บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การตลาดออนไลน์ SEO
2.7K
3 นาที
17 พฤษภาคม 2560
รวมสุดยอดวิธีการเป็นพ่อค้าออนไลน์ในยุค 4.0


 
สมัยนี้ใครๆก็อยากเป็นพ่อค้าโดยเฉพาะเมื่อการสื่อสารออนไลน์นั้นทำได้ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ทำให้พนักงานประจำ นักศึกษา คนว่างงาน หรือใครก็ตามแต่มีสินค้าสักชิ้นก็คิดว่าการโพสต์ขายในโลกออนไลน์เป็นอะไรที่ไม่ต้องลงทุนแต่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ แต่ถ้าคิดจะเอาดีทางด้านการเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็ควรจะศึกษาวิธีการขายที่ถูกต้องของแต่ละช่องทางเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุด

ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com ได้รวบรวมเอา 2 ช่องทางใหญ่ของการค้าขายในโลกออนไลน์อย่าง Facebook และ Instagram มานำเสนออีกทั้งยังมีรายชื่อ 7 เว็บไซต์โพสต์ขายของฟรีมาฝากทุกท่านด้วย ใครที่อยากเลือกช่องทางการขายแบบไหนก็เลือกกันได้ตามความเหมาะสม
 
Facebook 

 
การขายของออนไลน์บน Facebook นิยมทำกัน เพราะใช้ต้นทุนต่ำ และเริ่มต้นได้ง่ายที่สุดจากสถิติจากจากสำรวจผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตประเทศไทยใน ปี 2016 มีผู้ใช้งานที่ “ขายของออนไลน์” มากถึง 33.8% ใช้อินเตอร์เน็ตมากถึงวันละ 6.4 ชั่วโมง กิจกรรมที่คนไทยทำมากที่สุดบนอินเตอร์เน็ต คือ เล่น Social Media 96.1% ดู Youtube 88.1% ค้นหาข้อมูล 79.7% อ่าน Ebook 76.7% รับส่งอีเมล์ 75.8% ช้อปออนไลน์ 59.0%

ดังนั้น สำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นทำการค้าบนออนไลน์ Facebook ก็เลยเป็นเครื่องมือยอดนิยมและแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากทำซึ่งเราก็มีวิธีการขายของออนไลน์บนเฟสบุ๊คอย่างได้ผลรวมมา 5 วิธีการด้วยกันคือ 
 
1.เข้าใจหลักการทำงานของ facebook
 
การเรียนรู้และเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์  Facebook.com ทำให้คุณสามารถเลือกสร้างเนื้อหาที่ Facebook ชอบและให้คะแนนมากที่สุด เมื่อได้คะแนนมาก โพสต์ของคุณไม่ว่าจะเป็นในเพจ หรือโปรไฟล์ส่วนตัวจะถูกส่งไปยังหน้า Timeline ของคนที่กด Like หรือติดตามคุณอยู่ยิ่งมีคนเห็นมาก ในทางการตลาดเรียกว่า“การสร้างการรับรู้”
 
2.เลือกสินค้าที่จะมาโพสต์ขาย
 
การเลือกซื้อสินค้ามาขาย หรือการลงทุนผลิตสินค้านั้น ๆ จำเป็นจะต้องกำหนดงบประมาณก่อน เราจะสต็อกสินค้าไว้จำนวนเท่าไหร่ มีแผนในการระบายสินค้าอย่างไร หากสินค้าขายไม่ได้ จะมีวิธีการระบายสินค้าออกยังไง ทุกอย่างจะต้องมี timeline ที่ชัดเจน และพยายามควบคุมการระบายสินค้าให้เป็นไปตามเวลาที่เรากำหนด
 
3.เข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

 
ก่อนจะเริ่มต้นขายของเราต้องตอบให้ได้ก่อนว่าเราขายสินค้าให้กับใคร ขายของที่ตัวเองชอบ หรือลูกค้าชอบ กลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร เอาให้ชัด ๆ เพราะคนทุกคนไม่ใช่ลูกค้าเราต้อง มองเห็นภาพบุคคลเหล่านั้นให้ออกจะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นอายุเท่าไหร่  เพศ  การศึกษา ไลฟ์สไตล์ ที่น่าสนใจ เป็นต้น
 
4. เริ่มทำการตลาดให้สินค้าของคุณ
 
จากการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนนำมาสู่การทำตลาดที่ตรงเป้าหมาย สามารถนำเสนอเนื้อหาที่บ่งบอกว่าว่าลูกค้าจะได้รับอะไรจากการซื้อสินค้าของคุณ คุณสมบัติ สรรพคุณ ของสินค้ามีอะไรบ้าง สินค้าเหมาะกับใคร และการทำตลาดในยุคปัจจุบัน สำคัญมากคือการใส่ความ creative ลงไป เพราะในยุคนี้การแข่งขันสูง มีหลากหลายแบรนด์เกิดขึ้น การสร้างความจดจำ ซึ่งก็มีหลายเทคนิคที่ใช้กันอย่าง Influencers หรือ review เป็นต้น
 
