ทำงานแบบมืออาชีพของญี่ปุ่น กับ คำว่า “ไม่เป็นไร” ของคนไทย
 

ดิฉันทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นมานาน (รวมถึงบริษัทชาติอื่น) การทำงานแบบคนญี่ปุ่นมีทั้งสิ่งที่ดิฉันชอบและไม่ชอบแต่สิ่งที่ดิฉันชอบมากคือการทำงานแบบมืออาชีพของคนญี่ปุ่น เพราะทุกอย่างจะต้องมีการเตรียมการแบบประณีต พิถีพิถัน เป็นระบบระเบียบทุกขั้นตอน มีข้อมูลและหลักฐานรองรับ ที่สำคัญเขารักในงานที่ทำและรู้หน้าที่ของตัวเอง

ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานประเภทใดเพราะแม้แต่พนักงานกวาดถนนหรือพนักงานโบกรถก็จะตั้งอกตั้งใจทำงานราวกับงานนั้นเป็นงานที่มีคุณค่ากับเขามาก แต่กับคนไทยบางคนที่ดิฉันได้สัมผัสอาจไม่ได้ทำงานแบบมืออาชีพเท่าคนญี่ปุ่น (โปรดอย่าเข้าใจผิด ดิฉันหมายถึงบางคนเท่านั้นเพราะคนไทยที่ทำงานแบบมืออาชีพก็มีอยู่มากมายเช่นกัน) เหตุการณ์ที่ดิฉันได้เจอที่แสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพได้แก่ 

มานั่งคิดๆดูถึงเหตุการณ์เหล่านี้ ดิฉันคิดว่าคงจะไม่เกิดหรือโอกาสเกิดน้อยมากหากเป็นการทำงานแบบญี่ปุ่นค่ะ ดิฉันเคยคุยกับเพื่อนๆที่ชินกับการทำงานกับคนญี่ปุ่นก็มีความเห็นคล้ายๆกันว่า คนไทยจะไม่ซีเรียสหรือจริงจังมากเท่าคนญี่ปุ่น พูดง่ายๆว่าไม่เป๊ะหรือค่อนข้างจะอนุโลมมากกว่า บางทีคนที่ทำงานจริงจังหรือเป๊ะมากกลับดูผิดปกติและโดนวิพากษ์วิจารณ์ซะเองว่า “เป๊ะไปหรือเปล่า” “ซีเรียสไปไหม” “เกินไปหรือเปล่า” เพราะคนไทยจะชอบพูดว่า “ไม่เป็นไร” “อะไรก็ได้” “เอาน่า อย่าคิดมาก” “หยวนได้ก็หยวน” เพื่อนดิฉันที่เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการญี่ปุ่นถึงกับพูดประโยคที่ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างมาก “ไอ้ที่ไม่เป็นไรของคุณนี่ ก็ไม่ใช่ว่าไม่เป็นไรของคนอื่นหรือเปล่า” 

ภาพจาก https://bit.ly/2XkyNdh 

 

ดิฉันคิดว่าที่คนญี่ปุ่นทำงานแบบมืออาชีพเพราะเขาได้รับการปลูกฝังให้รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ดิฉันเคยไปสอนที่โรงเรียนเด็กอนุบาล ห้องน้ำที่โรงเรียนยังสะอาดเอี่ยมเพราะเด็กถูกสอนให้ทำความสะอาดทุกครั้งหลังเข้า พอตอนกลางวันก็จะมีการแบ่งเวรตักอาหาร เก็บจานชาม ทำความสะอาดห้อง นอกจากนี้ดิฉันคิดว่าคนญี่ปุ่นทำงานแบบมืออาชีพเพราะว่า

ดิฉันเชื่อว่าการใส่ใจในการทำงานอย่างเต็มที่ ความพยายามอย่างสุดความสามารถ การเตรียมการที่ดีและการคำนึงถึงผู้อื่นเป็นส่วนสำคัญในการทำงานให้ได้แบบมืออาชีพค่ะ

 

 

life inspired by พิชชารัศมิ์ และ marumura