การทำธุรกิจกับเพื่อนมีจุดดีมากมาย เพราะมีคนช่วยคิดช่วยคิด ช่วยทำ มีเงินลงทุนมาเพิ่มมากขึ้น และการเอาจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมารวมกัน เหมือนอย่าง บิลล์ ฮิวเล็ตต์ และเดฟ แพ็กการ์ด ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนวิทยาลัย ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์ ฮิวเล็ตต์-แพ็กการ์ดในโรงจอดรถที่เมืองพาโล อัลโต บิล เกตส์ ก่อตั้ง Microsoft ร่วมกับพอล อัลแลน ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก และผู้ก่อตั้ง เบน แอนด์ เจอร์รี่ย์เป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่สมัยมัธยม แต่ก็มีหลายคนที่ทำธุรกิจกับเพื่อนแล้วธุรกิจพัง ไปไม่รอด สุดท้าอีกทั้งยังต้องเสียเพื่อนไปด้วย

Bill Gates และ Paul Allen

ภาพจาก goo.gl/images/xWECPG

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอวิธีการทำธุรกิจกับเพื่อน โดยไม่ให้เสียเพื่อนมาฝากคนที่กำลังมองหาเพื่อนที่จะมาเป็นหุ้นส่วนในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เชื่อว่าน่าเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ 

 

ก่อนเริ่มทำธุรกิจร่วมกัน ทุกคนต้องวางเป้าหมายการทำธุรกิจให้ตรงกัน มีความเข้าใจตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ใครทำอะไรบ้าง รวมถึงวางจุดมุ่งหมายของธุรกิจให้เป็นแนวเดียวกัน แม้ความเห็นอาจไม่ตรงกันบ้าง แต่ต้องยอมรับความคิดเห็นของกันและกัน เพราะอย่างไรก็เป็นเพื่อนกัน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปถึงเป้าหมายได้อย่างราบรื่น

ภาพจาก pixabay.com/photo-1245776

 

2. สัดส่วนการลงทุนหรือถือหุ้นต้องชัดเจน
 

ก่อนการลงทุนธุรกิจร่วมกัน ระหว่างเพื่อนต้องพูดคุยในเรื่องสัดส่วนการลงทุนและถือหุ้นให้ชัดเจน ใครลงทุนหรือใส่เงินมาก ใส่เงินน้อย หรือถ้าคนใส่เงินมากอาจจะไม่ต้องเป็นตัวหลักในการบริหารธุรกิจ อาจเป็นผู้ช่วยก็ได้ หรือให้คนลงทุนน้อยถ้าเก่งในการบริหารธุรกิจอาจเป็นผู้บริหารธุรกิจก็ได้ เวลาปันผลตอบแทนก็ให้ตามสัดส่วนการลงทุนของแต่ละคน
 

ถือเป็นเรื่องสำคัญระหว่างเพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกัน แม้จะเป็นเพื่อนกันต้องมีการกำหนดกิติและรูปแบบการทำงานของแต่ละคนให้ชัดเจน เข้างานกี่โมง เลิกกี่โมง หรือถ้าต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนต้องเอามาจากที่ไหน หรือดึงมาจากกองกลาง หรือให้อีกคนเป็นผู้จ่ายให้ก่อน แล้วค่อยมาเบิกตอนสิ้นเดือนหรือต้นเดือน รวมถึงถ้าจะลงทุนเพิ่มต้องให้รับรู้กันทุกคน ก่อนตัดสินใจทำอะไรต้องได้รับมติเห็นชอบของทุกฝ่าย ตรงนี้ต้องกำหนดให้ชัดเจน

ภาพจาก pixabay.com/photo-594090

 

4. แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบงานของแต่ละคน
 

แม้ว่าการเป็นเพื่อนจะรู้ใจกันมาก่อน แต่อย่าลืมว่าเงินทองไม่ค่อยใครออกใคร ไม่มีใครอยากเสียมาก เสียน้อย หรือได้น้อยกว่ากัน ดังนั้น ต้องแบ่งหน้าที่การทำงานของแต่ละคนให้ชัดเจน ใครทำอะไรบ้างในแต่ละเดือน หรือใครรับผิดชอบเรื่องอะไร ทั้งการตลาด การขาย การหาลูกค้า หรือหาพันธมิตรทางธุรกิจ ที่สำคัญจะให้ใครรับผิดชอบเรื่องการเงิน เมื่อแบ่งหน้าที่กันแล้ว ทุกคนต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน เคารพการทำงานและการตัดสินใจในส่วนรับผิดชอบของแต่ละคน 

5. ทำสัญญาต่างๆ เป็นลายลักษณ์อักษร

อาจจำเป็นต้องใช้บริการที่ปรึกษาจากนักกฎหมายในการทำสัญญา รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ในการตกลงระหว่างผู้ถือหุ้น โดยให้ทำเป็นเอกสารชัดเจน เพื่อความถูกต้องทางกฎหมาย เพราะหากเกิดปัญหาจะได้มีหลักฐานในการอ้างอิงได้ 

ภาพจาก pixabay.com/photo-1149962

6. ดึงเอามืออาชีพเข้ามาช่วยทำงาน
 

เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยลดความขัดแย้งระหว่างเพื่อนในการทำธุรกิจร่วมกันได้ เพราะการดึงเอามือชีพที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยทำงานหรือบริการธุรกิจ อาจจะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ตั้งแต่ต้นได้ ที่สำคัญการเอามืออาชีพเข้ามาช่วย จะทำให้ไม่ต้องเหนื่อยมาก และจะทำให้เกิดความโปร่งใสในการทำธุรกิจด้วย จะเห็นได้ว่าบริษัทใหญ่ๆ แม้จะเป็นธุรกิจครอบครัว แต่ก็ยังดึงเอามืออาชีพมาช่วยบริหาร
 

เห็นได้ว่า การทำธุรกิจกับเพื่อนถือเป็นเรื่องสนุกที่ท้าทาย เป็นการเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน หรืออาจทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วขึ้น เพราะรู้ใจ รู้ความคิดกันมาก่อน แต่ก็อย่าลืมว่าเรื่องของธุรกิจ เรื่องของผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร เห็นได้จากคนในครอบครัวที่เป็นสายเลือดกันแท้ๆ ยังมีการแย่งธุรกิจกันมากมาย หวังว่าใครที่นำเคล็ดลับข้างต้นไปปรับใช้ จะสามารถทำงานร่วมกันกับเพื่อนได้อย่างมีความสุข ธุรกิจประสบความสำเร็จ 

หากใครต้องการติดตามข่าวสาร เคล็ดลับการทำงาน การทำธุรกิจแฟรนไชส์ และ SMEs ให้ประสบความสำเร็จ

ติดตามข่าวธุรกิจแฟรนไชส์ Add LINE id: @thaifranchise

 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://www.thaifranchisecenter.com/home.php

เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เริ่มต้นธุรกิจ https://www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)