5.บริหารร้านค้า
 
สมัยนี้มีโทคโนโลยีตัวช่วยมากมาย ที่ช่วยให้เราบริหารร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้นทำงานได้ง่ายขึ้น เช่น การโอนเงินเราก็ไม่จำเป็นจะต้องไปถึงธนาคารสามารถโอนผ่าน smartphone ได้ การสั่งสินค้า ดีลงานกับร้านค้าขายส่ง หรือแหล่งผลิตต่าง ๆ ก็สามารถคุยผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ได้ทั้งหมด ในเรื่องของการจัดส่งสินค้า

ถ้าคุณอยากจะหารายได้เสริมแต่เวลาคุณน้อยมากจริง ๆ การเป็นตัวแทนจำหน่ายก็เป็นอีกทางเลือกนึงในการหารายได้ มีร้านค้าออนไลน์หลาย ๆ ร้าน แจ้งลูกค้าตั้งแต่แรกเริ่มเลยว่า ส่งของทุกๆ จันทร์ พุธ ศุกร์ คุณก็อาจจะใช้วิธีเดียวกันนี้ก็ได้ เพื่อให้ตารางเวลาของคุณไม่แน่นจนเกินไป และมีการเตรียมทุกอย่างให้ลงตัวในแต่ละวัน
 
Instagram

 
อินสตาแกรม เป็นช็อปปิ้งมอลล์ที่ถูกใจทั้งวัยรุ่น และหนุ่มสาววัยทำงาน จุดเด่นของอินสตราแกรมคือการเน้นภาพที่สวยงามการจำหน่ายสินค้าผ่าน อินสตาแกรม จึงค่อนข้างดึงดูดใจและได้ผลแต่ก็ใช่ว่าคนทุกคนจะประสบความสำเร็จกับการขายในอินสตราแกรมนี้ลองมาดู 9 วิธีขายของออนไลน์ในอินสตราแกรมให้ได้ผลเป็นเลิศมีอะไรบ้าง
 
1.เช็คความพร้อมให้ตัวเอง
 
อันดับแรกต้องใส่ข้อมูลพื้นฐานให้ครบถ้วนเสียก่อน แต่ความยาวที่กำหนดคือไม่เกิน 150 ตัวอักษรเท่าข้อความที่เราต้องบอกคือ เราเป็นใคร ขายอะไร ติดต่อได้ช่องทางไหน เบอร์โทร เว็บไซต์ วางแผนให้สั้นง่าย กระชับ ได้ใจความ
 
2.ภาพสินค้าต้องสุดเจ๋ง

เราควรถ่ายภาพสินค้าหลายๆมุม เพื่อสื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าและเข้าใจถึงการใช้งานในทันที จัดองค์ประกอบศิลป์ให้สะดุดตา ดึงดูด น่ามอง น่าซื้อ ไม่ต้องใส่ฟิลเตอร์เยอะจนเกินไป
 
3.รายละเอียดอธิบายให้กระจ่าง
 
สิ่งสำคัญคือจุดเด่นของสินค้านั้นว่าคืออะไร ใช้ทำอะไร ขนาด รุ่น ราคา เพราะข้อมูลที่ไม่เพียงพอในบางครั้ง อาจทำให้ลูกค้าไม่เข้าใจ และไม่อยากซื้อสินค้าก็เป็นได้
 
4.สร้างแฮชแท็กให้กับคนสนใจได้ติดตาม


 
เป็นลูกเล่นสำคัญของ อินสตราแกรมที่กระจายไปสู่โซเชี่ยลอื่นๆด้วยเช่นกัน การสร้างแฮชแท็กนั้นอาจจะกลายเป็นไวรัลที่ทำให้คนสนใจสินค้าเราได้มากขึ้นหาก เป็นกระแสที่ดีพอนั้นก็หมายความว่าการตลาดปากต่อปากจะเกิดขึ้นทันที
 
5.ซื้อง่าย ขายคล่อง ช่องทางชำระสะดวก

มีร้านค้านักต่อนักแล้วที่เสียโอกาสไป ในเรื่องของการชำระเงินที่มีขั้นตอนยุ่งยาก หากเราสามารถให้ลูกค้าจ่ายผ่านออนไลน์ได้ทันที ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสการตัดสินใจซื้อได้ อีกทั้งสินค้าบางชนิดยังสามารถผ่อนชำระได้ ก็จะทำให้เพิ่มจำนวนลูกค้าได้อีกรูปแบบหนึ่
 
6.ความเชื่อมั่นช่วยได้ 

สร้างความมั่นใจต่อสาธารณะว่าเรามีตัวตนอยู่จริง อ้างอิงหรือรีวิวลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าของเรา หากเป็นคนมีชื่อเสียงด้วยจะยิ่งดีมาก รวมถึงระยะเวลาการเปิดให้บริการ เช่น เปิดมา 3 ปีแล้ว เป็นต้น
 
7.เพิ่มทั้งลูกค้า เพิ่มทั้งยอดขาย

 
โพสต์ภาพต่อเนื่องและเป็นประจำ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับลูกค้า  จัดแคมเปญหรือกิจกรรมให้คนมาร่วมเล่น ถ่ายภาพแล้วแชร์ กระตุ้นผู้บริโภค ถือเป็นการโปรโมทให้คนรู้จักสินค้ามากขึ้นไปในตัว
 
8.ทีเด็ด Instagramอยู่ที่วีดีโอ

โดยเราสามารถเล่าเรื่องราวของสินค้าและบริการ ผ่านภาพเคลื่อนไหว 30 วินาที เช่น แนะนำวิธีการใช้ สัมภาษณ์ลูกค้าที่เคยใช้ หรือทำเป็นวีดีโอภาพแค็ทตาล็อก
 
9.ปิดการขายให้ไว
 
เมื่อลูกค้าสนใจหรือเข้ามาสอบถาม พยายามพูดคุยหรือติดต่อกลับในทันที เพราะร้านที่ตอบไวกว่าเรามีเยอะแยะมากมาย อย่าปล่อยให้พลาดเด็ดขาด
 
รวม 6 เว็บไซต์สำหรับคนต้องการลงขายของฟรี!
 
เป็นอีกช่องทางของการค้าออนไลน์ที่ใครหลายคนเลือกการนำสินค้าไปโพสต์ขายตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากเฟสบุ๊ค กับอินสตราแกรมที่เป็นสื่อออนไลน์ลำดับต้นๆ และต่อไปนี้คือ 6 เว็บไซต์ยอดฮิตที่คนมีสินค้านิยมเอาไปโพสต์ขายกัตแบบฟรีๆ
 
1. lnwshop.com 

ภาพจาก goo.gl/2Dd28E

นี่คือเว็บที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่การเปิดร้านออนไลน์ใน lnwshop.com เราสามารถมีหน้าร้านออนไลน์สวยๆได้เพราะเขามีแพลตฟอร์มสำเร็จรูปให้เลือกกันมากมายวิธีการลงขายก็ไม่ยากใครๆก็ลองทำดูได้
 
2. weloveshopping.com

 
ภาพจาก weloveshopping.com

เว็บไซค์นี้เปิดร้านขายของออนไลน์แบบไม่มีค่าบริการรายเดือน และยังช่วยโปรโมทร้านให้เราขายดี เมื่อได้โพสต์ขายของที่ เว็บไซค์นี้ แถมเว็บนี้ยังช่วยแยกหมวดหมู่ร้านและสินค้าที่ขาย ทำให้เรามีโอกาสได้ลูกค้าที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นด้วย
 
3. kaidee.com

 
ภาพจาก  kaidee.com

Kaidee เป็นแหล่งซื้อ-ขายของมือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีคนมากกว่า 6.92 ล้านคนเอาของไม่ใช้เอามาเปลี่ยนให้เป็นเงิน ด้วย 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ถ่ายรูป ใส่ข้อมูล กดปุ่มลงขายโดยไม่มีค่าบริการสนใจก็ลองดูได้
 
4. shopup.com 

 
ภาพจาก shopup.com 

ShopUp มีบริการเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ฟรี โดยไม่มีการจำกัดสินค้า เพื่อให้คนที่อยากมีร้านค้าออนไลน์สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายมากขึ้นแ และยังมีรูปแบบธีมเว็บไซค์แบบสำเร็จรูปให้ได้เลือกใช้มากกว่า 2,000 รูปแบบ การออกแบบที่เป็นสากล ทำให้เว็บไซต์ของเราน่าสนใจมากขึ้น 
 
5. tarad.com


 
ภาพจาก tarad.com

เป็นเว็บขายของออนไลน์ที่อยู่มานานมาก มีประสบการณ์ที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ในแบบตัวเอง โดยการลงสินค้าในเว็บนี้ เว็บตลาดจะช่วยหาลูกค้าใหม่ๆให้ด้วย 
 
6. pantipmarket.com


 
ภาพจาก pantipmarket.com

ใครเล่นพันทิปบ่อยๆ ต้องคุ้นกับ พันทิปมาร์เก็ต เว็บซื้อขายสินค้ามือหนึ่ง มือสอง ที่มีสินค้าขายออนไลน์มากกว่า 350,000 รายการ แถมยังมีหมวดหมู่ให้เราได้เลือกและช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง ที่สำคัญลงฟรีเช่นกัน
 
ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเทคนิคและช่องทางการค้าออนไลน์ที่เราได้นำมาฝากกันแต่ถ้าต้องการศึกษารายละเอียดกันจริงๆ แล้วในบทความของเราเองก็มีหลากหลายหัวข้อสำหรับการอัพเดทวงการตลาดหรือเทคนิคการค้าขายแบบใหม่ๆที่เราคอยมานำเสนออย่างต่อเนื่องใครสนใจก็สามารถติดตามรายละเอียดกันได้
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
500
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด