บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
3.1K
2 นาที
23 มีนาคม 2560
ตลาดสาวโสด! กับธุรกิจเครื่องประดับ เติบโตงดงามมาก!

ภาพจาก goo.gl/EgEQ8W

การจับตลาดใดเป็นหลักในการค้าขายก็ต้องดูให้สัมพันธ์กับสินค้าและบริการที่มีอยู่ วันนี้เราลองมาดูกันในหมวดหมู่ธุรกิจเครื่องประดับที่มีตลาดสำคัญคือกลุ่มสาวโสดที่ว่ากันว่าเกิดปรากฏการณ์มากมายที่ส่งผลให้สาวๆนิยมการครองความเป็นโสดมากขึ้น

โดยสถาบันวิจัยเอเชีย (Asia Research Institute) ได้ทำการสำรวจผู้หญิงโสดในเมืองหลวงอายุระหว่าง 30-34 ปี พบว่า ชาวอเมริกันมีจำนวนสูงสุดถึง 45% รองลงมาเป็นญี่ปุ่น 35% ไทย 33% ฮ่องกง 28% สิงคโปร์ 21% และเกาหลีใต้ 19%
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่านี่คือตลาดที่ใหญ่และมีกำลังการซื้อที่สูงเนื่องจากกลุ่มสาวโสดเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีพันธะผูกพัน และมีตำแหน่งหน้าที่การงาน การเงินที่ดี ทำให้สามารถซื้อสินค้าที่ตัวเองพึงพอใจได้อย่างเต็มที่โดยเฉพาะในหมวดหมู่เครื่องประดับที่เป็นของคู่กับผู้หญิงทุกคน

ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บระบุว่าในปี 2566 ผู้หญิงทั่วโลกจะมีรายได้รวมกันถึง 18 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ นั้นคือทิศทางที่เห็นว่ากำลังซื้อในหมู่สาวโสดนั้นมีมหาศาลก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเองว่าจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้ดีแค่ไหน โดย 3 ตลาดสาวโสดที่มีกำลังซื้อน่าสนใจก็ยกตัวอย่างมาให้ดูกัน 3 ประเทศคืออเมริกา ญี่ปุ่น และฮ่องกง
 
1.ตลาดสาวโสดอเมริกัน

  
ภาพจาก goo.gl/5gjOUk

ข้อมูลจาก Employee Benefits Research Institute and Greenwald and Associates ระบุว่า ผู้หญิงในอเมริกาเป็นโสดถึง 55 ล้านคน โดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นสาวโสดที่มีอายุมากกว่า 34 ปีขึ้นไป และจากข้อมูล The US Census Bureau บอกว่าสาวโสดที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปี 40,000 เหรียญสหรัฐขึ้นไปมีอยู่ราว 20%

ซึ่งแต่ละคนใช้จ่ายซื้อเครื่องประดับในแต่ละครั้งเฉลี่ย 500 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้สาวโสดอเมริกัน ยังนิยมซื้อเป็นของขวัญมอบให้กับคนสำคัญในเทศกาลต่างๆ เช่น วันครบรอบวันเกิด วันแม่ วันคริสต์มาส โดยการตัดสินใจซื้อส่วนใหญ่จะไม่เชื่อโฆษณา แต่จะตัดสินใจซื้อจากข้อมูลที่บอกต่อกันมา หรืออ่านรีวิวจากอินเตอร์เน็ต อีกทั้งยังชอบแชร์ประสบการณ์การใช้สินค้าให้แก่ผู้อื่นด้วย 
 
สำหรับเครื่องประดับที่สาวโสดอเมริกันชื่นชอบจะเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความเป็นแบรนด์เพื่อไม่ให้ซ้ำแบบใครโดยแหล่งช็อปปิ้งที่สำคัญอยู่ในห้างสรรพสินค้า

อาทิ J.C. Penney รวมถึงร้านค้าที่มีสาขาอย่าง Walmart ซึ่งมียอดจำหน่ายเครื่องประดับสูงสุดในกลุ่ม Discount store รวมถึงร้านค้าปลีกออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่เติบโตเร็วมาก โดยสาวๆ มักซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน Application โดยมีเว็บออนไลน์ในสหรัฐคือ Blue Nile Inc และเว็บไซต์อย่าง Amazon.com, Bidz.com ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

2.ตลาดสาวโสดญี่ปุ่น

ภาพจาก goo.gl/NPbvHz

สาวญี่ปุ่นยุคใหม่มีแนวโน้มเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น ชอบทำงานนอกบ้าน และจำนวนไม่น้อยที่มีรายได้มากกว่าผู้ชาย จึงทำให้สาวญี่ปุ่นครองความโสดเพิ่มขึ้น เว็บไซต์ matcha-tea.com คาดการณ์ไว้ว่า

ในปัจจุบันผู้หญิงญี่ปุ่นที่มีอายุ 20 ปลายๆ ขึ้นไปจะมีสาวโสดอยู่เกินกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ในด้านตลาดเครื่องประดับในญี่ปุ่น จากข้อมูลของ Euromonitor ระบุว่า มีมูลค่าราว 9,891 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยเครื่องประดับแท้มียอดขายสูงที่สุด ด้วยอัตราการเติบโต 2% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวและผู้บริหารหญิงในญี่ปุ่น ส่วนเครื่องประดับแฟชั่นที่ได้รับความสนใจนั้นจะต้องเป็นชิ้นที่มีเอกลักษณ์พิเศษแตกต่างจากสินค้าของรายอื่นๆ เป็นสินค้าที่มี เรื่องราว ธีมและคีย์เวิร์ดที่สื่อถึงสถานะ การใช้ชีวิต และคุณค่าของการเป็นสาวโสด เช่น บางแบรนด์ใช้ธีมสินค้าว่า “Paradise Singles” เป็นต้น
 
ด้วยเหตุนี้ผู้ค้าเครื่องประดับรายใหญ่ทั้งในโตเกียวและโอซาก้าต่างก็มองเห็นช่องทางที่น่าสนใจนี้บางรายถึงกับหันเป้าหมายมาเจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิงโสดมากขึ้น โดยเริ่มโฆษณาแหวนสำหรับผู้หญิงโสด และใช้คีย์เวิร์ดในการโฆษณาว่า “You’re important enough to buy a diamond for yourself.” โดยแหล่งซื้อเครื่องประดับที่สาวๆ นิยมได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกเครื่องประดับแบบ Stand Alone รวมถึงช่องทางออนไลน์ก็มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นเช่นกัน

3.ตลาดสาวโสดฮ่องกง

ภาพจาก goo.gl/uGXUY6

ผู้หญิงชาวฮ่องกงโดยทั่วไปมีการศึกษาที่ดี มีหน้าที่การงานมั่นคง และรายได้ค่อนข้างสูง เหตุนี้จึงทำให้จำนวนสาวโสดในฮ่องกงเพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลของ Census and Statistics Department พบว่า

ผู้หญิงฮ่องกงที่ไม่เคยผ่านการแต่งงานมีอยู่ราว 3 แสนคน สำหรับไลฟ์สไตล์ของสาวฮ่องกงนั้น นิยมการทำกิจกรรมนอกบ้านไม่ว่าจะลงเรียนคอร์สพัฒนาบุคลิกภาพ ปั่นจักรยาน และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพต่างๆทำให้เรื่องการแต่งกายเป็นสิ่งที่มาคู่กันเพื่อให้ตัวเองดูดีในเวลาที่ออกนอกบ้าน สินค้าเครื่องประดับที่นิยมจึงมักเป็นแบรนด์เนมและสินค้าที่มีดีไซน์แบบใช้นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงเครื่องประดับแฟชั่นสำหรับคนรุ่นใหม่ก็มีแนวโน้มเติบโตดีในตลาดนี้ 
 
แหล่งซื้อเครื่องประดับมีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกเครื่องประดับท้องถิ่น และออนไลน์ โดยช่องทางออนไลน์เป็นที่นิยมมาก แม้กระทั่งสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างก็ขยายช่องทางตลาดผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้ตลาด E-commerce ฮ่องกงมีมูลค่าสูงถึง 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 
 
สิ่งเหล่านี้คือความจริงในแวดวงความสวยความงาม ถือเป็น Niche Market ที่ผู้ประกอบการสามารถใช้เป็นโจทย์ในการทำตลาดได้อย่างตรงจุด รวมถึงสินค้าเครื่องประดับจากไทยเองที่มีเอกลักษณ์ในตัวเองอยู่ไม่น้อย

หากผู้ประกอบการจะนำข้อมูลส่วนนี้มาใช้เพิ่มเติมในการขยับยอดขายหรือสร้างฐานลูกค้ามากขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะวงการเครื่องประดับนี้สิ่งสำคัญคือความถูกใจ ความพอใจของลูกค้า ถ้าเรามีสินค้าที่พัฒนาได้ตรงกับความรู้สึกลูกค้า ราคาจะแพงแค่ไหนส่วนใหญ่ก็จะไม่เกี่ยงขอให้พอใจไว้ก่อนมากกว่า
 
ทั้งนี้ในหมวดหมู่ธุรกิจแฟรนไชส์เราก็มีรวบรวมเรื่องราวแฟรนไชส์ที่เกี่ยวกับความงามไว้เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ goo.gl/lywkoa
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
508
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
412
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด