นับตั้งแต่เปิดตัว youtube ในประเทศไทยขึ้นมาช่องทางนี้มีหลายคนสนใจเข้าไปสร้างรายได้กันอย่างครึกครื้น กูรูหลายท่านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าการเป็น youtuber ที่ดีต้องมีสไตล์ของตัวเองอย่าไปลอกเลียนแบบใคร ต้องรู้จักฉีกแนวคิดในการนำเสนอ เพื่อดึงดูดใจให้คนอยากติดตาม

ที่สำคัญอย่าไปอิงกระแสคนนิยมทำในสิ่งที่คนอื่นเขาทำกัน ถ้านำเสนอความเป็นตัวเองออกมาได้ชัดเจนเท่าไหร่โอกาสแจ้งเกิดจะมีและถ้าเป็นคนที่เริ่มต้นใหม่อย่าถอดใจในช่วงแรกเด็ดขาด เพราะการเป็น youtuber ที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่การชงไวไวหรือมาม่าจำเป็นต้องมีระยะเวลาในการรอคอยทั้งสิ้น

 

หนึ่งในตัวอย่างชัดเจนที่ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Ketchup Jo หนึ่งใน youtuber ยอดฮิตที่มีคนติดตามมากกว่า 602,819 คน

โดยเนื้อหาของช่องนี้เน้นที่การทดลองวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ซึ่งในเมืองไทยคนที่ทำyoutube แนวนี้มีน้อยมากจึงไม่น่าแปลกใจว่าคลิปที่ปล่อยลงไปยอดคนดูถึงเกินกว่าหลักแสน และบางคลิปที่ยอดนิยมมากๆคนดูเกินกว่า 2 ล้านคนเลยทีเดียว

 

 

 

ช่อง Ketchup Jo เปิดตัวโพสคลิปแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 ในที่นี้เราขอเรียกว่าพี่โจแล้วกันนะครับ 

ส่วน Ketchup นั้น (อ่านว่า เคท-ชอป) หมายถึงยี่ห้อของซอสมะเขือเทศที่วางขายในอเมริกา โดยครั้งหนึ่งพี่โจได้ไปศึกษาต่อที่อเมริกาและก็เหมือนคนไทยทั่วไปที่นิยมกินพิซซ่ากับซอสมะเขือเทศซึ่งคนอเมริกันเขาไม่ค่อยนิยมแบบนี้ คนอเมริกันจึงเรียกพี่โจว่า Ketchup ที่อ่านอีกแบบได้ว่า Catch-up หมายถึง “ตามให้ทันนะ”
 

เมื่อพี่โจกลับมาเมืองไทยและอยากเปิดช่องยูทูปของตัวเองชื่อแรกที่คิดถึงจึงเป็น Ketchup Jo ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเองได้อย่างดีที่สุด

 

 

ถามว่าเนื้อหาในการทำยูทูปมีมากมายทำไมพี่โจต้องมาทำเนื้อหาเกี่ยวกับการทดลอง คำตอบเรื่องนี้น่าสนใจพี่โจบอกว่า

“ก่อนหน้าที่จะมาเป็นช่องยูทูปตัวเอง ก็เคยทำงานสื่อออนไลน์ร่วมกับเพื่อน รวมถึงการที่เคยได้ไปอยู่ต่างประเทศก็เห็นยูทูปมาหลากหลายแนว ยูทูปเมืองไทยส่วนใหญ่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันไปหมด

ที่สำคัญมักจะเน้นให้คนฮิต เพื่อให้ช่องเป็นที่รู้จัก พี่คิดว่าเราอยากดึงความชอบของตัวเองมานำเสนอ อยากเป็นยูทูปที่คนดูดูแล้วมีสาระ ไม่น่าเบื่อ ถ้าจะไปทำแนวอื่นที่เราไม่ถนัดมันก็ยาก อาศัยความชอบรู้ ชอบทดลอง ก็เลยลองทำเนื้อหาแนวนี้ และคนไทยส่วนใหญ่ชอบคิดว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องยาก เราก็เลยอยากแปลงภาษายากๆในหนังสือให้มาเป็นเรื่องเข้าใจง่ายผ่านการนำเสนอนี้”

 

คลิปแรกๆที่พี่โจปล่อยลงยูทูปคนดูประมาณ 20,000 กว่าจากนั้นก็มีฐานคนดูและคนติดตามเพิ่มมากขึ้นจนในระยะหลังแทบจะทุกคลิปของพี่โจคนดูเกินกว่าหลักแสน ทุกเรื่องที่พี่โจทำการทดลองจะเป็นการหยิบเอาสิ่งที่คนสงสัยมาทำการทดลองให้เห็นโดยใช้อุปกรณ์ง่ายๆที่หาได้ทั่วไป รวมถึงวิธีการนำเสนอที่เข้าใจง่าย จึงทำให้ช่อง Ketchup Jo เป็น Channel ที่ฮอตฮิตมาก

 

 

 

ช่อง Ketchup Jo ในช่วง1 ปีกว่าที่ผ่านมาอัพโหลดเนื้อหาไปแล้วไม่น้อยกว่า  120 ตอนซึ่งมีหลายตอนที่คนดูมากกว่า 2 ล้านคน อย่างเช่น ตอนเล่น “FIDGET SPINNER ขั้นเทพกว่า!!! สุดยอด Tricks!!”  ยอดวิวกว่า 2,598,452 ,  ตอน “อะไรคือลูกอมผ้าเย็น??” ยอดวิว 2,120,424 ครั้ง  หรือตอน “กระดาษตัดอะไรได้บ้าง?” ที่มียอดวิวกว่า 1,698,200 ครั้ง

นอกจากนี้ยังมีตอนที่น่าสนใจอย่าง “ลักน้ำยังไงโดยไม่ต้องใช้ปากดูด?? กาลักน้ำ!!” ซึ่งหลังจากที่ปล่อยคลิปเหล่านี้ออกไปก็มีฟีดแบดตอบกลับมาจากผู้ชมทั้งการลองทำตามและการเสนอแนะความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงบางคนที่เอาการทดลองเหล่านี้ไปต่อยอดทำให้แปลกใหม่ยิ่งขึ้นและส่งเป็นคลิปกลับมาให้ดู

 

ความภาคภูมิใจของพี่โจในการเป็น youtuber นั้นไม่ได้มองที่เรื่องของรายได้ แต่เนื้อหาของพี่โจต้องการสะท้อนความคิดตัวเองไปสู่ผู้อื่น การทำงานของพี่โจ ไม่ได้มีทีมงานหลายคน

ส่วนใหญ่จะทำคนเดียวทั้งการสคริปต์ หาสถานที่ หาอุปกรณ์ รวมถึงการตัดต่อการอัพโหลดคลิป โดยทั่วไปต่อ1คลิปจะใช้เวลาในการทำงานประมาณ 2 วัน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเนื้อหาในแต่ละตอนด้วย

 

 

พี่โจบอกว่าการเป็น youtuber เราต้องค้นหาตัวตนของเราให้เจอ “อย่าพยายามเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง เพราะสุดท้ายเราก็จะเป็นได้แค่เงาของคนอื่นเท่านั้น” 

สิ่งชี้วัดความสำเร็จในการเป็น youtuber ของพี่โจไม่ใช่รายได้แต่คือการได้เห็นคนดูรู้สึกมีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่ตัวเองได้นำเสนอ เช่น ตอน”จันทรุปราคา”ที่ผ่านมาพี่โจก็มีการทำคลิปวิธีการดูพระจันทร์ซึ่งก็มีผู้ปกครองหลายคนส่งคลิปกลับมาเป็นการดูพระจันทร์ในแบบต่าง ๆหรือทำตามที่พี่โจแนะนำ สิ่งเหล่านี้พี่โจมองว่าคือความสำเร็จส่วนตัวที่ตีราคาเป็นตัวเลขไม่ได้

 

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้หลายคนที่ทำคลิปก็อยากมีรายได้เข้ามาซึ่งรายได้จากการทำคลิปนั้นก็คือเงินที่มาจากการแบ่งรายได้ระหว่างคนทำคลิปกับยูทูป ซึ่งไม่ได้ตายตัวว่าถ้าคลิปมียอดวิวเท่าใดจึงจะได้เงิน เพียงแต่คลิปที่จะสร้างรายได้คือคลิปที่ต้องมีโฆษณาจากยูทูปมาขึ้นเท่านั้น

ซึ่งการจะทำให้คลิปของเรามีโฆษณาจากยูทูปมาแปะก็ต้องทำตามเงื่อนไข คือไม่เป็นคลิปที่ลอกเลียนก็อปปี้มาจากที่อื่น ต้องเป็นคลิปที่เป็นเรื่องไม่หลอกลวงมีเนื้อหาตรงตามหน้าปกของเรื่อง

นอกจากนี้สำหรับ youtuber บางคนที่มีชื่อเสียงมากๆอาจมีรายได้จากการรีวิวสินค้า หรือการทำสินค้าเกี่ยวกับช่องตัวเองมาวางขาย สิ่งเหล่านี้ก็คือการสร้างรายได้ที่เป็นผลพลอยได้จากการทำคลิปลง youtube

 

 

เราลองมาประมวลแนวคิดของพี่โจว่ามีสไตล์การเป็น youtuber อย่างไรที่ทำให้คนฮิตติดใจและมียอดวิวถล่มทลาย

พี่โจฝากแนวคิดถึงคนที่อยากเข้ามาวงการ youtuberว่านอกเหนือจากการค้นหาตัวเองให้ได้ก็ต้องรู้จักจับคู่สิ่งที่เรามีกับสิ่งที่คนดูต้องการ ช่องyoutubeเป็นออนไลน์ขนาดใหญ่มีฐานคนดูทั่วโลก

ดังนั้นเรื่องที่เรานำเสนอไม่จำเป็นต้องตามกระแสคนไทยนิยมหากคิดว่าเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกควรได้รู้เราก็จะมีคอนเทนต์ในการนำเสนอที่หลากหลายมากขึ้น

อย่าจำกัดตัวเองไว้แค่ในประเทศมองให้กว้างขึ้น พี่โจกล่าวต่อว่า “ถ้าผมทำได้ทุกคนก็ทำได้ ผมทำงานคนเดียวมาตลอด ไม่ได้สำคัญที่เงินทุน ไม่ได้สำคัญที่ทีมงาน สำคัญที่ไอเดีย ความตั้งใจ และจริงจังกับการทำงานให้ถึงที่สุด”

 

Facebook : www.facebook.com/ketchupjow

Youtube : www.youtube.com/channel/UCw0RKoEkHfplGs2TZez2HCw/featured 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)