บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
4.6K
3 นาที
2 มิถุนายน 2560
มวยถูกคู่ แบรนด์ Vs สก๊อต 
 
 
ภาพจาก goo.gl/2Ft4Oz,goo.gl/b8AcVu

เชื่อว่าทุกวันนี้ หากใครอยากจะกินซุปไก่หรือรังนก ก็คงต้องเลือกระหว่างจะซื้อ “แบรนด์” หรือ “สก๊อต” ดี เพราะ 2 ยี่ห้อเป็นผู้ผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม ฝั่งแรกคือ “เซเรบอส” ผู้ผลิตซุปไก่สกัด และรังนก “แบรนด์” (BRAND’S) และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอื่นๆ ฝั่งที่สองคือ “สก๊อต อินดัสเตรียล” ผู้ผลิตซุปไก่สกัด-รังนก “สก๊อต (SCOTCH) 
 
ไม่ว่าผู้บริโภคจะเลือกซื้อยี่ห้อไหน ล้วนแต่จะต้องคิดหนักด้วยกันทั้งนั้น เพราะด้วยรสชาติของ 2 ยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นซุปไก่สกัด หรือรังนกแท้ ต่างมีรสชาติไม่แตกต่างกันมากนัก ถ้าจะแตกต่างก็ตรงที่ “ราคา” เท่านั้น เครื่องดื่มแบรนด์จะราคาต่ำกว่าเครื่องดื่มสก๊อตลงมานิดหนึ่ง เพราะแบรนด์ต้องการเจาะกลุ่มตลาดคนทั่วไป 
 
โดยเฉพาะเครื่องดื่มซุปไก่สกัด ซึ่งเป็นตลาดที่มีผู้เล่นเพียงแค่ 2 ราย คือ “แบรนด์” และ “สก๊อต” ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 90:10 นับว่าห่างกันหลายเท่าตัว แต่ถ้าเทียบในเรื่องของเครื่องดื่มรังนกแท้ คงต้องยกพื้นที่ให้กับ “สก๊อต” เขาเลย
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณผู้อ่านไปดูการช่วงชิงพื้นที่การจัดจำหน่ายระหว่าง “แบรนด์” และ “สก๊อต” ว่าใครจะเป็นผู้ได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ ใครจะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของเครื่องดื่มสุขภาพและความงาม  
 
แลกกันหมัดต่อหมัด ช่วงชิงช่องทางขยายตลาดซุปไก่
 
“แบรนด์” แยกทาง “DKSH” หันมาควง “เดอเบล” - “ซีโน-แปซิฟิค”
 

 
ภาพจาก goo.gl/Cbd0QQ

เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ทศวรรษที่ “แบรนด์” (BRAND’S) ในประเทศไทย จับมือกับ “DKSH” บริษัทที่ได้ชื่อว่ามีระบบและเครือข่ายกระจายสินค้าแข็งแกร่งเป็นอันดับ 1 ในไทย และเป็นยักษ์ใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย 
 
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนได้เกิดขึ้น เมื่อ “แบรนด์” แยกทางกับ “DKSH” และได้ใช้จังหวะนี้ ปรับโมเดลธุรกิจครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปีของแบรนด์ ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก
 
1. มุ่งพัฒนาเทคโนโลยี และเปิดตัวทีมขายของ “แบรนด์” กว่า 900 คน ประกอบด้วยทีมขายกว่า 120 คน และทีมส่งเสริมการขายกว่า 800 คน
 
2. สร้างคู่ค้าทางธุรกิจใหม่ โดยผนึกกำลังกับสองผู้จัดจำหน่ายและกระจายสินค้ารายใหญ่ของไทย นั่นคือ “เดอเบล” (Durbell) บริษัทในเครือกระทิงแดง และ “ซีโน-แปซิฟิค” (Sino-Pacific) โดยแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบชัดเจน
 
“เดอเบล” ดูแลช่องทางร้านค้าปลีกและค้าส่ง เนื่องจากมีจุดแข็งเครือข่ายช่องทางร้านค้าปลีก- ค้าส่งกว่า 100,000 ร้านค้าทั่วประเทศ พร้อมด้วยคลังสินค้า 24 แห่ง ใน 20 จังหวัด และหน่วยรถกระจายสินค้า 470 ทีมทั่วประเทศ 
 
โดยตั้งเป้าหมายการจับมือครั้งนี้ว่า จะครอบคลุมการขายผ่านร้านค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น จากเดิมที่แบรนด์มีกระจายเข้า 30,000 ร้าน ขยับขึ้นเป็น 60,000 ร้านค้าภายในปี 2560 และเป้าหมายในอนาคตอยู่ที่การกระจายครอบคลุม 100,000 ร้านค้า ขณะที่ “ซีโน-แปซิฟิค” ดูแลการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าเข้าช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade)
 
 
ภาพจาก www.facebook.com/BRANDSWorldThailand/
 
3. ขยายช่องทางการขายแพลตฟอร์ม E-Commerce เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิตอล ที่หันมาซื้อสินค้าบนออนไลน์มากขึ้น
 
จะเห็นได้ว่า คู่ค้าทางธุรกิจมีความสำคัญต่อ “แบรนด์” มาก ช่วยเพิ่มห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ในด้านการจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเพิ่มความพึงพอใจแก่ลูกค้ามากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจของแบรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องช่องทางการกระจายสินค้า ที่จะสามารถกระจายสินค้าได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ถึงมือผู้บริโภคมากขึ้น 
 
ทำให้ตลาดขยายเพิ่มขึ้นในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงเรามีนโยบายการทำตลาดทั้งแบบเดิมและดิจิตอล รวมทั้งแนวทางบริการงานต่างๆ ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ “แบรนด์” สามารถขยายตลาดสู่ลูกค้าใหม่ๆ
 
โดยยอดขาย “แบรนด์” ในปี 2559 มียอดขายรวม 12,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากซุปไก่สกัด 7,000 ล้านบาท ซึ่งแบรนด์เป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์กว่า 90% แบรนด์รังนกรายได้ 3,000 ล้านบาท โดยปี 2560 ตั้งเป้าหมายเติบโต 8-10%
 
“สก๊อต” ผนึกกำลัง “DKSH” เจาะโชว์ห่วย-ขยายตลาดอาเซียน

 
ภาพจาก goo.gl/5tU6C0

“สก๊อต อินดัสเตรียล” ได้เริ่มก่อตั้งธุรกิจในไทยเมื่อปี 2526 เป็นทั้งผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “สก๊อต” เอง ทั้งค้าปลีกสมัยใหม่ และค้าปลีกดั้งเดิม แต่แล้วในวันนี้ก็ต้องหาคู่ค้าพันธมิตรด้านจัดจำหน่าย
 
จับมือกับ DKSH เป็นพันธมิตรทางธุรกิจเดิมของ “แบรนด์” ถือเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ที่สำคัญของ “สก๊อต” ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจกระโดดเร็วขึ้น และไกลขึ้นกว่าที่ผ่านมา โดยยุทธศาสตร์และเป้าหมายของความร่วมมือครั้งนี้ คือ
  • ยกระดับจาก “Thai Brand” ไปสู่การเป็น “Regional Brand” โดยรุกจากตลาดในประเทศก่อน แล้วจึงสยายปีกออกสู่ตลาดต่างประเทศ เนื่องจาก “DKSH” มีเครือข่ายจัดจำหน่ายครอบคลุมทั้งในระดับอาเซียน และเอเชีย
  • ในปี 2560 ยังคงโฟกัสตลาดในประเทศไทยก่อน โดยตั้งเป้าหมาย 5 เรื่องหลัก คือ
1. DKSH เข้ามาดูแลการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ “สก๊อต” ให้เข้าถึงร้านค้าทั่วไป (Traditional Trade) โดยจะเพิ่มจากเดิมที่มี 10,000 ร้านค้า เป็น 100,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ส่วนช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ “สก๊อต” ยังคงดูแลเอง
 
ผลจากการผลักดันสินค้าเข้าร้านค้าทั่วไปมากขึ้น ย่อมทำให้สัดส่วนการขายในช่องทางนี้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 30% ในปีนี้ และคาดว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้า สัดส่วนการขายระหว่างร้านค้าทั่วไป กับค้าปลีกสมัยใหม่ จะอยู่ที่ 50:50
 
2. การเสริมช่องทางร้านค้าทั่วไปให้มีความแข็งแกร่งขึ้น “สก๊อต” มั่นใจว่ายอดขายซุปไก่สกัดในปีนี้ จะทำได้ 4,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 30% เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ทำได้ 3,300 ล้านบาท โต 6%
 

 
ภาพจาก goo.gl/JTr9zG
 
3. เดินหน้าลงทุนด้าน R&D และนำเสนอสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด โดยยังคงอยู่ใน 4 กลุ่มสินค้าของบริษัท ได้แก่ ซุปไก่สกัด, รังนก, เครื่องดื่มผลไม้สกัดเข้มข้น, เครื่องดื่มคอลลาเจน
4. เพิ่มงบการตลาดจากปีที่แล้ว 450 ล้านบาท เป็น 600 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อรุกตลาดหนักขึ้น
 
5. มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น จากปี 2559 “ซุปไก่สกัดสก๊อต” มีส่วนแบ่งในตลาด 10% ตั้งเป้าขยับขึ้นเป็น 15% ขณะที่ “แบรนด์” เป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาด 90%
  • กำลังการผลิตมากกว่า 700 ล้านขวดต่อปี สามารถรองรับกับความต้องการของลูกค้าในทุกช่องทางการจำหน่าย รวมถึงฐานลูกค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นจากการจับมือกับ DKSH
  • ในปี 2561 หรือ 1-2 ปีข้างหน้าจะขยายออกสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง จากปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่แล้วในเมียนมา, กัมพูชา และลาว โดยยังมีสัดส่วนการส่งออกเพียง 1-2% แต่การบุกตลาดต่างประเทศ จะมุ่งไปที่ตลาด CLMV ก่อน แล้วขยายไปยังประเทศสิงคโปร์, มาเลเซีย, ฮ่องกง โดยให้ “DKSH” เป็นผู้จัดจำหน่ายในทุกตลาด ทั้งอาเซียน และเอเชีย
มาดูกันว่ามูลค่าการตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามของไทยในปี 2559 มีมูลค่ากว่า 15,710 ล้านบาท โดยกลุ่มซุปไก่สกัด 9,000 ล้านบาท และรังนก 3,950 ล้านบาท และในปี 2560 คาดการณ์ว่าตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามจะมีมูลค่าสูงถึง 17,410 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดซุปไก่ 10,000 ล้านบาท ตลาดรังนก 4,500 ล้านบาท ตลาดเครื่องดื่มผลไม้ 2,600 ล้านบาท และตลาดเครื่องดื่มคอลลาเจน 310 ล้านบาท

ตารางเปรียบเทียบ มวยถูกคู่ แบรนด์ vs สก๊อต 
 
 
แบรนด์
 สก๊อต
เจ้าของสินค้า
บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จํากัด
คู่ค้าธุรกิจ
Durbell - Sino-Pacific
DKSH
ส่วนแบ่งตลาด (ซุปไก่สกัด)
90%
10% 
ช่องทางจำหน่าย (ร้านค้า)
100,000
100,000 
กลยุทธ์ธุรกิจ
พัฒนาเทคโนโลยี- ทีมขาย
ขยายตลาด CLMV
ยอดขายซุปไก่ (ล้านบาท)
7,000
4,500
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
793
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
710
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
641
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
522
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
441
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
421
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด