บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.5K
3 นาที
25 เมษายน 2561
7 ข้อดีที่ SME ได้รับเมื่อแจ๊คหม่าลงทุนในไทยกว่าหมื่นล้านบาท
 
ข่าวใหญ่ในวงการธุรกิจหลังช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาคือการที่ แจ๊คหม่า เจ้าพ่อธุรกิจ E-Commerce จากจีน ได้เข้ามาลงนามเอ็มโอยูกับรัฐบาลไทยเป็น 4 ฉบับ เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา

แน่นอนว่างานนี้หลายฝ่ายที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ประเด็นที่ทำให้คนถกเถียงกันมากที่สุดคือกลัวที่จะโดน Alibaba ผูกขาดตลาดการค้าออนไลน์ในประเทศไทย

รวบถึงกลัวว่าจะเป็นการกินรวบธุรกิจ SME เมืองไทย แม้ แจ๊คหม่า จะให้เหตุผลว่าการเข้ามาครั้งนี้เพื่อมุ่งสร้างและพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้แข็งแกร่งและเติบโตไปพร้อมกันได้มากขึ้น
 
อย่างไรก็ดี www.ThaiFranchiseCenter.com ในฐานะที่คลุกคลีกับวงการ SME มานานมองเรื่องนี้ในเชิงธุรกิจที่จำเป็นที่ต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งหากจะวิเคราะห์เจาะลึกว่าตกลงแล้วมีส่วนได้หรือส่วนเสียมากกว่ากันก็คงจะเป็นเรื่องที่เดาใจการทำธุรกิจในระยะยาวของ แจ๊คหม่า ได้ยาก ซึ่งเราคงต้องมาลองดูเหตุผลกันทีละประเด็นว่า มีข้อดีอะไรบ้างที่เหล่า SME จะได้รับจากการลงทุนของแจ๊คหม่า ครั้งนี้
 
ทำไมแจ๊คหม่าต้องเลือกลงทุนในประเทศไทย
 

ภาพจาก  goo.gl/xc2EoV

ก่อนจะทำความเข้าใจว่าเราได้อะไร ต้องมารู้ก่อนว่าแจ๊คหม่ามาลงทุนในเมืองไทยเพราะอะไร ในมุมมองของแจ๊คหม่ามองว่าในอนาคตธุรกิจ SME จะกลายเป็นธุรกิจหลักของโลก โดยประมาณว่าทั่วโลกจะมีสัดส่วนธุรกิจ SME ถึงกว่า 80% ขณะที่บริษัทในรูปแบบขนาดใหญ่จะลดลง

ส่วนรูปแบบธุรกิจก็จะเปลี่ยนไปจากปัจจุบันที่เป็นแบบ B2B หรือ B2C ก็จะกลายเป็น C2C หรือ C2B นอกจากนี้ประเทศจีนยังมีแผนที่จะเปิดประเทศเต็มรูปแบบในอีก 5 ปีนับจากนี้ โดยมีการคาดการณ์กันว่า จีนจะต้องการนำเข้าสินค้ามูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
 
ซึ่งการเข้ามาลงทุนของแจ๊คหม่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท นั้นมุ่งเน้นไปที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC โดยเน้นการสร้าง Smart Digital Hub เพื่อการส่งออกสินค้าของ Alibaba พร้อมอบรมผู้ประกอบการ SME ไทย เพื่อเสริมทักษะการใช้ e-Commerce

รวมถึงการพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างดาวเด่นให้กับธุรกิจ และความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวของไทย พร้อมทั้งการเปิดร้านใน Tmall.com เพื่อขายสินค้าเกษตรของไทยในประเทศจีน ทั้งหมดดูเหมือนว่าจะช่วยให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ยุค e-Commerce ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
 
และเหมือนจะเป็นข่าวที่ขานรับการลงทุนนี้โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานว่าชาวจีนแห่กันกดซื้อทุเรียนผ่านเว็บไซต์ Tmall.com จนขายได้ถึง 80,000 ลูกภายในเวลา 1 นาที รวมน้ำหนักกว่า 200,000 กิโลกรัม มีมูลค่า 3,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 478 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยราว 14,900 ล้านบาท

ทั้งนี้ Tmall ขายทุเรียนหมอนทอง 4.5-5 กิโลกรัมในราคา 199 หยวน หรือประมาณ 32 เหรียญสหรัฐฯ เป็นราคารวมทั้งค่าส่งและภาษีแล้ว 
 
7 ข้อดีจากการมาลงทุนของแจ๊คหม่าในประเทศไทย
 

ภาพจาก  goo.gl/n52Fwf

แจ๊คหม่าคือนักธุรกิจระดับโลกที่ขยับตัวแต่ละครั้งต้องไม่ธรรมดาอย่างเช่นตอนที่ โดนัล ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง แจ๊คหม่าก็รีบบินไปพบทรัมป์ที่สหรัฐ ซึ่งภาพที่ต้องการสื่อคือการแสดงให้ชาวโลกเห็นถึงความร่วมมือของ Alibaba ในระดับรัฐบาลซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยที่เรามีโครงการ Eastern Seaboard ในภาคตะวันออกเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าได้ทั่วโลก

เป็นจุดหนึ่งที่แจ๊คหม่ามองว่าเป็นประโยชน์ร่วมกันเพราะระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพของ Alibaba เติบโตได้เต็มที่แค่ในประเทศจีนแต่หากจะเติบโตส่งสินค้าในระดับโลกจำเป็นต้องมีแหล่งขนถ่ายสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งข้อดีที่ได้แน่ๆจากการเข้ามาครั้งนี้ของแจ๊คหม่าต่อภาคธุรกิจในเมืองไทยคือ

1.การเปิดตลาดจากไทยไปจีน หรือจีนมาไทยง่ายขึ้น
 
ภาพจาก goo.gl/ZVWbtL

ธุรกิจที่ต้องการสินค้าจากจีน หรือสินค้าไทยจะส่งขายไปจีน นับแต่นี้จะง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านความร่วมมือของ Alibaba ตัวอย่างชัดเจนคือการนำร่องขายทุเรียนกว่า 80,000 ลูกในเวลาแค่ 1 นาทีผ่านเว็บ Tmall ที่ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการตัดสิทธิ์พ่อค้าคนกลางในเมืองไทยด้วยหรือเปล่า

2.ธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตแน่นอน
 
จากปกติที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเข้ามาในประเทศไทยมากพอสมควร แต่หลังจากความร่วมมือครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเมืองไทยเพิ่มมากขึ้นสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้อีกมหาศาล
 
3.การพัฒนาทางเทคโนโลยีในธุรกิจSME
 

ภาพจาก  goo.gl/xc2EoV

แจ๊คหม่าให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เนตและเทคโนโลยี นั้นย่อมนำไปสู่การปรับปรุงโครงสร้างเหล่านี้ให้มีคุณภาพมากขึ้น รวมไปถึงการเตรียมพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับกรมศุลกากร เพื่อลดพิธีการขั้นตอนการส่งออกและนำเข้าสินค้าในเขตโครงการ EEC
 
4.การส่งออกสินค้าไทยเติบโตได้แน่
 

ภาพจาก  goo.gl/xc2EoV

แจ็คหม่า ย้ำว่าเขาเองไม่คิดที่จะเขามายึดครองตลาดประเทศไทย แต่สิ่งที่ต้องการ คือ พัฒนาศักยภาพของธุรกิจ SME ของไทยผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ธุรกิจของไทยสามารถเข้าไปสู่ประเทศจีน เมื่อถึงเวลาที่จีนเปิดประเทศเต็มรูปแบบนั้นหมายถึงต้องการให้ไทยเป็นจุดกระจายสินค้าโลกโดยเฉพาะสินค้าในกลุ่ม อาหาร ขนม ดอกไม้สด เป็นต้น
 
5.เป็นการประทับแบรนด์ระดับโลกให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้น
 
ชื่อเสียงของ แจ็คหม่า นั้นติดอันดับโลก ที่สำคัญจีนและสหรัฐต่างก็สู้รบกันอยู่ในสงครามการค้า การเลือกประเทศไทยของแจ๊คหม่าทำให้ชาวโลกได้หันมาสนใจและรู้จักเมืองไทยมากขึ้น นั้นหมายถึงโอกาสในการทำการค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
 
6.การพัฒนาด้านโลจิสติกส์ในไทยเติบโตมากขึ้น
 

ภาพจาก  goo.gl/xc2EoV

การมาของแจ๊คหม่าครั้งนี้เขาพกเอา Cainiao ซึ่งเป็นธุรกิจด้านโลจิสติกส์ของ Alibaba ที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวแทนการขนส่งจากจีนสู่ประเทศไทยและกระจายไปสู่ประเทศอี่นๆ ทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก แต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นข้อกังวลของธุรกิจโล
 
จิสติกส์เมืองไทยที่อาจไม่มีสิทธิ์เข้าไปดูแลการจัดส่งสินค้าดังกล่าว และอาจเป็นไปได้ที่ Cainiao จะลงมาแข่งขันกับระบบโลจิสติกส์ในไทยด้วย
 
7.การพัฒนาระบบทางธุรกิจที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
 

ภาพจาก  goo.gl/xc2EoV

แจ๊คหม่าได้นำเอา Ant Financial บริษัทลูกของ Alibaba ที่ดูแลเรื่องการเงินซึ่งปัจจุบันเป็นพันธมิตรกับ true money wallet ในการทำธุรกิจในไทย หรือแม้แต่ด้านการท่องเที่ยว

แจ๊คหม่าก็นำ Fliggy บริษัทด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำของจีนเข้ามาร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) รวมไปถึงการเอา Alibaba Business School (ABS) สถาบันเพื่อสอนทักษะการใช้เทคโนโลยีในการทำธุรกิจ เข้ามาเปิดในเมืองไทย ซึ่งก็มีข้อกังวลในส่วนนี้ที่ Platform e-Commerce สายพันธุ์ไทยอาจจะถูกกลืนหายไปโดยปริยายด้วย
 
เมื่อเหรียญย่อมมี2ด้านการเข้ามาของแจ๊คหม่า มองในด้านดีคือการส่งเสริมคุณภาพการค้าการลงทุนในเมืองไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ส่วนคำถามว่าแจ๊คหม่าจะมากินรวบประเทศไทยและตัดรากถอนโคนธุรกิจพื้นฐานที่มีอยู่เก่าก่อนหรือไม่คงต้องติดตามดูระยะยาว แต่สิ่งสำคัญคือ e-Commerce เมืองไทยต้องมีการปรับตัวก้าวตามสังคมโลกให้ทันและอยู่รอดให้ได้เมื่อจะมีหรือไม่มีแจ๊คหม่าก็ตาม
 

SMEs Tips
  1. การเปิดตลาดจากไทยไปจีน หรือจีนมาไทยง่ายขึ้น
  2. ธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตแน่นอน
  3. การพัฒนาทางเทคโนโลยีในธุรกิจSME
  4. การส่งออกสินค้าไทยเติบโตได้แน่
  5. เป็นการประทับแบรนด์ระดับโลกให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้น
  6. การพัฒนาด้านโลจิสติกส์ในไทยเติบโตมากขึ้น
  7. การพัฒนาระบบทางธุรกิจที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด