บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
4.6K
2 นาที
22 มีนาคม 2560
ธุรกิจเล็กก็เป็นใหญ่ได้! กาแฟแบรนด์ G7 ผู้ล้มยักษ์ในเวียดนาม

ภาพจาก  goo.gl/BgxFW1

ปัจจัยสู่ความสำเร็จประการหนึ่งคือผู้ลงทุนต้องรู้จักการคิดบวก หมายถึงต้องมองว่าเรามีโอกาสที่จะทำได้ มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ นั้นคือแรงผลักดันเบื้องต้นที่สร้างเสริมกำลังใจในการทำงานและก็เป็นปรัชญาของนักธุรกิจระดับโลกหลายคนที่ใช้ได้ผลมาเป็นอย่างดี
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ก็มีตัวอย่างของการทำธุรกิจที่เขาไม่สนว่าแบรนด์ตัวเองจะเล็กกว่าคู่แข่ง ไม่สนใจว่าจะเริ่มต้นทีหลัง รวมถึงไม่กังวลใจว่าจะทำตลาดสู้แบรนด์ใหญ่ไม่ได้

และด้วยความคิดนี้ที่ว่านี้ก็ทำให้ Dang Le Nguyen Vu กลายมาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Trung Nguyen ผลิตสินค้าสำคัญคือกาแฟแบรนด์ G7 แข่งกับยักษ์ใหญ่ในตลาดเวียดนามที่มีทั้ง แบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ท้องถิ่นหลายราย แต่สุดท้าย G7 ก็ประสบความสำเร็จในเรื่องการส่วนแบ่งการตลาดและกลายมาเป็นแบรนด์กาแฟอันดับหนึ่งที่คนเวียดนามให้ความนิยมเป็นอย่างมาก

G7 แบรนด์กาแฟอันดับหนึ่งในประเทศเวียดนาม

ภาพจาก  goo.gl/BgxFW1

กาแฟที่ผลิตโดยบริษัท Trung Nguyen ภายใต้แบรนด์ G7 ถือเป็นของฝากท็อปฮิต ใครไปเวียดนามมักซื้อติดไม้ติดมือกลับมา นำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้ให้ประเทศผู้ผลิตเนื่องจากเป็นแบรนด์เวียดนามแบรนด์แรกที่โกอินเตอร์และส่งไปจำหน่ายทั่วโลก

แม้อายุของบริษัทจะเริ่มต้นได้เพียง 14 ปี แต่  Trung Nguyen ก็สามารถต่อกรกับบริษัทยุโรปเก่าแก่นับร้อยปีอย่างเนสเล่และแบรนด์กาแฟท้องถิ่นที่เกิดขึ้นมาก่อนอย่างวีนากาแฟ โดยประวัติของ Dang Le Nguyen Vu ผู้ก่อตั้งบริษัทนั้นแม้จะจบการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์ในเวียดนามแต่ก็สนใจในการทำธุรกิจมากกว่าจะเป็นหมอ

และในยุคเริ่มต้นนั้นสัดส่วนการครองตลาดของเนสกาแฟและวีนากาแฟคือ60% และ 38.45% ตามลำดับ ที่เหลือก็เป็นแบรนด์เล็กแบรนด์น้อย แต่ระยะเวลาแค่ปีเดียวหลังวูแนะนำ G7 เข้าสู่ตลาด

เขาสามารถชิงส่วนแบ่งมาได้ 21.8% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงสำหรับแบรนด์น้องใหม่ ส่งผลให้ส่วนแบ่งของเนสกาแฟลดลงเหลือ 44% และวีนากาแฟเหลือ 28.95% นับจากนั้น ส่วนแบ่งของกาแฟ G7 ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งปี 2011 หรือใช้เวลาเพียง 8 ปี G7 ก็ขึ้นแท่นผู้นำในตลาดด้วยส่วนแบ่ง 38% ขณะที่วีนากาแฟมีส่วนแบ่ง 31% และเนสกาแฟร่วงไปอยู่อันดับ 3 ที่ 27%
    
จากนั้นจนถึงปัจจุบัน G7 กลายเป็นกาแฟขายดีอันดับหนึ่งในเวียดนาม มีส่วนตลาดแบ่งเฉลี่ยที่ 40% และวางจำหน่ายตามร้านและซุปเปอร์กว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ ทั้งยังส่งไปขายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก

รวมถึงในซุปเปอร์มาร์เก็ตดังอย่าง Costco, Emart และ Walmart เป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดจีนและประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และต่อไปนี้คือแนวทางการทำธุรกิจสไตล์ Dang Le Nguyen Vu ทั้ง 5 ประการที่ต้องตั้งใจและทำจริงจึงประสบความสำเร็จได้

1.ถ้าเชื่อมั่นว่าเป็นธุรกิจที่ดีแม้จะดูบ้าบิ่นก็ให้ลงมือทำ

ภาพจาก goo.gl/BgxFW1

ในทศวรรษ 1990 หลังการเปิดประเทศได้ไม่นาน และเวียดนามเริ่มหันมาทดลองปลูกกาแฟเพื่อส่งออก ปี 1996 Vu ตัดสินใจเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ชื่อ Trung Nguyen  ถือเป็นการตัดสินใจที่บ้าบิ่นเนื่องจากคนเวียดนามนั้นมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกับจีนคือดื่มชาเป็นหลัก แต่ Vu ก็เดินหน้าต่อไปกับร้านกาแฟของเขาและไม่ลืมที่จะสร้างความแตกต่างทางธุรกิจด้วยบริการ delivery ด้วยจักรยานคันเดียวที่มีอยู่   
 
2.ทำธุรกิจต้องมองหาช่องทางเติบโตไปพร้อมกันด้วย

ระหว่างที่ขลุกอยู่กับร้านกาแฟเป็นเวลาหลายปี ตลาดส่งออกกาแฟของเวียดนามก็เติบโตส่อแววสดใส ซึ่ง Vu สังเกตว่าเวียดนามส่งเมล็ดกาแฟไปขายบริษัทต่างชาติในราคาถูก ๆ แล้ว

บริษัทเหล่านั้นนำไปผลิตที่อื่นแล้วส่งกลับมาขายในราคาแพง เขาจึงตั้งคำถามว่าทำไมเวียดนามไม่เพิ่มมูลค่าด้วยการผลิตกาแฟเอง ทำไมต้องขายเมล็ดกาแฟราคาถูกๆ ปี 2003 Vu จึงตั้งบริษัท Trung Nguyen ขึ้นมาเพื่อผลิตกาแฟสำเร็จรูป  
 
3.ต้องมีจิตวิญญาณของผู้ประกอบการเต็มเปี่ยม

ภาพจาก  goo.gl/VYth66

ผู้ประกอบการที่ดีต้องกล้าที่จะท้าทายและเปลี่ยนแปลงสิ่งเดิม ๆ ที่เป็นอยู่ อย่างการผลักดันวัฒนธรรมการดื่มกาแฟให้เป็นที่นิยมในประเทศที่ผู้คนคุ้นชินกับการดื่มชามากกว่า นอกจากนั้น ผู้ประกอบการที่ดีไม่มุ่งหวังแต่ผลกำไรอย่างเดียว แต่ควรคำนึงถึงประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับด้วย
 
4.ค้นหาจุดเด่นตัวเองและนำเสนอให้คนรับรู้
 
โดยการสร้างความแตกต่าง สินค้าที่ดีต้องเริ่มจากวัตถุดิบคุณภาพดี นอกจากคุณภาพที่ดีแล้ว ต้องพัฒนาให้แตกต่างจากคู่แข่ง โดยผู้บริโภคต้องบอกความต่างหรือจุดเด่นได้อย่างน้อย 1-2 อย่าง บริษัทอื่นอาจใช้กลยุทธ์ one size fits all คือกาแฟชนิดเดียวแต่วางขายทุกตลาดทั่วโลก แต่ G7 จะพัฒนาสูตรและปรับรสชาติให้ตรงกับรสนิยมผู้บริโภคในท้องถิ่นซึ่งดูจะได้ผลและถูกใจผู้บริโภคมากกว่า
 
5.ต้องเชื่อมั่นในสัญชาตญาณ

ภาพจาก goo.gl/Ghj9Nn

และเมื่อมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไปให้สุดทาง และวันใดที่ประสบความสำเร็จขึ้นมาจอย่าลืมกลยุทธ์การตลาด คือทำอย่างไรก็ได้ที่สื่อให้เห็นว่า local brand ประสบความสำเร็จเพราะเกิดจากแรงสนับสนุนของผู้บริโภค จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกภูมิใจและภักดีต่อแบรนด์ต่อไป
 
จะเห็นได้ว่าคีเวิร์ดสำคัญของการทำธุรกิจในลักษณะของการมาทีหลังใช่ว่าจะเสียเปรียบคู่แข่งทุกครั้งไป การเดินตามหลังก็ทำให้เรามองเห็นในจุดบกพร่องที่คนเดินหน้ามักมองข้ามและพยายามจับจุดนั้นมาเป็นจุดขาย

นั้นคือการพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของคนส่วนมากและรักษาคุณภาพสินค้านั้นให้ดีและต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น การเป็นแบรนด์เล็กก็ใช่ว่าเราจะเล็กเสมอไป ทุกอย่างอยู่ที่แนวทางความคิดการบริหารจัดการไม่ว่าแบรนด์เล็กแค่ไหนก็มีสิทธิ์ยิ่งใหญ่ได้ทั้งนั้น
 

SMEs Tips วิธีปั้นแบรนด์เล็กให้เติบโต
  1. สร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเองและเดินหน้าไปตามแผนที่คิดว่าดีที่สุด
  2. หาจุดแตกต่างของสินค้าและพยายามนำเสนอสิ่งนั้น
  3. เข้าใจสภาพตลาดและทำสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการมากที่สุด
  4. ต้องกล้าได้กล้าเสียในบางโอกาสที่จำเป็น
  5. รักษาคุณภาพและรู้จักการต่อยอดสินค้าให้ดีกว่าเดิม
ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/aqQ6bU
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
514
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
434
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
421
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด