บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
16K
2 นาที
24 พฤศจิกายน 2559
10 วิธีสร้างธุรกิจแบบมีกำไรไม่รู้จบ!
 

การทำธุรกิจสิ่งที่เราต้องนึกถึงก็คือกำไร มีวิธีการมากมายที่จะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

แต่การที่ธุรกิจของเรามีความเข้มแข็งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้กำไรมากมายตามไปด้วย ธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่เติบโตได้แต่ก็แค่การประคองตัวให้อยู่ในแวดวงนี้เรียกว่าแทบจะเสมอตัวหรือว่าได้กำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 
ในฐานะของคนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจมานาน www.ThaiFranchiseCenter.com อยากให้ทุกการลงทุนไม่ว่าจะเป็นแค่พ่อค้าแม่ค้า หรือว่าธุรกิจขนาดใหญ่สามารถมองเห็นกำไรจากการขายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำตราบนานเท่านานแต่วิธีการที่จะทำให้ได้อย่างนั้นตามทฤษฏีไม่ใช่เรื่องยากแต่ยากตรงที่ต้องลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังเท่านั้น

10 วิธีสร้างกำไรให้ธุรกิจได้แบบไม่รู้จบ
1. วิสัยทัศน์ต้องชัด

สิ่งสำคัญสำหรับการทำธุรกิจคือต้องกำหนดทิศทางการเดินให้ชัดเจน ยกตัวอย่างของบาร์บีคิวพลาซ่าที่ผู้บริหารบอกกับพนักงานทุกคนว่าเราไม่ต้องการเป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุดแต่ต้องการให้เป็นแบรนด์ที่คนรักมากที่สุด

นั้นคือการสร้างวิสัยทัศน์ที่ทำให้พนักงานทุกคนคิดทุกโปรโมชั่นเพื่อสร้างความพอใจให้กับลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเมื่อความเชื่อมั่นจากลูกค้าเกิดก็กลายเป็นฐานที่สำคัญสร้างกำไรได้ต่อเนื่องอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
 
2. ความลับความสำเร็จของแบรนด์คือ “คน” 
 
แม้สินค้าแทบทุกอย่างจะมีพรีเซนเตอร์เป็นตัวแทนให้คนได้จดจำ ในธุรกิจอาหารปิ้งย่างคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดทุกแบรนด์มีมาสคอร์ตเป็นของตัวเอง แต่สุดท้ายคนที่ต้องพูดคุยกับลูกค้าไม่ใช่มาสคอร์ตเหล่านี้แต่คือพนักงาน หากลูกค้าไม่สามารถรู้สึกได้ถึงคุณค่าของการบริการก็ยากที่จะกลับมาใช้บริการอีกครั้งในภายหลัง

3. ทำคอนเทนต์ให้ปัง ไม่ต้องเสียตังเยอะ 


 
ภาพจาก  goo.gl/RZalHU

การทำคอนเทนต์ดีๆนั้นช่วยให้เราประหยัดค่าโฆษณาได้อีกมากการมีคอนเทนต์ดีๆที่คนจดจำคือการเสริมภาพลักษณ์ที่มีพลังในการดึงดูดลูกค้าอย่างยิ่งเช่น KFCที่หยิบจับเอากระแสในโลกโซเชี่ยลสร้างคอนเทนต์ให้คนจดจำแบบนับไม่ถ้วนเช่นกระแส “เหนี่ยวไก่ฟีเวอร์” “พระเจ้าสร้างคุณ”

หรือแม้แต่สินค้าอย่างไอศกรีมwall ที่สร้างคอนเทนต์เพื่อสังคมเช่นแคมเปญ Celebrate Pride ที่ส่งเสริมให้คู่รักเพศที่สามสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้ เป็นต้น
 
4. เรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเอง ไม่ใช่ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

 
ภาพจาก  goo.gl/BEpRXa

โดยเฉพาะธุรกิจที่มีสาขามากมายการมีจำนวนมากก็เท่ากับแต่ละสาขาต้องเจอปัญหาของตัวเองที่แตกต่างกันไปการบริหารงานที่ดีจึงควรทำให้ทุกสาขามีผู้นำที่แข็งแกร่งเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันได้เองไม่จำเป็นที่ต้องรอ Head Office ช่วยเหลือเท่านั้น

ดูตัวอย่างง่ายจากสาขาของ7-11 ที่กระจายตัวไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเพราะแนวทางของการแก้ปัญหานี้ทำให้สามารถสร้างรายได้ที่ต่อเนื่องมีกำไรอย่างมหาศาลในทุกๆปี
 
5. ผู้นำต้องเล่าเรื่องเก่ง 

 
ภาพจาก  goo.gl/IFdqpM

เรียกว่าเป็นวาทะศิลป์ของผู้บริหารที่จะทำอย่างไรจึงจะปลุกใจพนักงานให้รู้สึกว่าอยากทำงานให้กับองค์รไม่ใช่เพียงเพื่อมาทำงานให้จบๆไปในแต่ละวัน

เรื่องนี้ดูได้จากบทเรียนของนักธุรกิจที่สำเร็จระดับโลกอย่าง Steave Job ที่กล่าวกับพนักงานในบริษัทว่า “ที่นี่ไม่ใช่แค่ที่ทำงานแต่คือบ้านที่คุณต้องช่วยเหลือกันเมื่อคุณช่วยเราเราก็จะช่วยคุณ”

