุ่นวายของเมืองใหญ่อย่างชิคาโก้ นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดกระแสบนโลกออนไลน์ได้อีกด้วย
 
4. NESCAFÉ ชูจุดเด่น “ดื่มกาแฟก็เหมือนจังหวะสนุกๆของชีวิต”

ชื่อของ NESCAFÉ นั้นให้ความสำคัญกับเรื่องของดนตรีเป็นหลัก โฆษณาทุกชุดต้องมีเรื่องดนตรีมาเกี่ยวข้อง ครั้งนี้ก็เช่นกัน การโปรโมทสินค้าอย่าง NESCAFÉ Dolce Gusto จึงจับเอาศิลปินฮิพฮอพอย่าง Will.i.am มาถ่ายทอดการชงกาแฟพร้อมเสียงเพลง เมื่อเพลงจบกาแฟก็เสร็จพอดี โดยต้องการสื่อสารว่าการชงกาแฟก็เหมือนกับจังหวะของดนตรี

ซึ่งหากมีจังหวะที่ดีกาแฟที่ได้มาจะสมบูรณ์แบบ ทั้งความหอมและรสชาติกาแฟที่ละมุนกลมกล่อมเฉกเช่นเดียวกับดนตรี ทั้งนี้ยังสอดแทรกการรณรงค์การเหยียดผิวไว้ในโฆษณาโดยสื่อให้เห็นว่าสีดำของกาแฟและสีขาวของครีมสมารถเข้ากันได้โดยไม่ต้องแบ่งแยกอีกด้วย
 
5. Nissin ชูจุดเด่น “การเป็นตำนานความอร่อยที่อยู่คู่ประเทศญี่ปุ่น” 

ลักษณะของ Nissin ก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานคล้ายกับ “บะหมี่ถ่งอี” แบรนด์บะหมี่ที่ดังที่สุดของไต้หวัน โดยเป้าหมายของการโฆษณาในลักษณะนี้คือต้องการบอกเล่าให้ผู้บริโภคทราบว่า Nissin คู่กับคนญี่ปุ่นมาเกือบ 60 ปี และก็ถูกใจกันทุกคน ทันทุกกระแส! และเป็นที่ต้องการมาทุกเจนเนอเรชั่น อีกทั้ง Nissin ก็ยังมีการพัฒนาตามสังคมที่ทันสมัยเรียกว่าต่อให้ยุคสมัยเปลี่ยนไป Nissin ก็ยังไม่เคยหายไปไหนนั่นเอง
 
6.HomePro ชูจุดเด่น “บ้านคือชีวิต”

HomePro ให้ความสำคัญกับธีมลักษณะนี้มาโดยตลอด มีหลายแคมเปญที่เราอาจจะเคยเห็นก่อนหน้าที่ HomePro ต้องการบอกว่าบ้านนั้นสำคัญกับชีวิตคนเราแค่ไหนและในวาระที่ HomePro ฉลองครบรอบ 20 ปีจึงไม่พลาดจับธีมนี้ขึ้นมาอีกครั้งกับภาพยนตร์โฆษณาแนว Emotional 2 เรื่องคือ “ได้ยินเสียงแคน แล้วอ้ายคิดฮอดบ้าน” กับ “หนูนอนไม่หลับครับพ่อ” แน่นอนว่าเป้าหมายคือต้องการให้ทุกคนใส่ใจดูแลบ้านและหาสินค้าที่ดีที่สุดมาแต่งบ้านให้ดูสวยงามนั่นเอง
 
7. KFC ชูจุดเด่น “ความเป็นสุดยอดแบรนด์ที่ดีที่สุด”

จากการวิเคราะห์การตลาดของ KFC ทำให้การันตีว่านี่คือแบรนด์ระดับโลกที่คนนิยมสูงสุดแม้จะมีคู่แข่งเกิดมามากมายแต่ก็ยังไม่อาจแซงหน้า KFC ได้อยู่ดี โฆษณาของ KFC ชุดที่ต้องการโปรโมทเมนูใหม่อย่าง Little Chicken Sandwich

จึงจัดฉากการต่อสู้ระหว่าง “ผู้พันแซนเดอร์หุ่นบึ้ก” ซึ่งเป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพ มาลงสนามกับ “ตัวมาสคอตไก่ย่าง” แบรนด์คู่แข่งโดยใช้เวทีการแข่งขันมวยปล้ำของสมาคมมวยปล้ำ WWF แน่นอนว่าโฆษณานี้ทำให้ผู้ชมเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าสุดท้ายแล้วใครคือผู้ชนะและเมนูใหม่อย่าง Little Chicken Sandwich นั้นน่าอร่อยและน่าสนใจเพียงใด
 
8. Uniqlo แบรนด์เสื้อผ้าระดับโลก ชูจุดเด่น “ชีวิตคือการแต่งตัว” 

Uniqlo ได้ออกโฆษณาใหม่ฉายทั่วโลก โชว์ว่าแบรนด์เข้าใจศาสตร์ของเสื้อผ้า เพราะทุกวันคอยหาตอบว่าทำไมเราต้องแต่งตัว สิ่งที่ Uniqlo ต้องการสื่อสารถึงคนทั้งโลกคือนี่คือแบรนด์ที่คอยสร้างสินค้าใหม่ๆวัตถุดิบใหม่ๆเพื่อให้ชีวิตมีสีสัน มีความสุขทั้งตัวเองและคนรอบข้าง ผ่านการแต่งตัวที่ดีมีสไตล์เป็นของตัวเอง
 
และตัวอย่างการชูจุดเด่นเป็นจุดขายของโฆษณาเหล่านี้น่าจะพอมีประโยชน์สำหรับธุรกิจที่ยังมองไม่ออกว่าต้องการทำตลาดแบบไหนเพื่อครองใจผู้บริโภคให้มากที่สุด ก่อนอื่นใดการตลาดจะดีก็ต้องมีจุดยืนของตัวเอง สินค้าที่สำเร็จระดับโลกต่างก็มีสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น หากคิดจะไปถึงจุดนั้นเช่นกันก็ต้องมองธุรกิจตัวเองให้เข้าใจว่าอะไรคือจุดแข็งของเรากันแน่
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด