10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! เสื้อยืดตราห่านคู่
 

 

ยุคนี้เสื้อผ้าแฟชั่นมีให้เลือกซื้อกันจนล้นมือ เทรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น ไหลทะลักเข้ามาในเมืองไทยทำให้เราแต่งตัวเลียนแบบต่างชาติ ก่อให้เกิดการแข่งขันทางด้านธุรกิจเสื้อผ้าชนิดที่เรียกว่าต้องก้าวตามเทรนด์ให้ทันจะได้ไม่ตกยุค แต่เชื่อหรือไม่ว่าในเมืองไทยมีแบรนด์เสื้อยืดหนึ่งที่ได้ชื่อว่าติดตรึงในใจคนไทยมานานหลายสิบปี

นั้นคือเสื้อยืดตราห่านคู่ที่จากจุดเริ่มแรกถึงปัจจุบันเสื้อยืดแบรนด์ห่านคู่นี้ก็ยังสร้างรายได้ที่ดีต่อเนื่องถือเป็นอีกแบรนด์แห่งตำนานที่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าเป็นความสุดยอดในการทำธุรกิจ เราลองมาย้อนประวัติเสื้อยืดห่านคู่กันดูสักนิดว่ามีอะไรที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับแบรนด์นี้บ้าง

 

1.ห่านคู่แบรนด์นี้อายุมากกว่า 60 ปี
 

เสื้อยืดห่านคู่ฮอตฮิตมากในสมัยของ อมพล ป. พิบูลสงคราม ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในหลายๆ ด้าน ทั้งการเปลี่ยนชื่อจากสยามประเทศ เป็นประเทศไทย รณรงค์ให้ผู้ชายไทยสวมเสื้อออกจากบ้าน และให้คนไทยใช้สินค้าที่เป็นของไทย ตามนโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ นับอายุถึงตอนนี้ก็มากกว่า 60 ปีไปแล้ว
 

2.คุณตาเจือ ธนสารสมบัติ คือผู้ก่อตั้งแบรนด์ห่านคู่
 

คุณตาเจือ ธนสารสมบัติ หรือชื่อเดิมคือ เจือ แซ่ฉั่ว เริ่มก่อตั้งโรงงานผลิตเสื้อยืดในปี 2496 นอกจากนี้ยังมีการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าแบบตะวันตกเข้ามาในเมืองไทยอีกหลายอย่างเช่นกระติกน้ำ ตราอูฐ สบู่หอม ตราบัลเลย์ น้ำหอมแอนโนเน่ เป็นต้น
 

3.ก่อนสร้างแบรนด์เองเคยนำเข้าเสื้อยืดจากฮ่องกง
 

ในสมัยที่นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาขายในเมืองไทย หนึ่งในสินค้าที่นำเข้ามาคือเสื้อยืด เสื้อกล้าม และ กางเกงใน จากบริษัทเซ่งเชียงไถ่ ในฮ่องกง และด้วยการมองเห็นตลาดจึงได้เริ่มตั้งโรงงานผลิตเองและใช้ชื่อแบรนด์ห่านคู่มาตั้งแต่ยุคแรกถึงปัจจุบัน

4.มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่

หากใครคุ้นเคยกับเสื้อยืดห่านคู่ยุคดั้งเดิมจะพบว่าโลโก้ยุคเก่าเป็นรูปห่าน 2 ตัวหันหน้าเข้าหากันในน้ำล้อมด้วยวงกลมแต่โลโก้ยุคใหม่ทำให้มีความเป็นสากลมากขึ้น โดยยังเป็นรูปห่าน 2 ตัวหันหน้าเข้าหากันเหมือนเดิมแต่ใต้ตัวห่านเขียนคำว่าSine 1953 สื่อถึงแบรนด์ที่มีมานาน และต่อท้ายด้วยภาษาอังกฤษว่า DOUBLE GOOSE เพื่อบ่งบอกว่าคือตราห่านคู่ตราห่านคู่

5.การตลาดที่ยังนึกถึงคนรุ่นเก่าเสมอ

เสื้อยืดห่านคู่เติบโตมาตั้งแต่ยุค Baby Boomer ซึ่งคนรุ่นแรกๆปัจจุบันก็อายุอานามมากขึ้นไม่น้อยทุกกลยุทธ์ในการ Re-Branding ของห่านคู่คำนึงถึงลูกค้าเก่าเสมออย่างการเปลี่ยนโลโก้ก็เช่นกันโลโก้ใหม่ของตราห่านคู่ไม่ได้ปรับใช้กับสินค้าทั้งหมด โดยเสื้อยืด เสื้อกล้ามรุ่นคลาสสิกบางรุ่น และเสื้อยืดรุ่นบรรจุกล่องแพค 3 ตัว ซึ่งเป็นรุ่นที่คนรุ่นเก่านิยมยังคงใช้โลโก้เดิม เพื่อไม่ให้คนรุ่นเก่าเกิดความสับสน
 

6.มีการพัฒนาสินค้าตัวเองตามยุคสมัย
 

จากเดิมที่สีของเสื้อตราห่านคู่มีเพียงสีขาว และมีแบบให้เลือกคือ เสื้อยืดคอกลม เสื้อยืดคอกว้าง และกล้ามเท่านั้น ปัจจุบันเสื้อยืดตราห่านคู่มี มากกว่า 12 สี เช่น สีเหลือง ส้ม ฟ้า น้ำเงิน กรมท่า เขียว น้ำตาล เทา ชมพู และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มดีไซน์และเพิ่มขนาดเสื้อขนาดใหม่ๆ เข้ามา เช่นเสื้อยืดผ่าอกติดกระดุม เสื้อไร้ตะเข็บข้าง เสื้อไซส์คอวี เสื้อไซส์เล็กสำหรับผู้หญิง และเสื้อเด็ก เพื่อขยายตลาดไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ

 

7.เคยขึ้นปกนิตยสารและร่วมงานแฟชั่นโชว์
 

ถือเป็นการสร้างแบรนด์อิมเมจ เปลี่ยนภาพลักษณ์ที่ไม่ใช่เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้นที่ใส่ได้ แต่ห่านคู่ต้องการตีตลาดให้วัยรุ่นรู้ว่าเป็นเสื้อยืดที่เหมาะกับวัยรุ่นเช่นกัน โดยการทำโฆษณาขึ้นปกนิตยสารต่างๆ เช่นนิตยสาร LIPS และเปรียว รวมถึงการร่วมงานแฟชั่นโชว์ Bangkok Fashion Society Spring/Summer 2017 และการจ้างนายแบบ นางแบบ ถ่ายภาพสวมใส่เสื้อยืดห่านคู่พรีเซนต์ตามสื่อต่างๆด้วย

8.มีการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์
 

จากที่เคยจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นช่องทางหลักอย่างเดียว เพื่อกระจายสินค้าไปตามร้านค้าและแผงขายเสื้อ ปัจจุบันห่านคู่ตามกระแสผู้บริโภคด้วยการจำหน่ายสินค้าเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าและเพิ่มช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์  DOUBLEGOOSE.com และฝากขายตาม eMarketPlace ต่างๆ อีกด้วย

 

9.เคยร่วมงานกับเพจแหม่มโพธิ์ดำ
 

ภาพจาก goo.gl/8LP7r2

ห่านคู่ให้ความสำคัญกับการทำตลาดโซเชี่ยลเพื่อสื่อสารไปถึงคนรุ่นใหม่ หนึ่งในนั้นคือการทำเพจ Double Goose Thailand และอัพเดทคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับสินค้าและแฟชั่น พร้อมกิจกรรมร่วมสนุกอยู่เสมอ ทั้งนี้เพจห่านคู่นี้เคยร่วมทำ CSR กับเพจแหม่มโพธิ์ดำ จัดกิจกรรมแจกเสื้อตราห่านคู่ไปยังตำรวจตะเวนชายแดน และผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นต้น 
 

10.รายได้ในธุรกิจเกินกว่า 500 ล้านบาท
 

แม้จะดูเป็นแบรนด์เสื้อยืดที่ไม่น่าจะมีอะไรแต่ความจริงเสื้อยืดห่านคู่ถือเป็นสินค้าขายดีที่ไม่จำเป็นต้องตามกระแสเสื้อผ้าแฟชั่น ยิ่งดูรายได้ของเสื้อห่านคู่ที่จดทะเบียนภายใต้ชื่อ บริษัทโรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัดในปี 2559 มีรายได้ถึง 594 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนหน้านี้ถึง 35% และถ้าดูรายได้ย้อนหลังจะพบว่าเสื้อยืดห่านคู่มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นแทบทุกปี

 

กรณีศึกษาของเสื้อยืดห่านคู่สามารถใช้เป็นต้นแบบของการทำธุรกิจในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นเรื่องยากกับวงการเสื้อผ้าที่ธุรกิจจะอยู่รอดได้นานกว่า 60 ปีโดยที่กระแสรายได้ยังไม่ตก สำหรับคนที่อยากหาลู่ทางในการลงทุนควรศึกษาวิธีการทำตลาดและการบริหารจัดการของเสื้อยืดห่านคู่ไว้เป็นไกด์ไลน์ในการทำธุรกิจของตัวเองบ้าง
 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S

 

ขอบคุณรูปภาพจาก  https://doublegoose.com,  www.facebook.com/doublegoosethailand