บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.7K
4 นาที
18 มีนาคม 2562
ตำนานคนดัง! ไอแซค เมอร์ริตต์ ซิงเกอร์ ผู้ประดิษฐ์จักรเย็บผ้าคันแรกของโลก 
 

เชื่อหรือไม่ว่ายี่ห้อสินค้า SINGER อยู่คู่กับสังคมไทยมานานกว่า 120 ปีแล้ว แต่ก็คงจะไม่สามารถยืนหยัดอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ หากเมื่อ 160 ปีที่ผ่านมา ไม่มีชายที่ชื่อ “ไอแซค เมอร์ริตต์ ซิงเกอร์” (Isaac Merritt Singer) ชายผู้ปฏิวัติโฉมหน้าของวงการอุตสาหกรรมการตัดเย็บเสื้อผ้าทั่วโลก ด้วยการประดิษฐ์จักรเย็บผ้าคันแรกของโลกขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นจักรเย็บผ้าที่มีประสิทธิภาพสูงในชื่อยี่ห้อ “ซิงเกอร์” ก็เป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวต่างๆ ของ “ไอแซค เมอร์ริตต์ ซิงเกอร์” ชายนักประดิษฐ์ที่ถือเป็นตำนานคนดัง! แห่งวงการอุตสาหกรรมการตัดเย็บเสื้อผ้าของโลก 

ชีวิตในวัยเยาว์
ภาพจาก goo.gl/eEFyAe

ไอแซค ซิงเกอร์ เกิดที่เมืองพิตส์ทาวน์ นิวยอร์ก เป็นบุตรของแอดัม ซิงเกอร์ ผู้อพยพชาวแซกซอน เชื้อสายยิว ซิงเกอร์เข้าเป็นนักแสดงในคณะละครเร่ ทำให้เขามีรายได้ทั้งจากการเป็นนักแสดงและการเป็นช่าง และได้แต่งงานกับ แคทรีน มาเรีย ฮาเลย์เมื่อ พ.ศ. 2373
 
ปี พ.ศ. 2378 ซิงเกอร์พร้อมครอบครัวได้ย้ายไปอยู่นครนิวยอร์ก และเข้าทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งและในปี พ.ศ. 2379 เขาได้ออกเดินทางในฐานะตัวแทนล่วงหน้าคณะนักแสดง ผ่านไปถึงบัลติมอร์ได้พบ และขอแต่งงานกับแมรี แอนน์ สปอนส์เลอร์ ซิงเกอร์ ได้กลับนิวยอร์กและมีบุตรสาวชื่อลิเลียนเมื่อ พ.ศ. 2380
 
แมรี แอนน์ ได้มานิวยอร์กและพบว่าซิงเกอร์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว แต่เธอกับซิงเกอร์ ก็ได้กลับไปบัลติมอร์อีกในฐานะคู่สมรสและมีบุตรชายด้วยกันชื่อไอแซค

ชีวิตในวัยทำงาน 
 

ในปี พ.ศ. 2382 ซิงเกอร์ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์เครื่องเจาะหิน และขายลิขสิทธิ์เป็นเงิน 2,000 เหรียญซึ่งเป็นจำนวนเงินมากมายกว่าทุกครั้งที่เขาเคยมีรายได้ และด้วยความสำเร็จด้านการเงิน ซิงเกอร์จึงหันกลับไปยึดอาชีพนักแสดงอย่างเต็มตัว 
 
เขาตั้งคณะละครเร่ชื่อ "เมอร์ริตต์นักแสดง" ออกเดินทางเร่แสดง และใช้ชื่อตนในฐานะนักแสดงว่า "ไอแซก เมอร์ริตต์" และมีแมรี แอนน์ ร่วมแสดงด้วยโดยใช้ชื่อว่า "นางเมอร์ริตต์" งานเร่แสดงเป็นไปเป็นเวลาประมาณ 5 ปี
 
ในปี พ.ศ. 2387 ซิงเกอร์หันกลับมาทำงานด้านช่างอีกในโอไฮโอ และย้ายไปอยู่ที่พิตส์เบิร์กในปี พ.ศ. 2389 และตั้งโรงงานช่างไม้ทำตัวหนังสือและป้ายไม้ และที่นี่เองที่ได้ประดิษฐ์และจดลิขสิทธิ์ "เครื่องแกะสลักไม้และโลหะ" เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2392
 
จุดเริ่มต้นเครื่องจักรเย็บผ้า 
 
ภาพจาก  goo.gl/F4qgRc

เมื่ออายุ 38 ปี ซิงเกอร์พร้อมภรรยา 2 คนและลูกๆ 8 คน อพยพกลับไปอยู่นิวยอร์กอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเริ่มจัดจำหน่ายเครื่องมือที่เขาประดิษฐ์ขึ้น และด้วยการหาเงินลงทุนล่วงหน้าได้ก้อนหนึ่ง เขาก็ได้เริ่มสร้างเครื่องมือต้นแบบและยังได้รับข้อเสนอให้ไปสร้างโรงงานผลิตเครื่องมือที่บอสตัน ในปี พ.ศ. 2393 ซิงเกอร์ไปตั้งเครื่องแกะสลักของเขาที่โรงงานของออร์สัน ซี เฟลพ์ 
 
เป็นที่ผลิตเครื่องเย็บผ้าลีโลว์และบลอดเจตต์ ในขณะที่ยังไม่มีใบสั่งซื่อเครื่องแกะสลักไม้ เฟลพ์เจ้าของโรงงานจึงขอให้ซิงเกอร์ช่วยดูเครื่องเย็บผ้าดังกล่าวที่ผลิตอยู่ นอกจากจะใช้งานยากแล้วยังผลิตยากอีกด้วย ซิงเกอร์ได้แนะว่าเครื่องเย็บจะทำงานได้ดีขึ้นหากทำให้กระสวยเดินเป็นเส้นตรง แทนที่จะเดินเป็นวงโดยใช้เข็มตรงแทนที่เข็มรูปโค้ง
 
ซิงเกอร์ได้รับเงินทุนอีกครั้งหนึ่งจากจอร์จ บี ซีเบอร์ ซึ่งได้ร่วมเป็นหุ้นส่วนกันรวมทั้งเฟลพ์ด้วยและตั้งชื่อเครื่องว่า "จักรเย็บผ้าเจนนี ลินด์" ตามชื่อนักร้องสาวชาวสวีเด็นที่โด่งดังในยุคนั้น 
จักรเย็บผ้าต้นแบบของซิงเกอร์ นับเป็นจักรตัวแรกของโลก ที่ทำการเย็บได้จริงและได้รับการจดลิขสิทธิ์เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2394 และเมื่อเริ่มจำหน่ายชื่อจักรที่ตั้งว่า "เจนนี ลินด์" กลับไม่มีคนเรียกแต่ไปเรียกกันแพร่หลายทั่วไปว่า "จักรซิงเกอร์"
 
สงครามแย่งลิขสิทธิ์จักรเย็บผ้า
 
ภาพจาก goo.gl/VP8uWa

ซิงเกอร์ไม่ได้เป็นผู้ประดิษฐ์จักรเย็บผ้า และเขาก็ไม่เคยอ้างตนเป็นผู้ประดิษฐ์ เมื่อเขาเห็นจักรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2393 นั้นก็เป็นการประดิษฐ์คิดค้นครั้งที่ 4 แล้ว จักรเย็บผ้าตัวก่อนของวอลเตอร์ ฮันท์ ใช้วิธีเย็บแบบลูกโซ่ มีข้อเสียที่ด้ายมักยุ่งพันกัน 
 
จักรของฮันท์ใช้การเย็บวิธีจับยึดเช่นเดียวกับของลีโรว์และบลอดเจตต์ ที่ซิงเกอร์ได้ทำการปรับปรุงแก้ไขที่โรงงานของเฟลพ์ เอลีแอส โฮว์ ได้ประดิษฐ์จักรเย็บผ้าโดยอิสสระ ซึ่งได้จดลิขสิทธิ์เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2389 ไว้เช่นกัน
 
กระทั่งต่อมาได้เกิดสงครามแย่งชิงลิขสิทธิ์จักรเย็บผ้าขึ้น ระหว่างซิงเกอร์และโฮว์ ซิงเกอร์ได้พบว่าการปรับปรุงของโฮว์เป็นการใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ก่อนแล้ว โดยการพบจักรตัวเก่าของโฮว์ ซึ่งที่จริงเป็นการใช้กระสวยแบบจับยึด 
 
ส่วนฮันท์ที่ยื่นขอจดลิขสิทธิ์ในปี พ.ศ. 2396 ได้อ้างว่าได้ลิขสิทธิ์ก่อนโฮว์ 7 ปี การฟ้องร้องคดี "ฮันท์และโฮว์" ขึ้นศาลในปี พ.ศ. 2397 โดยโฮว์เป็นผู้ชนะคดีและได้หันมาฟ้องศาลขอให้ยับยั้งซิงเกอร์ในการจำหน่ายจักรซิงเกอร์
 
กำเนิดบริษัท ไอ เอ็ม ซิงเกอร์
 
ภาพจาก goo.gl/abvVb6

ในปี พ.ศ. 2399 ผู้ผลิตทั้งหลาย คือ โกรเวอร์, เบเกอร์, ซิงเกอร์, วีลเลอร์และวิลสัน ต่างฟ้องร้องซึ่งกันและกันว่าเป็นผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้มาพบกันที่แอลบานี นิวยอร์ก เพื่อติดตามคดี 
 
โอลานโด บี พอตเตอร์ ทนายความและประธานบริษัทโกรเวอร์และเบเกอร์ ได้เสนอว่าแทนที่จะฟ้องร้องกันจนสิ้นเนื้อประดาตัวทำไมไม่เอาลิขสิทธิ์มารวมกัน ทำให้เกิด "ลิขสิทธิ์กองรวม" (Patent pool) ขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นกระบวนการซึ่งเอื้อให้มีการพัฒนาเครื่องจักรกลที่ซับซ้อนได้ โดยไม่ต้องพะวงสงครามกฎหมายลิขสิทธิ์ ทั้งหมดตกลงและจัดตั้งบริษัทสหการจักรเย็บผ้า
 
แต่ก็ยังต้องเผชิญปัญหากับเอลีแอส โอว์ ผู้ซึ่งมีลิขสิทธิ์ในส่วนสำคัญของจักรอยู่ ซึ่งแปลว่าจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้แก่โฮว์สำหรับจักรทุกตัวที่ผลิต ซึ่งโฮว์ยอมรับเงื่อนไข การผลิตจักรเย็บผ้าในปริมาณมากจึงเกิดขึ้น บริษัท ไอ เอ็ม ซิงเกอร์ ได้ผลิตจักรเย็บผ้าได้ 2,564 ตัวในปี พ.ศ. 2399 และ 13,000 ตัวในปี พ.ศ. 2403 ที่โรงงานใหม่ถนนมอตต์ นิวยอร์ก
 
จักรเย็บผ้าที่ผลิตในช่วงแรก เป็นจักรประเภทอุตสาหกรรมการตัดเย็บ จักรขนาดเล็กส่วนบุคคลสำหรับใช้ในงานตลาดยุโรป สร้างโรงงานในอังกฤษใกล้เมือง กลาสโกว์ นับเป็นเป็นการดำเนินธุรกิจข้ามชาติเป็นครั้งแรกของอเมริกา โดยมีตัวแทนจำหน่ายในปารีสและริโอเดอจาไนโร
 
ความสำเร็จทางการเงิน
 
ภาพจาก goo.gl/xSMz44

ความสำเร็จทางการเงิน ทำให้ซิงเกอร์สามารถซื้อคฤหาสน์ที่ถนนฟิฟท์อเวนู ในปี พ.ศ. 2403 เขาหย่ากับภรรยาคนแรกในข้อหาการมีชู้และอยู่กินกับแมรี แอนน์ โดยเธอได้เห็นเขานั่งรถคู่มากับพนักงานบริษัทชื่อแมรี แมกโกนิกัลป์ ผู้ต้องสงสัยมานาน 
 
ซิงเกอร์มีบุตรกับแมรี แมกโกนิกัลป์ 5 คน โดยใช้นามสกุลแมททิว แมรี แอนน์ ซึ่งยังเรียกตัวเองว่านางซิงเกอร์ได้แจ้งจับซิงเกอร์ในข้อหาทะเลาะวิวาท ซิงเกอร์ผู้ได้รับความอับอายได้รับการประกันตัว และหลบไปอยู่ลอนดอนพร้อมกับแมกโกนัล 
 
หลังจากนั้นก็เกิดการอย่าร้างของครอบครัว "ไอแซค" ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และได้แต่งงานใหม่อีกกับแมรี อีสท์วูด โดยใช้นามสกุลว่า "เมอร์ริต" ซิงเกอร์ มีลูกทั้งหมดรวม 18 คนจากภรรยา 4 คน (ปัจจุบันลูก 18 คนยังมีชีวิตอยู่)
 
แมรี แอนน์ พบกับไอแซกที่ลอนดอนได้ทำข้อตกลงเรียกร้องเรื่องทรัพย์สิน โดยอ้างว่าแม้ไม้ได้จดทะเบียนถูกต้อง แต่ก็ถือว่าถูกกฎหมายเนื่องจากได้อยู่กินด้วยกันเป็นเวลา 7 เดือน ในระหว่างที่ซิงเกอร์หย่าขาดจากแคทรีน ภรรยาคนแรกแล้ว
 
ชีวิตช่วงสุดท้ายในยุโรป
 
ภาพจาก  goo.gl/aZULkN

ในปี พ.ศ. 2406 ได้มีความเห็นร่วมกันยกเลิกบริษัทไอ เอ็ม ซิงเกอร์ และดำเนินกิจการต่อโดย "บริษัทซิงเกอร์" ตัวซิงเกอร์เองได้ลดบทบาทในงานบริหารจัดการประจำวันลง โดยทำหน้าที่เพียงเป็นกรรมการอำนวยการและผู้ถือหุ้นใหญ่
 
มาถึงช่วงนี้ ซิงเกอร์มีลูกกับอิซาเบลลาอีก 6 คน และเนื่องจากปัญหายอกย้อนในการมีครอบครัวในอดีต ทำให้เขาไม่สามารถกลับไปอยู่ในนิวยอร์กได้อีก ได้อพยพไปอยู่ปารีสในเวลาต่อมา และไม่ได้กลับอเมริกาอีกเลย เมื่อเกิดสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย ซิงเกอร์และครอบครัวหนีไปอยู่ในอังกฤษ และสร้างคฤหาสน์ใหญ่ที่เดวอน 
 
กระทั่งต่อมา 9 วัน หลังงานแต่งงานของลูกสาวคนหนึ่ง ไอแซก ซิงเกอร์ ก็ได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดลมอักเสบและถูกฝังที่สุสานทอร์เควย์ในประเทศอังกฤษ
ทรัพย์สินและมรดก
 
ซิงเกอร์ ทิ้งทรัพย์สินมรดกเป็นมูลค่าประมาณ 14 ล้านเหรียญสหรัฐและพินัยกรรม 2 ฉบับ บางคนอาจไม่ได้ด้วยเหตุผลต่างๆ สร้างความวุ่นวายขึ้นในระหว่างสมาชิกครอบครัว ทำให้เกิดการฟ้องร้องกันขึ้น แมรี แอนน์อ้างสิทธิ์การเป็น "นางซิงเกอร์" ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในที่สุดศาลตัดสินให้อิซาเบลลา เป็นแม่หม้ายที่ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาได้แต่งงานกับนักดนตรีชาวเบลเยี่ยมชื่อ วิกเตอร์ รูบซีท ผู้ซึ่งได้ตำแหน่งวิสคอมเต เดอ เอสเตมบอร์ก ตำแหน่งวาติกันแห่งแคมโปเซลิซ
 
ลูกคนที่ 18 ของซิงเกอร์แต่งงานกับเจ้าชายคนหนึ่งเมื่ออายุ 22 ปี ต่อมาหย่าขาดมาแต่งกับเจ้าชายอีกคนหนึ่งในปี พ.ศ. 2436 และเธอได้กลายเป็นผู้อุปถัมภ์คนสำคัญในดนตรีฝรั่งเศสสมัยใหม่ 
อิซาเบลลาฆ่าตัวตายในปี พ.ศ. 2439 บุตรชายคนหนึ่งได้เป็นผู้ให้เงินอุดหนุนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งต่อมาคือมหาวิทยาลัยเอกซีเตอร์ ซึ่งได้ตั้งชื่ออาคารหลังหนึ่งว่า อาคารวอชิงตัน ซิงเกอร์เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา
 
จักรเย็บผ้าซิงเกอร์เข้าไทย
 
ภาพจาก goo.gl/abvVb6

พ.ศ.2432 แต่งตั้งร้าน เคียม ฮั่ว เฮง เป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จักรเย็บผ้าซิงเกอร์ประจำสยามประเทศ เริ่มดำเนินกิจการครั้งแรกในประเทศไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จะเห็นได้ว่า พ.ศ.2394 เป็นจุดเริ่มต้นของซิงเกอร์ เมื่อนาย ไอแซค เมอร์ริตต์ ซิงเกอร์ (Isaac Merritt Singer) ได้ปฏิรูปวงการเย็บผ้าทั่วโลกด้วยการประดิษฐ์จักรเย็บผ้าคันแรกของโลกขึ้นในร้านผลิตเครื่องจักรเล็กๆ ที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยใช้เวลาเพียง 11 วันกับเงินลงทุนที่ยืมมา 40 เหรียญสหรัฐ 
 
สองปีต่อมาจักรเย็บผ้าซิงเกอร์คันแรกจำหน่ายได้ราคา 100 เหรียญสหรัฐ พร้อมรางวัลชนะเลิศในงาน World Fair ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จากนั้นเขาก็ได้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อการประดิษฐ์จักรเย็บผ้า จนกระทั่งเครื่องหมาย “ซิงเกอร์” ได้กลายเป็นชื่อทางการค้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก
 
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: 
@thaifranchise


 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document  
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php 
 

อ้างอิงข้อมูล 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
512
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
431
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
414
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
412
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด