คำว่า Content Marketing ดูเหมือนจะเป็นคำที่ถูกใช้กันเยอะในแวดวงการตลาด

ยิ่งอยู่ในยุคโซเชี่ยลคำนี้ดูมีพลังและความหมายมากกว่าการเป็น Advertising ธรรมดาๆเพราะถ้าเราลองแทนใจเราเองเป็นผู้บริโภค เราก็คงรู้สึกชื่นชอบ
 

แบรนด์ที่ขยันนำเสนอ Content หรือเนื้อหาที่มีประโยชน์ และมีการดูแลลูกค้าสม่ำเสมอ มากกว่าแบรนด์ที่เน้นโฆษณาขายของเป็นครั้งๆ ไป

 

แต่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าไม่ใช่ทุกๆ แบรนด์ดังจะต้องทำ Content Marketing กันทั้งหมดโดยรายงานของเว็บไซต์ดังในสหรัฐฯอย่าง Marketing Profs และ Content Marketing Institute ระบุว่าธุรกิจกว่า 73% มีการปรับปรุง Content Marketing ให้น่าสนใจขึ้นและอีกกว่า 20 % กำลังศึกษาและจะหันมาทุ่มเทเรื่อง Content Marketing มากขึ้น  

ทั้งนี้เรามี 7 แบบสูตรสำเร็จของ Content Marketing ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากใครที่กำลังพัฒนาเรื่องนี้สามารถเอาไว้เป็นไกด์ไลน์เพื่อสร้างความน่าสนใจเหมือนที่แบรนด์เหล่านี้ทำได้มาแล้ว

 

 

Sears เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการห้างสรรพสินค้าค้าระดับโลก สิ่งที่ Sears ทำคือทำโปรแกรม FitStudio by Sears ซึ่งเปิดให้ลูกค้าที่ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ทาง FitStudio ระบุไว้ก็จะได้แต้มสะสมแบบดิจิทัลเข้าไปที่ Shop Your Way Rewards program และสามารถเอาไปแลกซื้อสินค้าได้

ถือว่า FitStudio ของ Sears นั้นเป็นศูนย์กลางของคนรักสุขภาพและสุดท้ายศูนย์กลางที่ว่านี้ก็ย้อนกลับมาให้กำไรแก่ Sears ในเชิงการทำ membership acquisition, coupon redemption, engagement, และอื่นๆ อีกมาก

 

บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง General Electric (GE) มีการทำ Content ของตัวเองอยู่ในเว็บไซต์ที่เรียกว่า Ecoimagination โดยข้างในเนื้อหาจะแชร์เรื่องราวลึกๆ

รวมถึงทำตัวเป็นเหมือนแหล่งข้อมูลด้านพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน รวมถึงมีการทำแคมเปญบนแพลตฟอร์มวิดีโอของ Twitter ที่เรียกว่า Vine ภายใต้ชื่อ #6SecondScience

ซึ่งเป็นการบอกให้คนทั่วไปทำวิดีโอสั้นๆ อะไรก็ได้ใน 6 วินาทีแล้วแชร์ขึ้นมาบน Vine โดยทาง GE เอาวิดีโอพวกนี้ไปปล่อยต่อบน BuzzFeed และ YouTube แน่นอนว่าเท่ากับเป็นการทำให้คนรู้จัก General Electric ในแง่มุมที่น่าสนใจมากขึ้นด้วย

Content นี้เหมาะมากกับธุรกิจอาหาร เช่น Kraft Foods แบรนด์ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร สร้างเว็บไซต์ชื่อ Kraft Recipes ขึ้นมาเพื่อเป็นชุมชนของคนบนโลกออนไลน์ โดยมี Content ที่สำคัญคือ Kraft recipes ที่เป็นแหล่งข้อมูลของพ่อครัวแม่ครัวและคนที่รักการทำอาหาร สามารถเข้ามาร่วมใน Content นี้และแชร์สูตรอาหารของคนที่เป็นสมาชิกได้

สุดท้ายกลายเป็น Content ที่เติบโตมากมีการทำเป็นหมวดอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอย่าง Comida Kraft ในภาษาละติน และ Kraft Military ที่จับกลุ่มเฉพาะทหาร เป็นต้น

 

 

แบรนด์อย่าง Colgate ไม่ใช่เพียงแค่เราไปซื้อยาสีฟัน แปรงสีฟันแน่นอน แต่ Colgate เริ่มทำตัวเป็นผู้ให้ข้อมูลทางด้านสุขภาพปากและฟัน ปัจจุบันในเว็บไซต์มีบทความมากกว่า 400 บทความ, interactive guides, วิดีโอ, และข้อมูลอีกมากมาย

โดยทาง Colgate ตั้งใจที่จะให้ข้อมูลคุณในเรื่องการดูแลสุขภาพปากและฟันแบบพื้นฐาน การรักษาอาการเสียวฟัน เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการแปรงฟันลูก และข้อมูลเรื่องฟัน Colgate ยังมีเว็บแบ่งออกไปอีกหลายๆ เว็บ เช่น เว็บของหมอฟัน  เว็บสำหรับคุณครู และเว็บสำหรับคุณหนูๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะมาซื้อสินค้าของบริษัททั้งนั้น 

Coke เป็นอีกตัวอย่างชั้นเยี่ยมที่นำเอา Content Marketing มาใช้ร่วมกับ Social Media ในการทำ branding เพราะ Coke ยังเชื่อในเรื่องการทำให้แบรนด์ดูสดใหม่และร่วมสมัยกับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่บนโลกออนไลน์
 

และด้วยจำนวนแฟนบน Facebook กว่า 56 ล้านคน Coke เลยกลายเป็นแบรนด์ที่มีตารางการยิง content marketing ถี่มาก และ Coke ก็ยังมี EkoCycle ที่เป็นการบอกกับลูกค้าเกี่ยวกับทางเลือกในการทำรีไซเคิลด้วยสั้นๆ ก็คือ Coke ทำทุกทางที่จะทำให้แบรนด์ “Coke” ฝังอยู่ในใจผู้บริโภคนั่นเอง

 

เครื่องดื่มชูกำลังอย่าง Red Bull ถือเป็นแบรนด์ที่มีความสัมพันธ์กับเรื่องการใช้พลังงานของคน สิ่งที่จะทำให้ Red Bull ครองใจผู้บริโภคได้จึงเป็น Content ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาผาดโผด ความเร็ว ความแรง

การผจญภัยที่ทำให้อะดรีนาลีนหลั่งไหล (extreme events) ที่สอดคล้องกับแนวทางการให้ “พลังงาน” กับผู้บริโภค content Red Bull จึงมีวิดีโอที่สร้างเอาไว้กระจายบนออนไลน์กว่า 5,000 เรื่องและภาพนิ่งที่น่าสนใจอีกกว่า 50,000 ภาพเลยทีเดียว

เรื่องนี้ต้องยกให้แบรนด์อย่าง Nike ที่มีลักษณะเป็นหา creative concepts และวิธีการใหม่ๆ ที่จะสื่อสารแบรนด์ของตัวเองตลอดเวลา เช่นในปี 1996 ตัดงบโฆษณาบางส่วนเพื่อเปิดเว็บไซต์ Game On, World ที่เปิดให้คนมาร่วมกันแชร์สมรรถนะในการออกกำลังกาย

หรือในบางปีที่ Nike สร้าง Fuelband ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของ Nike’s training App เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่สนใจการออกกำลังกาย ซึ่งส่งผลดีกับแบรนด์ในที่สุด

 

การก้าวขึ้นมาเป็นธุรกิจชั้นนำของสินค้าที่ยกตัวอย่างไปนี้เราไม่มองด้านการลงทุนแต่กลยุทธ์ด้าน Content Marketing ถือเป็นบทบาทสำคัญที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักตัวตนของสินค้านั้นๆได้มากขึ้น

การมีเงินแต่ไม่มีวิธีการจึงไม่สามารถผลักดันให้ธุรกิจไปถึงเป้าหมาย หากคุณคิดจะทำธุรกิจสักอย่างเรื่องเงินเป็นสิ่งสำคัญแต่เรื่องการตลาดในยุคโซเชี่ยลนั้นสำคัญกว่าเพราะนี่คือเข็มทิศที่กำหนดทิศทางของธุรกิจนั้นๆได้ทันทีว่างานนี้จะรุ่งหรือจะร่วงกันแน่

 

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/noGK7M