ภาพรวมของธุรกิจแฟรนไชส์ในปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาประมาณ 15% ต่อปี ซึ่งหากไปเทียบกับ GDP ของประเทศแล้วถือว่าสูงกว่ามากเพราะGDP ของประเทศมีอัตราการเติบโตอยู่แค่ 2-4 %ต่อปีเท่านั้น ทั้งนี้แนวโน้มของแฟรนไชส์ยังมีทิศทางการเติบโตที่ต่อเนื่อง

ซึ่งก็คาดการณ์กันว่าธุรกิจแฟรนไชส์จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจเมืองไทยให้เติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยตัวเลขของแฟรนไชส์ในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 550 แบรนด์ และมีสาขาของแฟรนไชส์รวมกันอยู่ที่ราวๆ 90,000-95,000 ราย
 

www.ThaiFranchiseCenter.com ในฐานะที่เป็นเว็บไซต์รวบรวมแฟรนไชส์ไว้มากที่สุดในเมืองไทยมองเห็นความน่าสนใจของธุรกิจนี้และพร้อมกันนี้มีเหตุผลมาสนับสนุนความคิดว่าทำไมคนยุคนี้ถึงสนใจการลงทุนธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์กันมากขึ้น
 

ในแต่ละปีมีนักศึกษาจบใหม่มากกว่า 450,000 คน แน่นอนว่าตำแหน่งงานนั้นไม่สามารถรองรับได้ทั้งหมด การจบปริญญาตรียุคนี้จึงไม่ได้การันตีความสำเร็จ หลายคนต้องว่างงาน ที่สำคัญความคิดของการเป็นนายตัวเองที่มากขึ้นก็ทำให้นักศึกษาบางส่วนตัดสินใจหาแฟรนไชส์มาลงทุนก่อร่างสร้างตัวแทนที่การเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ยุคนี้ก็จ้างถูกแสนถูกเหลือเกิน

2.เงินเดือนไม่พอใช้ต้องหารายได้เสริม
 

สำหรับคนที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไปรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 15,000 -30,000 บาท แต่ในยุคที่สินค้าทุกอย่างมีราคาแพงขึ้นสวนทางกับค่าจ้างที่เท่าเดิม ที่สำคัญอัตราการเติบโตของเงินเดือนในแต่ละปีก็น้อยมากประมาณ 7-10 เปอร์เซ็นต์

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่เกิดภาวะชักหน้าไม่ถึงหลังการพึ่งพาเงินเดือนอย่างเดียวไม่เพียงพอจึงเป็นเหตุผลให้คนส่วนใหญ่หันมามองหาธุรกิจแฟรนไชส์โดยจะเลือกที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนมากเพื่อให้มีรายได้มาเสริมสภาพคล่องให้ตัวเอง

 

3.ทำแฟรนไชส์เพื่อต่อยอดธุรกิจตัวเอง
 

ต้องยอมรับว่าการเติบโตแบบแฟรนไชส์ทำให้ธุรกิจมีอัตราการเติบโตได้เร็วที่สุด ความเสี่ยงก็น้อยที่สุด สมัยก่อนเจ้าของกิจการมักจะเลือกลงทุนด้วยการขยายสาขา

แต่ตอนนี้บางกิจการที่มีความแข็งแกร่งเป็นทุนเดิม ส่วนใหญ่คิดต่อขยายด้วยการเปิดระบบแฟรนไชส์ ซึ่งบางแห่งเริ่มที่จะเรียนรู้และจ้างผู้มีประสบการณ์มาวางรากฐานสู่การพัฒนาธุรกิจให้เป็นแฟรนไชส์มากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดก็คือ ซิงเกอร์แฟรนไชส์ ธุรกิจเก่าแก่กว่า 129 ปี ที่ตัดสินใจเปิดขยายธุรกิจในระบบแฟรนไชส์เป็นที่เรียบร้อย

4.ผลตอบแทนดีกว่าการฝากธนาคาร
 

แฟรนไชส์ก็ถือว่าเป็นการลงออมแบบหนึ่ง และเป็นการออมที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการได้เงินฝากประจำที่ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยฝากประจำต่อปีนั้นไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หลายคนที่มีเงินเก็บอยู่บ้างจึงเลือกเอามาต่อยอดลงทุนในแฟรนไชส์ที่ส่วนใหญ่มีการเซตระบบทุกอย่างให้พร้อมโอกาสได้กำไรมีสูงยิ่งมีทำเลดีโอกาสทำกำไรก็ยิ่งมาก

 

5.ไลฟ์สไตล์ของพ่อแม่ยุคใหม่
 

ครอบครัวไทยสมัยก่อนจะประคบประหงมลูก เรียกว่าเลี้ยงลูกตั้งแต่เล็กยันโต แต่เดี๋ยวนี้คนไทยเริ่มเลี้ยงลูกแบบปล่อยให้พึ่งตัวเองมากขึ้น เห็นได้ว่าพ่อแม่หลายคนฝึกให้ลูกรู้จักขายของตั้งแต่เด็ก เพื่อให้ลูกได้มีประสบการณ์ทั้งเพื่อมารับช่วงต่อกิจการหรือให้ออกไปมีกิจการของตัวเอง 

 

 

เมื่อก่อนกรุงเทพฯจะเป็นศูนย์รวมของความศิวิไลต่างๆ แต่สมัยนี้ตามจังหวัดใหญ่ในต่างจังหวัดมีทุกสิ่งทุกอย่างแทบไม่ต่างจากกรุงเทพ แสงสีเสียง ความทันสมัยเหล่านั้นก็ดึงดูดให้เมืองกระจายตัวออกสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น เป็นโอกาสที่ทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์เกิดและเติบโตไปพร้อมกับความเป็นเมืองที่กระจายไปทั่วประเทศมากขึ้นด้วย 

 

อย่างไรก็ดีแม้การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์จะมีความน่าสนใจอยู่มาก แต่ในฐานะผู้ลงทุนก็ต้องรู้จักเลือกแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับตัวเอง แม้แฟรนไชส์จะมีการเซตระบบมาให้อย่างดีแต่เราก็ต้องศึกษาเทคนิควิธีการให้ดีร่วมด้วย ที่สำคัญการลงทุนควรเริ่มจากน้อยไปหามากเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น กำไรมากขึ้นก็ค่อยขยายธุรกิจตัวเองให้ใหญ่ขึ้นด้วย

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S