บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
7.2K
3 นาที
4 มกราคม 2562
รายได้น้อย ปี 2562 ควรลงทุนอะไรดี


ในปี 2562 เชื่อว่าหลายคนคงตั้งเป้าว่าชีวิตจะต้องดีขึ้น ต้องมีเงินเก็บมากขึ้น ในปี 2561 อะไรที่ผิดพลาดก็จะเรียนรู้เอามาเป็นบทเรียน ความรู้สึกฮึดสู้แบบนี้ก็เหมือนไฟไหม้ฟางที่จะมาตอนต้นๆปี พอผ่านไปสักพักจิตใจที่ฮึกเฮิมก็จะเริ่มน้อยลงสุดท้ายกลายเป็นใช้ชีวิตสะเปะสะปะ เอาไว้มาฮึดอีกทีก็ตอนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั่นแหละ
 
ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกประหลากเพราะ www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าสิ่งที่ทำให้คนเราวิ่งไปไม่สุดทางจากที่ฝันก็เพราะตัวแปรเรื่องรายได้ที่ชักหน้าไม่ถึงหลังต่อให้วางแผนสวยหรูแค่ไหน สุดท้ายปัญหารายจ่ายมากกว่ารายรับมันก็ยังหลอกหลอนเราอยู่ดี ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาดูทางออกว่าหากเราเป็นผู้มีรายได้น้อยจะพอมีวิธีลงทุนอย่างไรให้มีเงินเพิ่มมากขึ้นได้บ้าง

 
ก่อนอื่นเลยเรามาแยกให้เข้าใจระหว่าง “ลงทุน” กับ “ทำธุรกิจ” การลงทุนคือการเอาเงินที่มีไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ซึ่งในขณะเดียวกันเราอาจมีธุรกิจอื่น หรือทำงานประจำร่วมด้วย การลงทุนเป็นการทำให้เงินงอกเงยมากกว่าที่จะฝากธนาคารกินดอกเบี้ยประจำปีซึ่งหากเงินฝากไม่เยอะแยะคิดกันง่ายๆว่าถ้าเรามีเงินฝาก 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.25% ต่อปี ใน 1 ปีเราจะมีดอกเบี้ย 22,500 บาท เอามาหาร 12 เฉลี่ยต่อเดือนเรามีเงินงอก 1,875 บาทเท่านั้นเอง
 
ทีนี้ถ้าคิดจะลงทุนให้เงินที่มีเพิ่มขึ้นได้มากกว่าเดิม ก็ต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าชอบ หรือสนใจการลงทุนประเภทไหน?  ,  มีประสบการณ์ลงทุนธุรกิจหรือไม่? , มีเงินลงทุนมากน้อยเพียงใด? , ต้องการผลตอบแทนเท่าไหร่?  และหากขาดทุน จะยอมรับได้ในวงเงินไม่เกินเท่าไหร่?  เราต้องมีคำตอบให้ตัวเองในเรื่องเหล่านี้ก่อนที่จะเริ่มลงทุนต่อไปได้
 
ทีนี้ก็ลองมาดูว่าเงินน้อยๆ ที่เรามีจะเหมาะกับการลงทุนเอาเงินไปต่อยอดอย่างไรบ้าง
 
1.ไม่ต้องลงทุนแต่เปลี่ยนทิศทางการใช้เงิน

ภาพจาก goo.gl/VwHC6p

หากคิดจะลงทุนโดยที่มีเงินน้อยๆ ไม่ว่าจะเลือกลงหุ้น พันธบัตร LMF  RMF  ยังไงก็ไม่คุ้มยิ่งมาลงทุนตอนอายุมากๆ ยิ่งไม่คุ้มหากจะลงทุนจริงๆ ก็ต้องมีระยะเวลา ทางที่ดีสำหรับคนมีเงินน้อย ไม่ต้องไปลงทุนอะไร แต่เปลี่ยนทิศทางการใช้เงินตัวเอง ใช้วิธี “เก็บเงินที่เหลือจากรายได้” ไม่ต้องมากแค่ 10% จากรายได้ เพราะเราต้องคำนวณตัวแปรระหว่างทางพวกค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เรื่องนี้อยู่ที่วินัยและต้องใจแข็งสุดๆ

ภาพจาก goo.gl/7v3n64

อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจคือเก็บเงินตามจำนวนวัน ใน 1 ปีมี 365 วัน เราก็เก็บเงินตามจำนวนวันไปเลย วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท เรื่อยไปจนถึงวันที่ 365 ก็เก็บ 365 บาท วิธีนี้คำนวณแล้วถ้าทำได้จริง สิ้นปีมีเงินเก็บถึง 66,795 บาท
 
2.ซื้อแฟรนไชส์ราคาย่อมเยาว์
 

ใครจะเชื่อว่าการซื้อแฟรนไชส์ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ต่อยอดเงินของเราให้เพิ่มมากขึ้นได้ ข้อดีของแฟรนไชส์คือมีระบบการบริหารจัดการให้เราต่อยอดได้ทันที วัตถุดิบต่างๆ ก็พร้อมจัดส่งให้ ปัจจุบันแต่ละแฟรนไชส์ต่างก็แข่งขันพัฒนาคุณภาพตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุนที่สามารถเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่มีราคาตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักหมื่น ยิ่งถ้าเรามีทำเล มีคนในครอบครัวช่วยดูแลแฟรนไชส์ โอกาสประสบความสำเร็จก็ยิ่งมากตามไปด้วย
 
3.ลงทุนกับทองคำ
 
ภาพจาก goo.gl/Mqsa8G

มีเงินเขานับว่าน้องมีทองเขานับว่าพี่ ไม่มีเงินมีทองพี่น้องก็ไม่มี สำหรับใครที่มีเงินวางไว้นิ่งๆ อาจจะลองมาลงทุนกับทองคำซึ่งรูปแบบลงทุนก็มี3 รูปแบบคือ
  1. ซื้อทองคำแท่งผ่านร้านทอง เก็งกำไรผ่านการประกาศราคาทองคำจากสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย ที่นิยมซื้อขายทองคำแท่งเพราะค่าบล็อกถูกกว่าค่ากำเหน็จของทองรูปพรรณ 
  2. ซื้อขายทองคำแท่งผ่านระบบออนไลน์ ราคาที่ใช้ก็คำนวณจากราคาทองจากต่างประเทศ บริการซื้อขายเกือบ 24 ชั่วโมงตามเวลาต่างประเทศ ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลงที่ตลาดไหนก็ยังซื้อขายทองคำได้ตลอดเวลา
  3. ออมทอง (Gold Saving) เป็นการกำหนดจำนวนเงินที่จะซื้อต่อเดือน การซื้อทองคำในรูปแบบออมทอง จะระบุมูลค่าของเงินที่จะทำการซื้อทองคำในแต่ละเดือนไว้ชัดเจน และนำเงินจำนวนนั้นมาเฉลี่ยซื้อทองคำในทุกวันทำการ เป็นการซื้อทองสะสมอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทองราคาถูกยิ่งได้ปริมาณทองเยอะด้วยเงินจำนวนเท่าเดิม เมื่อเก็บเล็กผสมน้อยผ่านระยะเวลาหนึ่ง เราก็จะได้ทองคำแท่งเป็นสลึง เป็นบาทๆ ได้เช่นกัน
4.ขายสินค้ามือสองตามตลาดนัด
 

ถ้าเรามีเงินทุนสำหรับเริ่มต้นไม่เกิน 10,000 บาท จะให้ไปลงทุนหนักๆ คงได้ไม่คุ้มเสีย “สินค้ามือสอง” คือทางเลือกที่ดีที่สุด และจะประหยัดต้นทุนได้มากหากว่าสินค้านั้นเป็นเสื้อผ้า ของใช้ ที่เรามีอยู่ หรือจะไปรวบรวมมาจากญาติพี่น้องหรือคนรู้จักที่เขาไม่ได้ใช้ เอามาวางขายแบบง่ายๆ ตามตลาดนัด แน่นอนว่านี่คือการลงทุนที่ต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และรายได้ที่เข้ามาก็อาจไม่ได้เป็นกอบเป็นกำ แต่หากเราเริ่มต้นทำไปเรื่อยๆ อาจพบช่องทางที่ดียิ่งขึ้นนำไปสู่กำไรที่มากขึ้นในอนาคตได้ด้วย
 
5.เปลี่ยนความสามารถตัวเองให้เป็นรายได้
 

ภาพจาก  pixabay.com

ถ้าเราไม่มีต้นทุนเรื่องเงิน แต่เรามีต้นทุนด้านความสามารถ ก็ใช้จุดแข็งนี้ให้เป็นประโยชน์ได้ เช่นถ้าเรามีความสามารถด้านภาษาอาจจะเปิดสอนพิเศษให้กับคนที่สนใจ  หรือถ้ามีความสามารถด้านศิลปะ ก็อาจจะวาดภาพขาย ทั้งภาพวิว ภาพเหมือน และในยุคนี้ใครที่มีความสามารถด้านการเขียนโปรแกรม หรือกราฟฟิค ก็สามารถรับงานพิเศษมาทำ สร้างเป็นรายได้เสริมให้กับตัวเอง ซึ่งก็มีคนมากมายที่เขาประสบความสำเร็จจากการขายความสามารถตัวเอง บางทีรายได้ดีกว่าการทำงานประจำด้วยซ้ำไป
 
6.ขายของออนไลน์
 

ภาพจาก  pixabay.com

แม้จะมีคู่แข่งมาก แต่การขายของออนไลน์ก็ยังเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะใช้ต้นทุนน้อยมาก ถึงขนาดที่บางทีไม่ต้องใช้เลยก็มี โดยเฉพาะตัวแทนขายแบบไม่ต้องลงสินค้า (Drop ship) เพียงไปติดต่อร้านค้าเพื่อนำภาพสินค้ามาโชว์ทางโซเชี่ยลของเรา และเมื่อมีคำสั่งซื้อก็ออร์เดอร์ไปทางร้านให้เป็นผู้จัดส่งสินค้าในนามของเรา รายได้ก็คือค่าคอมมิชชั่นหรือส่วนต่างตามที่ตกลงกัน ซึ่งในปัจจุบันมีเว็บไซต์ขายของออนไลน์มากมายที่ช่วยทำให้เรื่องเหล่านี้ง่ายมากขึ้น
 
7.ลงทุนอบรมเป็นนายหน้า


ภาพจาก  pixabay.com

ซื้อมาขายไปเป็นการทำกำไรที่ดี แต่การจะเป็นนายหน้านั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความเข้าใจในเรื่องกฎหมาย ทักษะการต่อรอง  การทำเอกสารซื้อขายต่างๆ การเข้าอบรมคอร์สเป็นนายหน้านอกจากจะได้ความรู้เหล่านี้ยังมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับคนในแวดวงนายหน้าก่อให้เกิดคอนเนคชั่นที่เปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งอาชีพนายหน้าถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีโดยค่าตอบแทนเป็นคอมมิชชั่นเฉลี่ยร้อยละ 3 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ซื้อขาย หากมุ่งมั่นจริงจังอาชีพนี้ทำให้เรารวยได้แน่นอน
 
8.Youtuber
 

ภาพจาก  pixabay.com

การเป็น Youtuber ในช่วงหนึ่งอาจเป็นเรื่องที่ง่ายใครๆก็ทำได้ โดยเฉพาะในยุคแรกๆ เราสามารถสร้างรายได้จากการเป็น Youtuber ได้เป็นกอบเป็นกำแต่ในระยะหลังที่ Youtube เองก็ต้องการรักษาคุณภาพคอนเทนต์ให้คนติดตาม จึงทำให้เกิดข้อกำหนดและกฏเกณฑ์ใหม่ๆ ที่ดูแล้วทำให้เกิด Youtuber รายใหม่ได้ยาก แต่ถึงอย่างไรหากเรารักและสนใจในการหารายได้จาก Youtube อย่างแท้จริงก็เชื่อว่าไม่น่าจะเกินความสามารถ หากเนื้อหาของเราที่นำเสนอใน Youtube นั้นเป็นไปตามกฏเกณฑ์ที่กำหนดรายได้ก็จะค่อยๆตามมาเช่นกัน
 
9.ถ่ายภาพขายในเว็บไซต์
 
 
ภาพจาก www.istockphoto.com/th

เป็นการลงทุนของคนที่มีฝีมือด้านการถ่ายภาพ เราอาจลงทุนเรื่องอุปกรณ์บ้าง และก็ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อถ่ายภาพสวยๆเอามาฝากขายตามเว็บไซต์ ซึ่งก็มีหลายเว็บที่เป็นสื่อกลางในการซื้อขายเช่น shutterstock , iStockphoto , Fotolia , 123RF เป็นต้น

สิ่งสำคัญคือเราต้องศึกษาเทคนิคการถ่ายภาพ เทรนด์ของรูปภาพที่ลูกค้าต้องการ ส่วนใหญ่มักจะต้องส่งภาพเข้าไปขายทีละหลายๆ ภาพเพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเลือก บางคนที่ชำนาญแล้วมีรายได้จากอาชีพนี้ได้อย่างดีทีเดียว
 
10.ทำแบรนด์สินค้าตัวเอง


ปัจจุบันมีธุรกิจแบบ OEM ที่รับผลิตสินค้าตามที่เราต้องการ โดยเฉพาะพวกครีม และเครื่องสำอางต่างๆ แต่ถ้าเราไม่ถนัดแนวเครื่องสำอาง แต่สนใจเรื่องเครื่องดื่มเดี๋ยวนี้เขาก็มีรับผลิตสินค้าน้ำผลไม้ในแบรนด์ของเราได้ โดยการลงทุนเบื้องต้นอาจใช้งบประมาณ 5,000-10,000 บาท สำหรับการได้สินค้าล็อตแรก ปัญหาคือเราต้องมีตลาดมารองรับสินค้าเหล่านี้ อาจจะฝากขายตามร้าน หรือขายเองตามตลาดนัด ถ้าเรามีการวางแผนการตลาดที่ดีไม่แน่ว่าเราอาจจะเพิ่มกำลังการผลิตและสินค้าของเราอาจขายดียิ่งขึ้นในอนาคตก็ได้
 
จะเห็นได้ว่าการลงทุนที่แนะนำส่วนใหญ่มักใช้พื้นฐานของความสามารถตัวเองบ้าง หยิบจับเอาเรื่องใกล้ตัวมาทำธุรกิจบ้าง หลายคนถามว่าทำไมไม่แนะนำเรื่องการเล่นหุ้น หรือลงทุนในคอนโด อพาร์ทเม้น ด้วยเรามองว่าสิ่งที่เรานำเสนอมีความเสี่ยงน้อยหรือหากพลาดพลั้งเจ็บตัวก็ยังเสียเงินไม่มาก แต่หากกิจการดีเติบโตมั่นคงจากธุรกิจลงทุนไม่มากอาจกลายเป็นธุรกิจใหญ่ที่สร้างรายได้อย่างดีให้เราได้ด้วย
 

SMEs Tips
  1. ไม่ต้องลงทุนแต่เปลี่ยนทิศทางการใช้เงิน
  2. ซื้อแฟรนไชส์ราคาย่อมเยาว์
  3. ลงทุนกับทองคำ
  4. ขายสินค้ามือสองตามตลาดนัด
  5. เปลี่ยนความสามารถตัวเองให้เป็นรายได้
  6. ขายของออนไลน์
  7. ลงทุนอบรมเป็นนายหน้า
  8. Youtuber
  9. ถ่ายภาพขายในเว็บไซต์
  10. ทำแบรนด์สินค้าตัวเอง
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise 

 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
503
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
421
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด