บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ไอเดียธุรกิจ
7.7K
4 นาที
16 ตุลาคม 2561
Hi School สุดยอดธุรกิจแนวคิดใหม่! ก้าวสู่แฟรนไชส์ระดับประเทศแบบ Social Enterprise

ทำธุรกิจก็ต้องคิดถึง “กำไร” แต่คำว่า “กำไร” ไม่ได้หมายถึง “เงิน” เพียงอย่างเดียว พูดถึงเรื่องนี้คนส่วนใหญ่ก็เถียงทันทีว่าธุรกิจที่ ไม่ได้เงินเป็นกำไร แล้วจะทำให้เหนื่อยเพื่ออะไร นั่นเพราะเราอาจมองมิติการลงทุนในด้านเดียว แต่เชื่อหรือไม่ว่า มีอีกหนึ่งรูปแบบธุรกิจที่เกิดขึ้นมาและดูจะมาแรงพร้อมพัฒนาเป็นการลงทุนแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

www.ThaiFranchiseCenter.com ในฐานะที่คลุกคลีอยู่กับแวดวงคนทำธุรกิจมานานจึงอยากสะท้อนให้คนยุคใหม่ได้เห็นว่าโลกยุคนี้อาจไม่ยึดติดกับการลงทุนที่แสวงหากำไรเป็นตัวเงินเพียงอย่างเดียว เพราะธุรกิจในลักษณะ Social Enterprise คืออีกหนึ่งวิธีการลงทุนที่จะทำให้ธุรกิจเราเติบโตได้อย่างมั่นคงแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม

 
เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ “Hi School” ซึ่งถือว่าเป็น Social Innovations Startup รุ่นใหม่ที่ยึดรูปแบบ Social Enterprise เป็นหลักและถือว่าเป็น Startup เพื่อสังคมเงินล้านรายแรกของประเทศที่มีแผนจะเติบโตในธุรกิจนี้ด้วยการขยายแฟรนไชส์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศในอนาคต
 
เราได้พูดคยกับคุณอภิชาติ จันทร์ทองแท้ CEO & Founder บริษัท แบ่ง-ปัน-ให้ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เจ้าของธุรกิจ Hi School ที่เปิดตัวธุรกิจครั้งแรกเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2560 จนถึงตอนนี้ระยะเวลาเกินกว่า 1 ปี Hi School มีทิศทางการทำธุรกิจเพื่อสังคมที่เติบโตที่ชัดเจนมาก ใครที่ยังไม่รู้ว่านี่คือธุรกิจแบบไหน ทำกำไรอย่างไร และอะไรคือการทำเพื่อสังคมให้ตัวเองอยู่ได้สังคมอยู่ได้ เชิญอ่านรายละเอียดต่อไปนี้ได้เลย
 
Hi School หมายถึง “ให้โรงเรียน” 
 

คุณอภิชาติ จันทร์ทองแท้ มองปัญหาในการระดมทุนเพื่อโรงเรียนขนาดเล็กเป็นเรื่องยาก ในขณะที่ภาคธุรกิจเองต่างก็มุ่งหน้าแสวงหาผลกำไรโดยลืมนึกถึงสังคมรอบข้าง ในขณะที่ธุรกิจตัวเองอาจจะกำลังเติบโตแต่สังคมโดยรอบอาจจะกำลังมีปัญหา จึงเป็นที่มาของความตั้งใจที่จะพัฒนาให้ธุรกิจและคนในจังหวัดสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้เมื่อธุรกิจเติบโต คนในจังหวัดก็มีรายได้ รวมถึงสังคมก็ได้รับการช่วยเหลือแบบแบ่งปันกันในชุมชนอย่างยั่งยืน

 
แม้เรื่องการทำ CSR จะเป็นแผนการตลาดของหลายธุรกิจแต่แท้ที่จริงก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งซึ่งไม่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ดีขึ้นได้ “Hi School” จึงเป็นสตาร์ทอัพในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคมรายแรกของประเทศไทยที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี Application และ Online platform ต่างๆ ในการสร้างช่องทางการตลาด เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โดยผลกำไรส่วนหนึ่งที่ได้จากการดำเนินธุรกิจจะถูกนำกลับไปสู่สังคม เพื่อการพัฒนาด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวความคิดของวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ส่งเสริมธุรกิจให้เติบโต ควบคู่กับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน
 

 
ซึ่งแนวคิดนี้คุณอภิชาติ กล่าวว่า “ได้ตกผลึกจากแนวคิดของอาจารย์ ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ที่ให้นิยามว่า White Ocean Strategy หรือกลยุทธ์น่านน้ำสีขาว ที่เชื่อได้ว่าผู้ประกอบการหลายคน มุ่งแต่ทำธุรกิจโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองแข่งอยู่กับใคร ยิ่งการถูก Disrup ด้วยเทคโนโลยี วางแผนไม่ทันต่อความเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ลูกค้าเองก็มีตัวเลือกมากขึ้นธุรกิจส่วนใหญ่จึงอยู่ใน Read Ocean ดังนั้นหากจะดีกว่าถ้ามีเส้นทางธุรกิจแบบใหม่ที่คู่แข่งน้อยกว่าซึ่งเราต้องคิดนอกกรอบ แล้วเอาสังคมเป็นตัวตั้ง ด้วยแนวคิดการทำธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งผลตอบแทนที่ตามมาไม่ใช่แค่ผลกำไรในเรื่องตัวเลขเท่านั้น”
 
รูปแบบบริการ Hi School การทำธุรกิจเพื่อสังคม
 

Hi School เป็นบริการส่งอาหารดิลิเวอร์รี่ภายในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียง ที่เพิ่มแนวคิดการเชื่อมโยงเครือข่าย SE ตั้งแต่การช่วยสนับสนุนกลุ่มเกษตรกร และชุมชนในจังหวัดสมุทรสาคร

ด้วยการเป็นตัวกลางรวบรวมสั่งซื้อวัตถุดิบจากกลุ่มเกษตรกรในจังหวัด นำส่งเป็นวัตถุดิบให้ร้านค้าในเครือข่าย ที่จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรของจังหวัด ทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าการเกษตรส่งถึงมือผู้บริโภคและร้านค้าโดยไม่ผ่านคนกลาง นอกเหนือจากการบริการส่งอาหารถึงบ้านหรือที่ทำงานโดยเน้นกลุ่มลูกค้าในเขตกลุ่มหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม และนิคมอุตสาหกรรม เป็นหลัก
 
จุดสำคัญคือ ร้านค้าที่ใช้บริการ Hi School จะต้องเลือกใช้วัตถุดิบหลักจากกลุ่มเกษตรกรในจังหวัด อย่างน้อย 2 รายการ ในการทำเมนูอาหารของร้าน

 
โดยปัจจุบันมีร้านค้าเข้ามาอยู่ในแอพกว่า 20 ราย เครือข่ายเกษตรกร 15 ราย มอเตอร์ไซต์รับจ้างกว่า  80 ราย ที่ผ่านมายังนำกำไรไปเป็นทุนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กแล้ว 25 แห่ง รอบปีที่ผ่านมามียอดคำสั่งซื้อเฉลี่ยเกือบสามร้อยบิลต่อวัน ยอดสั่งอาหารเฉลี่ยบิลละ 240 บาท

คุณอภิชาติกล่าวว่า “ เราเริ่มต้นด้วยเงินทุนหลักแสนบาท ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น และใช้เวลาดำเนินธุรกิจเพียง 8 เดือน ก็สามารถคืนทุนได้ และที่เหลือเมื่อธุรกิจเติบโตก็จะเป็นกำไรคืนสู่สังคม ซึ่งธุรกิจก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนาการลงทุนให้มีกำไรมากขึ้นเพื่อสังคมเองก็จะได้รับการคืนกำไรมากขึ้นด้วย เป็นหลักการให้มาก ก็เปลี่ยนโลกได้มากนั่นเอง”
 
5 ช่องทางสู่การได้ประโยชน์ของคนในพื้นที่จากธุรกิจ Hi School
 

โดยกลุ่มร้านอาหารและเกษตรกรที่จะนำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาขายบน platform ของ Hi School สามารถติดต่อเพื่อลงทะเบียนได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องผ่านการคัดกรองมาตรฐานร้านแบบ Hi School และถ้ามียอดขายจากระบบ App มากพอระดับหนึ่งจะมีส่วนลดในลักษณะ % ตามยอดขายให้กับ Hi School ซึ่งในส่วนต่างนี้ก็จะกลายเป็นกำไรคืนสู่สังคม รวมถึงเป็นการได้ประโยชน์ของธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว 5 ช่องทางสู่การแบ่งปันและสร้างประโยชน์จาก Hi School มีดังนี้
 
1.ลูกค้าคนสั่งอาหาร 
 
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศในนิคมอุตสาหกรรม หรือ กลุ่มลูกค้าในคอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ ที่ต่างได้รับประทานได้ทานอาหารดีมีคุณภาพ แทนการทานเมนูซ้ำเดิมที่เห็นจนเบื่อและงานนี้ยังถือเป็นการทำบุญทางอ้อมได้อีกด้วย
 
2.ร้านค้า 
 

ได้เพิ่มโอกาสขายของผ่านออนไลน์ และเพิ่มเวลาขายจากช่วงที่ยุ่งสุดที่มีเพียงเที่ยงและเย็น 
 
3.เครือข่ายโรงเรียนขนาดเล็ก
 

ในรอบปีที่ผ่านมา Hi school สามารถนำกำไรจากธุรกิจเพื่อสังคมไปบริจาคให้กับโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ขาดแคลน ยังไม่นับรวมกับความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์การเรียน การพัฒนาครูผู้สอน และอีกหลายกิจกรรมที่ทำให้ผลลัพธ์ทางสังคมหรือ SIA (Social Impact Assessment) ที่มีสูงมากกว่าผลกำไรหลายเท่า

โดยเงินบริจาคมาจากทาง Hi School ได้หักกำไรจากธุรกิจ 5-10 % ไปให้กับโรงเรียนขนาดเล็กทุกเดือน เป็นการ โอนผ่านบัญชีกลางแบบอัตโนมัติ ตามแบบตัวชี้วัดผลลัพท์ทางสังคม เพื่อสนับสนุนภาคการศึกษาให้กับกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็กในจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 25 แห่ง

อีกทั้ง Hi School ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อระดมทุน ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำสติ๊กเกอร์ไลน์เพื่อรับบริจาค การรวบรวมทุนการศึกษา และการมอบสิ่งของที่ได้รับบริจาคจากลูกค้าของ Hi School ให้กับโรงเรียนในเครือข่ายเป็นประจำอีกด้วย
 
4.การจ้างงานคนในพื้นที่เพิ่ม
 

ระบบการทำงานของ Hi School ถูกจัดวางรูปแบบการทำงานให้สามารถทำงานจากที่บ้านได้ (Virtual Office) ที่สำคัญบุคลากรที่ดูแลแฟนเพจ ไลน์@ โซเชียลมิเดีย และแอพพลิเคชั่น นั้นคือผู้พิการถือเป็นธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสทำงานอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงมอเตอร์ไซต์รับจ้าง เครือข่ายส่งของ ก็จะมีงานนอกเหนือจากช่วงเวลาปกติทำให้ชุมชนโดยรอบมีรายได้ที่ดีเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้มากขึ้น
 
5.ชุมชนเกษตรและประมงพื้นบ้านในจังหวัดสมุทรสาคร 
 

ปัจจุบัน Hi School มีเครือข่ายเกษตรกรและกลุ่มประมงพื้นบ้าน ร่วมอยู่ในเครือข่าย Application จำนวนหนึ่ง ซึ่งช่องทางของ Hi School เปิดโอกาสให้ร้านอาหารได้รับเอาวัตถุดิบสดๆ มีคุณภาพจากผู้ผลิตในกลุ่มเกษตรกรและประมงพื้นบ้านนำไปเป็นวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหาร เป็นประโยชน์ร่วมกันที่ได้กำไรด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
 
นอกจาก 5 พันธมิตรธุรกิจแล้ว ยังมีหน่วยงานอื่นๆคอยให้การสนับสนุน ได้แก่ หน่วยงานราชการในจังหวัด สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม กลุ่มโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร  สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด และเกษตรจังหวัด มาร่วมลงนามความเข้าใจ (MOU) เชื่อมเครือข่ายเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันสร้างจังหวัดสมุทรสาคร ให้รายล้อมด้วยสภาพแวดล้อมดี สังคมดี แบ่งปันโอกาสดีๆ ให้เกิดขึ้นในจังหวัด
 
พร้อมเปิดตัวใหม่อีก 5 App ภายในสามปี เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการ
 
ภายใต้ App Hi School ยังมี แอพย่อย ๆ อีก 5 ตัวให้ซึ่งมีแผนจะทยอยเปิดตัวเริ่มต้นขยายในสามปีต่อเนื่อง ได้แก่
  1. Hi Kitchen เป็นหมวดอาหารตามสั่ง ที่จัดส่งปิ่นโตตามบ้าน คอนโดทั้งแนวราบและตึกสูง และ Hi School มีโรงเรียนสอนทำอาหารไทยด้วยภาษาอังกฤษ เพื่อฝึกทักษะน้อง ๆ ให้ได้ทั้งความสนุกและได้ความรู้ด้านอาหารและภาษาไปพร้อมๆกัน
  2. Hi SEA เป็นหมวดอาหารทะเล ส่งอาหารทะเลจากกลุ่มประมงพื้นบ้านถึงคนในกลุ่มโรงแรม และพนักงานออฟฟิศในนิคมอุตสาหกรรม และ กลุ่มลูกค้าท่องเที่ยว หัวหิน ชะอำ ที่เพียงดาวโหลดแอพและสั่งล่วงหน้า จัดส่งกันสด ๆ ส่งถึงที่ผ่านระบบของ Hi school  
  3. Hi Farming เป็น หมวดผักและผลไม้ จากกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดและใกล้เคียงส่งให้ลูกค้าตามจุดที่นัดหมาย เพื่อเป็นของฝากแบบไม่ต้องแวะเลือกซื้อช่วยประหยัดเวลาได้มาก 
  4. HI Office เป็นกลุ่มอุปกรณ์สำนักงาน เครื่องเขียน แบบพิมพ์ และชุดนักเรียน ที่จะจัดจำหน่ายให้กับผู้ปกครองนักเรียนที่เป็นสมาชิกของ Hi School ของจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง
  5. Hi_result คือ ธุรกิจด้านที่ปรึกษาและพัฒนาธุรกิจ โดยผู้เชี่ยวชาญและทีมงานมืออาชีพของ Hi School
แค่แบ่งปันยังไม่พอ แต่เป้าหมายใหญ่คือการเติบโตในระบบแฟรนไชส์ รูปแบบ Social Enterprise


จะดีสักแค่ไหน ถ้าประเทศไทยทุกจังหวัด ล้วนมีคนทำธุรกิจเพื่อสังคมเกิดขึ้นเหมือนธุรกิจทั่วๆไป ที่จะเกิดขึ้นกับผู้ซื้อแฟรนไชน์ Hi school ที่สนใจทำธุรกิจแบบ Smart และได้ช่วยสังคมไปพร้อม ๆ  กัน

ทาง Hi School กำลังพัฒนาต่อยอดธุรกิจเพื่อสังคมในรูปแบบนี้ให้เป็นธุรกิจที่ถูกถอดแบบจากจังหวัดหนึ่งไปยังจังหวัดหนึ่งในรูปแบบแฟรนไชส์ SE หรือ Social Enterprise ให้สามารถนำธุรกิจประเภทนี้ไปยังจังหวัดที่มี GDPอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยตั้งเป้าไว้ 10 จังหวัดภายใน 3 ปีต่อจากนี้ เพื่อเป็นการยกระดับประเทศให้เป็นประเทศที่มีความเจริญในทั้งแง่ธุรกิจและศีลธรรมอย่างเต็มตัว

และในอนาคต Hi School ยังพร้อมเป็นสะพานบุญสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กที่ยากจนทั่วประเทศที่รับทำ CSR หรือ จัดงานเลี้ยงนักเรียน สำหรับบริษัทฯ หรือ องค์กรต่าง ๆ ที่ไม่มีเวลาทำ โดยสามารถยกภาระงานนี้มาให้ Hi school เราเป็นตัวกลางในการทำกิจกรรม และมีระบบที่จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับและมั่นใจได้ว่าสิ่งที่ท่านต้องการให้ ได้ส่งถึงมือผู้รับอย่างแน่นอน
 
รวมถึงอนาคต ทีมงาน Hi school ยังมีแนวคิดพัฒนาการจัดทำระบบการรับบริจาคผ่านQR Code พร้อมกับการรับจัดงานศพ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับเงินช่วยเหลืองานศพหรือญาปณกิจต่างๆ แต่การทำความดีครั้งสุดท้ายให้กับผู้วายชนม์ด้วยการให้ Hi school เป็นตัวกลางในการรับเงินทำบุญนำส่งไปยังโรงเรียนและนักเรียนที่ขาดแคลนแทน โดยมีระบบ Application QR Code รับบริจาคพร้อมรับจัดงานครบวงจรที่เจ้าภาพไม่ต้องยุ่งยาก


ผู้บริจาคได้ใบอนุโมทนาบัตรทันที อันนี้เป็นสิ่งที่ Hi School กำลังพัฒนาและตอบโจทก์มากกว่าการแบ่งปันในรูปแบบทั่วๆ ไปตามวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งที่วางแนวคิดว่า “เราเชื่อในพลังแห่งการแบ่งปัน” นั่นเอง
 
จากแนวคิดที่ดูเป็นเรื่องทั่วไปใครๆก็พูดได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีการคืนกำไรสู่สังคม แต่โดยเนื้อแท้แล้วหาธุรกิจที่ทำแบบนี้ได้ดีต่อเนื่องนั้นยากเต็มที Hi School แสดงให้เห็นจุดยืนเรื่องนี้ว่าธุรกิจและสังคมสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้ และยังถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการทำธุรกิจที่น่าจะมาแรงในอนาคต สำหรับปี 2562 ใครที่ยังจับทิศทางทำธุรกิจไม่ถูกไม่รู้จะไปทางไหน ลองศึกษาแนวทางธุรกิจแบบ Social Enterprise อาจทำให้เราตาสว่างมองเห็นอะไรได้มากขึ้นก็ได้
 
รายละเอียดเพิ่มเติม
โทร : 081-140-2024
Line@ : @hischoolthailand 
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,790
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,395
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
700
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
634
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
560
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
489
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด