ภาพจาก https://pixabay.com

จากหนังสือขายดีติดอันดับนิวยอร์ทไทมส์ ตัวผู้เขียนได้หนังสือเล่มนี้ตอนไป สมัครเป็นสมาชิกกลุ่ม BNI เมื่อ 5 ปีก่อนเป็นเครือข่ายนักธุรกิจตื่นเช้าได้เท่านั้น ถึงจะเข้าร่วมกับกลุ่มนี้ได้ เราเรียกว่ากลุ่มนี้ว่า BNI หรือ Business Network International ดีใจนะครับที่เคยได้อยู่กลุ่มนี้ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว

ทุกวันนี้กลุ่มนี้เติบโตสร้างเครือข่ายไปมากมายและระบบแบบนี้จัดเป็นระบบ Franchise Format ที่มีรูปแบบเฉพาะการจัด Meeting กลุ่มในกลุ่มย่อย 30 คนถึง 100 คน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของกลุ่ม มีภาระกิจร่วมกันในการช่วยเหลือสนับสนุน ผู้ประกอบการฯ กันในกลุ่มเราจะเรียกกันว่า Power Team ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่ม เฉพาะทีม

เราเองก็ได้เรียนรู้และเห็นวิธีการบริการงานกันในกลุ่ม และไม่มีเงินเดือน ไม่มีผลตอบแทนใด แต่ทำไมเราจึงช่วยเหลือกัน แหละนี้ คือ เสน่ห์ของกลุ่ม BNI หลายคนไม่เคยสัมผัส คงไม่เชื่อ ส่วนตัวอยู่ได้
 

เกือบ 3 ปี ดีใจได้รู้จักเพื่อนๆ มากมาย ได้ความรู้ และนำวิธีคิดที่ดี มาสร้างเครือข่ายน้ำดี มาสร้างชุมชน สร้างชมรม ช่วยสมาคมฯ ช่วยสมาพันธ์มากมาย ส่วนหนึ่งก็มาจากคำว่า " ให้ " ก่อน " ให้ให้เป็น ทำแค่นี้ไม่ได้ ก็อย่าริคิดทำการใหญ่หรือทำ เครือข่ายนะครับ มาศึกษารายละเอียดจาก 52 กลยุทธ์รายสัปดาห์เพื่อสร้างยอดขายและขยายลูกค้าอย่างเป็นระบบ จากบทนำหรือ คำนำจากพูดถึง ทฤษฎีความสัมพันธ์ 6 ช่วง ที่เกี่ยวกับการสร้างเครือข่าย Networking มี 2 เหตุผล

ภาพจาก https://pixabay.com

 

1.ความเชื่อที่ว่า ระยะทางของเรากับใครก็ตามบนโลกใบนี้ มีค่าไม่เกิน 6ช่วงของความสัมพันธ์ ที่ทำให้หลายคนอาจจะผิดหวังได้ ความสำเร็จในการเชื่อมต่อหรือผู้จักจะเกิดขึ้นเอง ไม่ช้าก็เร็วโดยไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้
 

2.ความสามารถในการเชื่อมต่อเป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนได้ ด้วยการอ่าน การฝึกอบรมและการปฎิบัติอย่างถูกวิธี เราก็สามารถสร้างทักษะในการสร้างเครือข่าย ขยายขอบเขตคนที่รู้จักได้ ซึ่งสามารถที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ได้ ดีกว่าที่เราไม่เริ่มต้นทำอะไรเลย แต่ก็ไม่เกิน 6 ช่วงความสัมพันธ์อยู่ดี
 

การขยายธุรกิจ เทคนิคสำคัญคือ การใช้เครือข่ายเพื่อสนับสนุนการบอกต่อและในระบบการเรียนการสอนไม่ได้มีวิธีการสอนการสร้างเครือข่าย วิชานี้จึงมีสอนกันในตำราวิชาขายตรงที่เราเห็นกันมากมายจนคนเริ่มกลัว เพราะมันมีล้มเหลวมากกว่าความสำเร็จ แต่ทำไมสินค้าบางแบรนด์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแสดงว่ามันยังคงมีโอกาสสำเร็จได้

ทุกวันนี้เราเองต่างก็ใช้การหลักการตลาดแบบบอกต่อแต่ผ่านระบบ ONLINE มัน คือ Network Marketing ที่ตรงมากกว่าเดิม ทำให้หลายคนประสบความสำเร็จ สำเร็จเพราะจริงจังกับมัน เรียนรู้และพัฒนามันให้ตรงกลุ่มเป้าหมายของเรา บน FEED FACEBOOK มักจะเจอพ่อค้า แม่ค้า ONLINE มากมายในปัจจุบัน มากเกินจนเสียบรรยากาศของการเข้าไปใช้ ไปบริโภคข่าวสารจากเพื่อนๆของเราบน FACEBOOK มาดูหมวดแรกของหนังสือเล่มนี้กันต่อครับ

หมวดที่ 1.กลยุทธ์ 7 สัปดาห์แรกของงานเครือข่าย

หมวดที่ 2.ขยายเครือข่ายของท่าน กลยุทธ์ของสัปดาห์ที่ 8. - สัปดาห์ที่ 14.

หาคนเข้ามาในบ้านท่านหรือลูกค้าจะมีทั้งได้เป็นเพื่อไปเป็นลูกค้าของเราเลยอาจจะวันนี้หรือในอนาคต แต่เราไม่ได้ทำตัวเป็นนักขายนะครับ ต้องเป็นเพื่อนที่ดีในการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่ดีให้กับเพื่อนหรือเพื่อนของเพื่อน สิ่งเหล่านี้ตัวผู้เขียนเองก็ใช้กลยุทธ์แบบนี้ในการสร้างแบรนด์ตัวเอง สร้างกลุ่ม จนถึงสร้างชุมชนน้ำดีในปัจจุบัน ลองค้นหากลุ่ม “ ชมรมผู้ประกอบการน้ำดื่ม “ ใน Google ก็จะเห็นว่ามันได้ผลจริงๆ 

 

แต่ก็จะมี Sponsor ติดมาด้วยก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่กลยุทธ์ทำให้เราติด Google Adword แบบไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว สิ่งเหล่านี้มันจึงเป็นการสร้างเครือข่ายรูปแบบหนึ่ง ในหนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 8 หมวดที่น่าสนใจในการสร้างเครือข่าย แต่อยากจะนำเน้นหมวดที่ 6 เพราะตัวผู้เขียนก็ได้รับการยกย่องจากกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ
 

หมวดที่ 6.เป็นผู้เชี่ยวชาญ การเป็นผู้เชี่ยวชาญจะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายมาหาท่านอยู่ในสัปดาห์ที่ 34. เป็นการนำเสนอคุณค่าของธุรกิจท่านให้กับกลุ่มเป้าหมาย คำว่า เชี่ยวชาญนี้ คือ ท่านต้องรู้และเข้าใจในสายงานของธุรกิจตัวเองอย่างดี
 

ขอย้ำนะครับว่าอย่างดี  ไม่ใช่ถามอะไรก็ไม่รู้ ถามอะไรก็ตอบไม่ได้เอาเลย รู้อาจจะไม่ต้องลึกมาก แต่ต้องเข้าใจรูปแบบของธุรกิจของตัวเองสามารถที่จะส่งต่อคุณค่าให้กับลูกค้าเราได้ สร้างความประทับใจที่ดีให้กับลูกค้าของเราและสร้างการจดจำให้เกิดภาพจำของเรากับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมันก็ คือ การสร้างแบรนด์ที่ดีให้กับกลุ่มเครือข่ายของเราก่อน

การพูดซ้ำว่าเราทำธุรกิจอะไร เรามีผลงานอะไรและเรากำลังมองหาอะไร คือ สิ่งที่เพื่อนๆจะไปบอกต่อกันเอง ประโยชน์ของมันมากมาย เมื่อเราใช้มันอย่างถูกต้องและเป็นระบบ เราก็จะกลายเป้นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆไปเองอัตโนมัติ

ยังคงมีข้อมูลดีๆในเล่มอีกมากมายที่จะช่วยให้ผู้อ่านได้อ่านและปฎิบัติ ลดความหน้าอายลงบ้าง กล้าที่จะพูดมันเหมือนการฝึกพูดในหน้าชั้นเรียนทุกสัปดาห์ พูดให้น่าสนใจ พูดให้ตรงประเด็น นี้แหละครับ คือ เสน่ห์ของกลุ่ม BNI มีโอกาสใครชวนไปก็ลองเปิดใจไปดูกลุ่มนี้ทำงานกันก่อน จะตัดสินใจชอบหรือไม่ชอบก็อยู่ที่ตัวท่านเองแล้วละครับ

 

สุดท้ายขอขอบคุณขอมูลดีๆในหนังสือเล่มนี้อ่านอย่างเดียวทำไม่ได้ต้องปฎิบัติด้วยครับและท่านจะเข้าใจ คำว่า  “Givers Gain.”  ให้โดยไม่ต้องจำ รับแล้วอย่าลืม


อาจารย์อ๊อด น้ำดี
www.สถาบันพัฒนาผู้ประกอบน้ำดื่มประเทศไทย.com