หรืออย่างJack Ma ที่กล่าวกับพนักงานว่า “เราคนเดียวไม่มีทางทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จได้ แต่ถ้าเราร่วมมือกันเรื่องยิ่งใหญ่ก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย” เมื่อพนักงานเต็มเปี่ยมด้วยกำลังใจย่อมผลักดันองค์กรให้ยิ่งใหญ่และมีกำไรมหาศาล
 
6. ผู้นำที่ดีต้องทำให้ผู้ตามรู้สึกว่าผู้นำเป็น “คน” ไม่ใช่เทพ 

 
ภาพจาก  goo.gl/94VxLt

ผู้บริหารระดับสูงที่ไม่ลงมาดูภาคสนามจะไม่มีทางรู้ว่าภาคสนามเกิดอะไรขึ้น ฉะนั้นทำตัวเป็นคน อย่าทำตัวเป็นเทพ เมื่อไหร่ที่คุณเป็นเทพ คุณจะไม่เข้าใจความรู้สึกของคน เราต้องให้ความหมายต่อพนักงานผ่านกิจกรรมและช่วงเวลาที่ดีแก่พนักงาน

มีกิจกรรมสนุกๆระหว่างพนักงานด้วยกัน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลควรมีกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์เจ้าของบริษัทก็ควรร่วมทริปนั้นๆเพื่อให้ทุกเข้าถึงตัวตนได้มากขึ้น ความรู้สึกดีๆจะตามมา ผลงานและกำไรก็เป็นเรื่องดีๆต่อจากนั้นด้วย

7. จริงใจ ให้ใจ แล้วคนจะเชื่อใจเรา 
 
สิ่งหนึ่งที่พนักงานจะเทใจให้กับการทำงานหรือไม่คือการดูความจริงใจของผู้บริหารว่าเห็นคุณค่าในการเป็นลูกน้องมากน้อยเพียงใด หลายบริษัทมีการตั้งเงื่อนไขสร้างแรงจูงใจ มีเบี้ยเลี้ยง รางวัลตามสมควร

สิ่งเหล่านี้ควรมีไว้บ้างโดยเฉพาะกับพนักงานที่อยู่มานานจะได้รู้สึกมั่นใจว่าถึงช่วงเวลาหนึ่งจะมีเงินทุนสำหรับตัวเอง เป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อกันถ้าทำให้องค์กรไปได้ดีชีวิตของพนักงานก็จะดีด้วย
 
8. เรื่องสำคัญต้องแก้ให้ไว  

ยิ่งในยุคที่การแข่งขันมีสูงไม่เฉพาะธุรกิจใหญ่ๆแต่พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดก็สามารถใช้หลักการนี้เพิ่มเสริมเติมกำไรให้ตัวเองได้เช่นกัน ปัญหาที่เจอนั้นจะต้องแยกแยะประเด็นให้ชัดเจน

สิ่งไหนที่สำคัญกว่าต้องรีบแก้โดยด่วนไม่จำเอาทุกปัญหามาแก้รวมกัน เช่น บาร์บีคิวพลาซ่าแต่ก่อนต้องใช้เวลานานในการเสนอพรีเซนเตอร์โฆษณา ก็แก้ปัญหาโดยการใช้ระบบ Line ในการคัดเลือกพรีเซนเตอร์ให้รวดเร็วทำให้ลดขั้นตอนลดเวลา สร้างธุรกิจให้คนรู้จักได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

9. เรื่องใหญ่ต้องค่อยๆแก้ 

ปัญหาของธุรกิจเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน แต่ให้จำไว้ในยามเจอปัญหาใหญ่อย่าใจร้อนต้องค่อยๆปรับแผนและแก้ไขไปทีละน้อยๆ ยกตัวอย่างธุรกิจน้ำอัดลมจากค่ายpepsi ที่เราคุ้นเคยกลายเป็นอีกยี่ห้อที่มาเกี่ยวข้องคือ EST การแยกตัวจาก pepsi มาเป็น EST นี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ของการตลาด

แต่สุดท้ายปัญหาก็ค่อยๆถูกแก้ไขจนทุกวันนี้ผู้บริโภคยอมรับและเข้าใจสุดท้ายก็กลายมาเป็นลูกค้าที่สำคัญของบริษัทเสริมสุขกันมากมายเช่นเดิม
 
10. กล้าที่จะแตกต่างแต่สร้างสรรค์ 
 
การที่จะทำธุรกิจให้มีกำไรได้อย่างไม่รู้จบสิ่งสำคัญคือความแตกต่างที่ทำให้ตัวเองโดดเด่นกว่าคู่แข่ง นั้นหมายถึงพ่อค้าแม่ค้าเองก็สามารถใช้หลักการนี้โดยเน้นที่การสร้างบรรยากาศ การแต่งร้าน เพื่อให้เป็นจุดสังเกต รวมถึงอาจกลายเป็นแลนด์มาร์คของสินค้าเราเอง โดยเฉพาะการออกแบบแพคเกจจิ้งนั้นยิ่งแปลกตายิ่งน่าสนใจยิ่งขายดีมากขึ้น
 
 

สิ่งที่นำเสนอเหล่านี้เป็นเพียงทฤษฏีใหญ่ๆที่ทุกธุรกิจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ผลแต่ความรู้ไม่สำคัญเท่าการปฏิบัติการลงมืออย่างจริงจังจะทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จและมีกำไรจากการทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้นด้วย
 
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,790
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,399
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
700
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
634
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
560
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
489
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด