เหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมา ไดอิชิ รั่วไหลในเดือนมีนาคมปี 2011 จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิถือได้ว่าเป็นภัยพิบัติด้านนิวเคลียร์ครั้งที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ภัยพิบัติเชอร์โนบิลเมื่อปี 1986 จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ประเทศญี่ปุ่นตระหนักถึงภัยอันตรายอันร้ายแรงที่เกิดจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้หลายๆฝ่ายมุ่งมั่นในการแสวงหาแหล่งพลังงานใหม่ๆเพื่อที่จะลดการพึ่งพิงพลังงานนิวเคลียร์รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ 3 คนได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Shizen Energy ขึ้นหลังจากเหตุการณ์ฟุกุชิมาเพียง 3 เดือนเพื่อทำภารกิจดังกล่าว 
 

ผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คนมีโอกาสทำงานร่วมกันที่บริษัทพลังงานลมแห่งหนึ่ง ถึงแม้จะมีภูมิหกลังประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกัน แต่ความปรารถนาที่พวกเขามีเหมือนๆกันก็คือต้องการจะแก้ปัญหาด้านพลังงานให้กับประเทศญี่ปุ่น พันธกิจของบริษัทจึงเป็น “ต้องการจะเปลี่ยนโลกโดยใช้พลังงานทดแทนด้วยมือของพวกเขาเอง” ถึงแม้ว่าจะต้องพบกับปัญหาและอุปสรรคมากมายในตอนเริ่มต้นเพราะพลังงานหมุนเวียนเป็นสิ่งที่ใหม่ในประเทศญี่ปุ่น แต่ผู้ก่อตั้งทั้งสามก็เห็นตรงกันโดยกล่าวว่า “ข้อจำกัดที่มีก็คือข้อจำกัดที่เราสร้างเองในหัวเท่านั้น” ซึ่งหมายความว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
 

บริษัทได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้ได้เทียบเท่ากับปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หนึ่งโรง (ประมาณ 1,000 เมกาวัตต์) ในปี 2017 หลังจากที่ได้ก่อตั้งบริษัทได้เพียง 4 ปี ชิเซน เอเนอร์จีก็มีโปรเจ็คแผงโซล่าร์เซลล์ซึ่งผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 700 เมกาวัตต์  บริษัทยังมีหลักการบริหารงานที่ดิฉันคิดว่าน่าสนใจมากๆจึงอยากนำมาแบ่งปันค่ะ 

 

ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ อย่าคิดถึงเหตุผลว่าทำไมเราถึงทำมันไม่ได้ แต่ให้คิดว่าทำอย่างไรให้เราทำมันได้ เปลี่ยนความคิดจาก “...ดังนั้นฉันเลยทำไม่ได้” ให้เป็น “ฉันทำได้ถ้า...”

 
life inspired by พิชชารัศมิ์ และ marumura