บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    Startups    การพัฒนาและการออกแบบ
3.8K
2 นาที
26 ธันวาคม 2561
4 เทรนด์ที่จะมาเปลี่ยนโลกในปี 2019
 
หลายคนมองว่าแนวโน้มเทคโนโลยีในปี 2019 ได้ชี้ถึงพื้นฐานของแนวโน้มอุตสาหกรรม ที่จะมากำหนดขอบเขตธุรกิจด้านเทคโนโลยีในปีหน้า ได้แก่ ประสบการณ์ของลูกค้า ความปลอดภัยระบบออนไลน์ ธุรกิจดิจิทัล 
 
โครงสร้างพื้นฐานของระบบดิจิทัล สถานที่ทำงานรูปแบบดิจิทัล (ดิจิทัล เวิร์คเพลส) เทคโนโลยีในอนาคต และ รวมถึงการบริการต่างๆ คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวของบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่างล้นหลามในระยะยาว
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอ 4 เทรนด์เทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนโลก เปลี่ยนอุตสาหกรรม เปลี่ยนการทำงาน และอื่นๆ ในปี 2019 มาดูกันว่า 4 เทรนด์ที่ว่านี้มีอะไรกันบ้างครับ
 
1.การซื้อขาย ชำระเงินมีความหลากหลาย
 
ภาพจาก  goo.gl/RTb5M7

สำหรับใครที่ติดตามวงการฟินเทค คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า Blockchain หรือ Cryptocurrency ที่คนหันมาให้ความสนใจมากเป็นพิเศษในช่วงปีนี้ ในประเทศไทยเอง ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี blockchain อาจจะยังไม่แพร่หลายไปสู่วงกว้าง แต่จากข้อมูลการ search จาก Google ก็พบว่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มีคนค้นหา keyword “blockchain” เพิ่มขึ้นถึง 50%
 
ตลาด Blockchain มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีคนคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 ตลาดนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 20 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อุตสาหกรรมการเงินเป็นอุตสาหกรรมแรกๆ ที่นำ blockchain มาใช้ 
 
โดยข้อดีของ blockchain คือมีความปลอดภัยสูงมาก ซึ่งตัวอย่างการใช้งาน ได้แก่ การซื้อ-ขายหลักทรัพย์ โดยเทคโนโลยีดังกล่าว จะช่วยลดต้นทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงช่วยให้การซื้อขายเป็นไปได้เร็วขึ้น การปล่อยสินเชื่อสามารถทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และการโอนเงินข้ามประเทศจะถูกลงและเร็วขึ้น
 
2.ได้เวลายอมรับเทคโนโลยี AI 
 
ภาพจาก  goo.gl/SBQo2G

ประเด็นที่หลายคนพูดถึงกันบ่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้เกิดขึ้นอย่างจริงจังก็จะเริ่มเกิดขึ้นจริง และจะเป็นจุดเปลี่ยนทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คอมพิวเตอร์ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง (Machine learining) และกระบวนการทำงานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ (Robotic Process Automation)
 
สังเกตได้ว่าที่ผ่านมาในอุตสาหกรรมได้พูดถึงเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำสมัยบางอย่างในเชิงทฤษฎีเท่านั้น ซึ่งยังไม่สามารถระบุถึงประโยชน์และการนำไปใช้ได้อย่างชัดเจน เช่น เครื่องมือวิเคราะห์และเก็บข้อมูลเชิงสถิติ (Think analytics), Machine learining, AI, Blockchain และ Container เป็นต้น
 
มีการคาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในเชิงปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งจะได้เห็นกันมากขึ้นในตลาดอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในกระบวนการต่างๆ และจะเป็นเทคโนโลยีธรรมดาที่ใช้กันทั่วๆ ไปในที่สุด โดยเชื่อว่าในปี 2019 จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในแวดวงเทคโนโลยี
 
3.สงครามการจัดส่งฟรีกำลังเกิดขึ้น
 
ภาพจาก  goo.gl/1YW94W

เชื่อว่าลูกค้าทุกคนต้องการบริการจัดส่งสิ่งของฟรี และรวดเร็ว เมื่อเร็วๆ ร้านค้าอย่าง  Amazon, Walmart และ Target ทั้งหมดเข้าสู่การต่อสู้ในวัน Black Friday โดยร้านค้าปลีกเหล่านี้ใช้ความพยายามแย่งชิงลูกค้า ด้วยข้อตกลงบริการจัดส่งที่เหนือกว่า
 
ผู้ค้าปลีกรายใหญ่อื่นๆ เช่น Home Depot, Best Buy และ Nordstrom ก็พยายามปรับปรุงตัวเลือกการจัดส่งฟรี แบรนด์อีคอมเมิร์ซแบบตรงถึงผู้บริโภค จะมุ่งเน้นที่มากกว่าเวลาการขนส่งเท่านั้น การรักษาคุณภาพของแบรนด์ การเป็นเจ้าของข้อมูลลูกค้า และการปรับปรุงประสบการณ์การจัดส่งทั้งหมดจะเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน
 
ในความเป็นจริงลูกค้ากำลังต้องการบริการจัดส่งฟรีและรวดเร็ว โดยผู้ซื้อเกือบ 60% ในการศึกษาของ Alix Partners เห็นด้วยว่า พวกเขาจะเรียกดูผลิตภัณฑ์ตามตัวเลือกของการจัดส่งที่ต้องการ บางคนเต็มใจที่จะใช้จ่ายมากขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละตัวเลือกหากมีการจัดส่งฟรี และรวดเร็ว 
 
4.โลกยุคใหม่ของการทำงาน Gig Economy


ภาพจาก goo.gl/15zjCf

ท่ามกลางการเติบโตของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สร้างช่องทางการหารายได้ใหม่ๆ โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบการทำงานเดิม ลักษณะการทำงานแบบนี้จึงถูกเรียกว่าGig Economy หมายถึงระบบเศรษฐกิจที่ประกอบด้วยงานครั้งคราว หรืองานที่รับจ้างจบเป็นครั้งๆ ไป เช่น เหล่าฟรีแลนซ์ พาร์ทไทม์ เอาท์ซอร์ส ไปจนถึงคนที่รับจ้างผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น คนขับ Uber 
 
รวมถึงคนที่รับงานผ่าน Upwork หรือ Gigwalk เป็นต้น ลักษณะสำคัญของคนทำงานเหล่านี้ คือ มีอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับงานหรือเวลาทำงาน โดยได้รับค่าตอบแทนตามจำนวนงานที่ทำ ที่สหรัฐฯ สถาบันวิจัย Brookings เผยว่าการจ้างงานใน Gig Economy กำลังเติบโตรวดเร็วยิ่งกว่าในตลาดงานประจำเสียด้วยซ้ำ
 
ข้อดีของการทำงานในรูปแบบ Gig Economy คือมีความยืดหยุ่นในเรื่องเวลาทำงาน เราสามารถบริหารจัดการเวลาและจัดลำดับความสำคัญของงานได้ตามใจ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องแลกมาด้วยความไม่มั่นคงจากรายได้ที่ไม่แน่นอน และยังเสี่ยงถูกแย่งงานจากคนอื่นที่มีฝีมือหรือทักษะแบบเดียวกัน
 
Gig Economy ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์แรงของยุคนี้ เพราะได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน การจ้างงาน รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในปัจจุบัน กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวที่น่าจับตามองว่า ในอนาคตชีวิตการทำงานของเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
 
ทั้งหมดเป็น 4 เทรนด์เทคโนโลยีที่คาดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนโลกในปี 2019 การดำเนินงานของอุตสาหกรรมต่างๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการแข่งขันของธูรกิจจะคำนึงถึงการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้ามากขึ้น
 
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: 
@thaifranchise
 

 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี แบรนด์อื่นๆ เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
 

SMEs Tips
  1. การซื้อขาย ชำระเงินมีความหลากหลาย
  2. ได้เวลายอมรับเทคโนโลยี AI 
  3. สงครามการจัดส่งฟรีกำลังเกิดขึ้น
  4. โลกยุคใหม่ของการทำงาน Gig Economy
 
อ้างอิงข้อมูลจาก 
https://www.entrepreneur.com/article/325070
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
792
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด