บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.7K
2 นาที
25 เมษายน 2561
5 เทคนิคเลือกงานอีเว้นท์ให้ได้ทั้งกำไรและลูกค้า
 
การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่มีข้อดีคือทำให้ลูกค้ามีโอกาสได้รู้จักธุรกิจเรามากขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสเปิดลูกค้าใหม่ๆ และยังมีโอกาสได้เจอคนที่ทำธุรกิจจำนวนมากเพิ่มโอกาสในการติดต่อเจรจาทางธุรกิจได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตามงานอีเว้นท์ที่มีจัดตลอดปีการเลือกเข้าร่วมงานให้ถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เพราะการเข้าร่วมงานอีเว้นท์แต่ละครั้งหมายถึงเวลาที่ต้องเสียไป บางงานมีค่าเข้าร่วม  รวมถึงการลงทุนลงแรงในการจัดบูธภายในงาน หากงานที่เราเข้าร่วมไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนกลับมาก็เท่ากับว่าเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุดังนี้แล้ว
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มีเทคนิคการเลือกงานอีเว้นท์มาฝากเพื่อให้การเข้าร่วมงานแสดงสินค้ากลายเป็นช่องทางสร้างกำไรและได้ลูกค้าเพิ่มเติมมากขึ้น
 
1.ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของสินค้าตัวเองดีพอ
 

ก่อนจะไปสำรวจงานอีเว้นท์เจ้าของธุรกิจก็ต้องสำรวจตัวเองก่อนอันดับแรก ต้องรู้ว่าธุรกิจที่เราทำ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นใคร หากเรารู้กลุ่มเป้าหมายที่แน่ชัดจะทำให้เราโฟกัสเรื่องสถานที่สำหรับเข้าร่วมงานได้ไม่ยาก เช่น บางธุรกิจที่เน้นกลุ่มคนซื้อที่มีรายได้ปานกลาง เป็นพนักงานบริษัท ก็จะเหมาะกับงานอีเว้นท์ที่จัดในแหล่งออฟฟิศ  หรือบางธุรกิจเน้นคนซื้อที่มีรายได้สูง

สถานที่จัดงานอย่างพารากอนก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ  ประโยชน์ของการรู้จักกลุ่มลูกค้าจะทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาเข้าร่วมงานอีเว้นท์ที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อรายได้ บางงานมีคนเดินเยอะแยะแต่หากไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเราก็เปล่าประโยชน์ที่จะเข้าร่วม
 
2.รู้รายละเอียดของสถานที่จัดงานดีพอ
 

การรู้รายละเอียดเกี่ยวกับทำเลในการจัดงานทำให้เราสามารถออกแบบดีไซน์รูปแบบบูธของเราให้เป็นที่น่าสนใจได้มากจขึ้น ยิ่งรู้ว่าทำเลในการจัดงานมีทางเข้าทางออกตรงไหน บริเวณไหนลูกค้าชอบเดินผ่าน หรือบริเวณไหนที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้เราได้มากขึ้น

หากเรามีสิทธิ์ในการจองพื้นที่ค้าขายได้ก่อนใคร โดยพื้นที่จัดงานเช่น Paragon Hall โซนที่ดีคือตรงที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า บริเวณทางเดินเชื่อมต่อ หรือหากเป็นการจัดงานในฮออล์ก็บริเวณทางเข้า ใกล้ทางออก เหล่านี้ เป็นต้น หรือหากเป็นการจัดงาน ในลาน Central World ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก เราก็อาจจะเพิ่มส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ด้วย เป็นต้น
 
3.รู้จักรายละเอียดของ Organizer 
 

ปัจจุบันการจัดงานจะมีการจ้าง Organizer ในการดำเนินงาน ซึ่งนอกจากโจทย์ที่ผู้จัดงานต้องการแล้ว Organizer แต่ละรายก็จะมีเอกลักษณ์ในการจัดงานของตัวเองที่แตกต่างกันไป การรู้ว่าใครเป็น Organizer จะทำให้เราจะทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าการบริการเป็นอย่างไร การทำงานมีคุณภาพแค่ไหน ส่งผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมได้เหมือนกัน

โดยปกติ Organizer ที่รับจัดงาน เช่น Zaap on sale ที่มักจัดงานที่ Paragon Hall มีเอกลักษณ์คือการจัดอีเว้นท์ที่เน้นความเป็นพรีเมี่ยม หรือจะเป็น LOL market ที่มีเอกลักษณ์คือการโปรโมทการจัดงานที่ดึงดูดคนให้เข้ามาร่วมงานได้ดีก็เป็นอีก ออร์แกไนซ์ที่น่าเข้าร่วมงานเช่นกัน
 
4.ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
 

เรื่องของดินฟ้าอากาศมีผลต่อการเข้าร่วมการจัดงานมากยิ่งบางงานเป็นลานโล่ง หรือลานกลางแจ้งไม่ใช่ในฮอลล์ หรือแม้แต่การจัดงานในฮออล์เองก็ตามหากในช่วงที่จัดงานเป็นสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่เป็นใจให้คนออกจากบ้านมาร่วมงานก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในการจัดงานได้เช่นกัน

ดังนั้นก่อนจะเข้าร่วมงานอีเว้นท์ใดๆ ก็ควรสำรวจตรวจสอบข้อมูลพยากรณ์อากาศล่วงหน้าว่ามีโอกาสดินฟ้าอากาศแปรปรวนแค่ไหน ปัจจุบันกรมอุตุนิยมวิทยาในประเทศไทยก็ทำงานมีคุณภาพมากขึ้น ก็สามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเบื้องต้นได้เช่นกัน
 
5.ประเมินเรื่องรายได้ที่จะได้รับจากการเข้าร่วมงาน
 

ทุกครั้งที่เข้าร่วมงานอีเว้นท์ใดๆก็ตามเราย่อมคาดหวังในเรื่องรายได้และลูกค้าในอนาคต ทั้งนี้ก่อนจะเข้าร่วมเราสามารถประเมินเบื้องต้นเกี่ยวกับการขายได้ เช่นการเอารายจ่ายในการเข้าร่วมงานทั้งค่าเช่าพื้นที่ ค่าจัดบูธ ค่าเดินทาง มาคำนวณเป็นต้นทุนจะทำให้เราทราบว่าเราควรขายสินค้าในราคาเท่าไหร่ ต้องทำโปรโมชั่นแบบไหนที่จะให้ตัวเองคุ้มทุนกับการเข้าร่วมงานในแต่ละครั้ง

หากพิจารณาดูแล้วว่าบางงานใหญ่เกินไปและมีต้นทุนสูงเกินไป สุ่มเสี่ยงต่อการขายที่อาจไม่ได้กำไรก็เลือกพิจารณาอีเว้นท์ที่มีขนาดเล็กลงมาแต่เราได้ประโยชน์มากกว่าซึ่งก็ต้องดีกว่าในเรื่องของรายได้แน่นอน
 
โดยส่วนใหญ่เทคนิคการเลือกเข้าร่วมงานของแต่ละธุรกิจยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมาก เช่นการเป็นพันธมิตรที่บางครั้งอาจได้ออกบูธฟรี เสียแค่ค่าเดินทางไปร่วมงาน หรือการได้ส่วนลดหรือโปรโมชั่นที่ทางผู้จัดมีให้กับผู้ร่วมงาน

ซึ่งในฐานะเจ้าของธุรกิจก็ต้องพิจารณาความเหมาะสมเหล่านี้ทีละประเด็น และควรเลือกงานที่เหมาะสมกับตัวเองที่หมายถึงมีโอกาสได้กำไรได้ลูกค้าเพราะจะได้ไม่เสียเวลาโดยไม่จำเป็น
 

SMEs Tips
  1. ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของสินค้าตัวเองดีพอ
  2. รู้รายละเอียดของสถานที่จัดงานดีพอ
  3. รู้จักรายละเอียดของ Organizer
  4. ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
  5. ประเมินเรื่องรายได้ที่จะได้รับจากการเข้าร่วมงาน
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
799
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
713
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
642
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
529
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
447
เจ้าของธุรกิจกุมขมับ! วิกฤตเด็กไทยเกิดน้อยกระทบธ..
432
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด