นาทีนี้ทำอาชีพอะไรดี
 

เป็นคำถามที่คิดหนักโดยเฉพาะกับนักเรียนที่กำลังเลือกทางเดินให้กับชีวิตตัวเอง ในอดีตเราถูกปลูกฝังให้เป็นหมอ ทหาร พยาบาล ด้วยอาชีพเหล่านี้มีความมั่นคงในระยะยาวด้วยสวัสดิการราชการต่างๆ อีกทั้งพ่อแม่เชื่อว่าคำว่า “หลวงเลี้ยง” จะทำให้ลูกหลานไม่ต้องลำบากและสบายมาถึงพ่อแม่ด้วย แต่ปัจจุบันแนวคิดนี้เริ่มจางหายไปบ้าง(แต่ก็ยังมีอยู่) ด้วย

เด็กยุคใหม่มีแนวคิดของตัวเองและอยากสร้างความร่ำรวยแบบไม่ต้องรอเวลาเหมือนทำงานราชการ ผสมผสานกับโลกไอทียุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ก่อให้เกิดคำถามในใจว่าหากพูดถึงปัจจุบันนี้ควรจะเลือกทำอาชีพอะไรที่เหมาะสมกับยุคสมัยและตอบโจทย์ความต้องการคือมั่นคง เงินเดือนดี เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จัดมาให้ดู10อาชีพที่นาทีนี้ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

 

โดย 10 อาชีพที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นผลจากการสำรวจของหอการค้าไทย ที่พูดถึง 10อาชีพเสี่ยงตกงานและในผลสำรวจเดียวกันก็มีอีก 10 อาชีพที่มาแรงแห่งยุค ลองไปดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

 

1.แพทย์ผิวหนังและศัลยกรรม
 

อาชีพแพทย์ใช้เงินทุนในการเลี้ยงสูงและต้องมีความรู้ความสามารถพอสมควรแต่ใครที่สนใจและสามารถเดินไปในสายอาชีพนี้ได้ตอนที่จะเลือกว่าอยากเป็นแพทย์ด้านไหน ยุคนี้แพทย์ผิวหนังและศัลยกรรมน่าสนใจไม่แพ้แพทย์ด้านอื่น

ด้วยความรักสวยรักงามที่เพิ่มมากขึ้น แพทย์ผิวหนังศัลยกรรมจึงสร้างรายได้ที่ดีด้วย ตามรายงานของ payscale.com ระบุว่ารายได้ต่อปีของแพทย์ผิวหนังในอเมริกาคือ $ 202,468 ส่วนในประเทศไทยหากเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนและมีประสบการณ์ทำงานมากพอเงินเดือนไม่น้อยกว่า 200,000 บาท ที่สำคัญยังสามารถเปิดคลีนิคเฉพาะทางได้อีกด้วย

 

2.โปรแกรมเมอร์ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล
 

สายโปรแกรมเมอร์กับโลกยุคใหม่เป็นเรื่องเดียวกันแบบแยกไม่ออก ใครที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรม พัฒนาแอพพลิเคชั่น วางระบบอินเทอร์เนต ยุคนี้หางานง่ายและรายได้ดีด้วย สตาร์ทสำหรับเด็กจบใหม่ในสายนี้แบบไม่มีประสบการณ์เงินเดือนยังประมาณ 20,000 บาท แต่หากมีประสบการณ์มากขึ้นเงินเดือนจะเพิ่มตามอายุงาน ที่สำคัญหากได้ทำงานในบริษัทต่างชาติเงินเดือนจะยิ่งสูงมากแต่ก็ต้องแลกด้วยความสามารถที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

3.นักการตลาดออนไลน์ 
 

เป็นที่พูดถึงกันมากในยุคนี้โดยเฉพาะในต่างประเทศกับอาชีพนักการตลาดออนไลน์ (Online Marketing Manager) หรือ Marketer โดยสามารถทำเป็น อาชีพหลัก อาชีพเสริม หารายได้พิเศษ และสามารถรับงานทำที่บ้านได้

ซึ่งในยุคนี้ไม่ว่าธุรกิจไหนก็ตามต่างก็ให้ความสำคัญกับตลาดออนไลน์ และพร้อมจ่าย ค่าจ้างให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ยิ่งมีประสบการณ์ราคายิ่งแพง โดยสิ่งที่นักการตลาดออนไลน์ต้องทำเช่น โปรโมทเพจ , โปรโมทสินค้า ,โปรโมทเว็บไซต์ รับทำเว็บไซต์ เป็นต้น

 

ระบบการเงินที่เปลี่ยนแปลงเริ่มเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ทำให้นักวิเคร์การเงินเองกลายเป็นอาชีพที่ต้องคอยให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ หน้าที่ส่วนใหญ่คือวางแผนพัฒนาแผนธุรกิจ ศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการใหม่ๆ ทำการวิเคราะห์อุตสาหกรรม และพยากรณ์สถานะทางการเงิน ให้คำแนะนำและวิเคราะห์การกำหนดราคาผลิตภัณฑ์

รวมไปถึงการสร้างกลุ่มลูกค้า และพิจารณาคำขออนุมัติสินเชื่อ โดยอัตราค่าจ้างจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ระดับอาวุโสเงินเดือนอาจจะเกินกว่า 50,000 บาท และยังรับงานในการเป็นวิทยากรต่างๆ ได้อีกด้วย

 

5.นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร
 

ในยุคที่อาหารเป็นเรื่องที่คนสนใจโดยเฉพาะกับเทรนด์อาหารสุขภาพ อาหารคลีน ส่งผลให้นักเทคโนโลยีอาหารมีบทบาทมากขึ้น โดยหน้าที่สำคัญคือศึกษาและวิจัยการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม อาหารเพื่อใช้และบริโภคได้อย่างถูกใจกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจจะรับงานในหน่วยราชการของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ หรือจะเลือกทำงานในบริษัทเอกชน โดยเงินเดือนเฉลี่ยสตาร์ทไม่ต่ำกว่า 19,000 บาทและจะมากขึ้นตามอายุงานด้วย

 

การรู้ภาษาต่างประเทศไม่มีวันอดตายโดยสามารถใช้สกิลภาษาที่ดีนี้ทำงานต่าง ๆได้มากมายผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาสามารถเลือกเป็นล่าม คนแปลภาษาหรือทำงานในบริษัทท่องเที่ยวหรือกับบริษัทต่างชาติที่มีโอกาสได้ทั้งเงินเดือนและความก้าวหน้าที่ดีกว่า ในยุคนี้หากไม่รู้จะเจาะจงเรียนอะไรดีแนะนำว่าเรียนภาษา ยังไงก็สบาย

 

แนวคิดการเป็นนายตัวเองของเด็กยุคใหม่ก่อให้เกิด Start up หน้าใหม่จำนวนมากและด้วยการส่งเสริมของภาครัฐที่สนับสนุนเป็นอย่างดี รวมกับกระแสของเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับธุรกิจทั่วโลกได้ง่ายขึ้นทำให้มองเห็นช่องทาง โอกาสในการทำธุรกิจ รวมถึงสามารถหาแหล่งข้อมูลการลงทุนที่ลดความเสี่ยงได้มาก ทั้งนี้การเป็น Start up แม้จะเป็นแนวคิดที่ดีแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมและความทุ่มเทของผู้ลงทุนแต่ละคน ซึ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จที่แตกต่างกัน

 

8.สถาปนิก
 

รายได้ของสถาปนิกหากรับราชการเงินเดือนตามวุฒิปริญญาตรี เริ่มที่ 15,000 บาท แต่ส่วนใหญ่จะเลือกทำงานให้กับเอกชน เงินเดือนในขั้นทดลองงานอยู่ที่ 15,000-20,000 บาท ซึ่งหากได้ทำงานจริงเงินเดือนทั่วไปไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท

รวมถึงอาจจะเพิ่มได้มากขึ้นเรื่อยๆหากอยู่กับบริษัทชั้นนำหรือทำงานกับบริษัทต่างชาติ อีกทั้งสถาปนิกบางรายเลือกทำงานแบบอิสระโดยรับงานจากลูกค้าโดยตรงและมีรายได้จากค่างานออกแบบ ประมาณ 3-5%จากค่าก่อสร้าง ในยุคที่อสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตได้ดีสถาปนิกจึงเป็นอาชีพที่น่าสนใจมาก

 

9.ครูสอนพิเศษ
 

ผู้ปกครองยุคใหม่ต่างต้องการให้บุตรหลานมีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นเพื่อใช้แข่งขันในสังคมได้ หากเราเป็นคนหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญด้านหนึ่งด้านใดโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ การเขียนโปรแกรม ภาษาต่างประเทศ  ศิลปะ  ดนตรี

สิ่งเหล่านี้สามารถพัฒนาให้กลายเป็นติวเตอร์ หรือในแง่ลงทุนอาจพัฒนาให้กลายเป็นสถาบันสอนเฉพาะทางยิ่งเรามีผลงานมากเท่าไหร่คนรู้จักมากเท่าไหร่โอกาสประสบความสำเร็จก็มากขึ้นเท่านั้น

 

10.นักบัญชี
 

ด้วยปัจจุบันมีธุรกิจSMEsรายใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการวางแผนการจัดการใช้การจ้างงานแบบ Outsource หนึ่งใน Outsource ที่ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการคือ นักบัญชีที่มีหน้าที่ในการจัดทำบัญชี หรือให้ความรู้ในการทำรายรับรายจ่าย ภาษี หรือหากในบริษัทใหญ่ที่มีแผนกนี้ระดับหัวหน้างานของนักบัญชีเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท

โดยหน้าที่สำคัญคือการตรวจสอบเงินของธุรกิจ การวางแผนการใช้เงิน ฯลฯ แต่นักบัญชีเหมาะสำหรับคนที่ทำงานละเอียดรอบคอบ มีความรับผิดชอบสูง แม้เงินเดือนจะสูงแต่ความเสี่ยงก็สูงเช่นกันผิดพลาดแต่ละครั้งอาจเกิดความเสียหายต่อตนเองได้มากพอสมควร

 

อย่างไรก็ตามการเลือกอาชีพไหน และต้องการทำอะไร ขอให้เลือกจากสิ่งที่ตัวเองถนัดและตัวเองอยากทำ อย่าเลือกเพียงเพราะคิดว่าดี เห็นว่าคนอื่นทำแล้วรวย ซึ่งการทำงานที่ไม่ได้เกิดจากความชอบและไม่รู้สึกว่าอยากทำจะเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ทุกอาชีพมีข้อดีในตัวเองข้อให้เราเลือกในสิ่งที่เราอยากเป็นมากที่สุดก็พอ

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S

 
ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com