ทุกวันนี้คนที่ประกอบธุรกิจในเครือของ บริษัท รัฐบาล หรือแฟรนไชส์ จะต้องพบเจอกับการโจมตีทางไซเบอร์อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งจะเสี่ยงในการที่จะโดนเปิดเผยข้อมูลในบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (PIII) และอาจจะทำให้ธุรกิจของคุณนั้นต้องหยุดชะงักลง ซึ่งโดยคนส่วนใหญ่ที่ตกเป็นเป้าหมายนั้นจะมีอยู่ 2 ประเภท นั้นก็คือ

1. ผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าพวกเขาโดนบุกรุกทางไซเบอร์ : โดยคนจำพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นคนที่อยู่ภายในองค์กรหรือบริษัทมากกว่าบุคคลธรรมดาทั่วไป หรืออาจจะเป็นบุคคลที่ทำหน้าที่ทางด้านฝ่าย IT และ วิศวกรรม เป็นต้น

2. ผู้ที่ไม่รู้แล้วพวกเขาตกเป็นเหยื่อ : ผู้คนเหล่านี้ส่อเค้าว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาซะส่วนใหญ่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้ตัวอีกทีก็ถูกแฮคระบบในข้อมูลไปแล้ว

 

และถึงแม้ว่าเราจะใช้คำว่า “การบุกรุก” ก็ตาม แต่แหล่งข่าวส่วนใหญ่มักจะเรียกกรณีเหล่านี้ว่า “การถูกโจมตีทางไซเบอร์” ซึ่งสามารถอธิบายได้ถึงลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่การเข้าถึงข้อมูล PII หรือ แม้แต่บัตรเครดิต โดยไม่ได้รับอนุญาต ไปจนถึงผู้ที่โจมตีโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง โดยส่วนใหญ่แล้วการโจมตีเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นจากฝีมือของคู่แข่งขันทางธุรกิจ เพื่อที่จะได้แฮคเอาระบบข้อมูลทางธุรกิจไปและได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลนั้น ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นเราก็จะรู้จักกันดีในเรื่องของ “ความลับทางการค้า” ที่ดีที่สุดในระบบแฟรนไชส์

 

ภาพจาก bit.ly/2p3K0Dl

 

โดยส่วนใหญ่แล้วการโดนแฮคระบบนั้นมักจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ข้อมูลของบัตรเครดิต ข้อมูลของ PII และข้อมูลทางธุรกิจ ที่ซึ่งจะได้รับการพาดหัวข่าวทางทีวีมากกว่า แน่นอนแหละว่า แผนกไอทีส่วนใหญ่คุ้นเคยดีกับหัวข้อเหล่านี้เพราะ พวกเขาเหล่านั้นจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงระบบปฏิบัติการในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยในด้านข้อมูลอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI-DSS) อย่างไรก็ตามถ้าบุคคลเหล่านี้ล้มเหลวในการป้องกันระบบขึ้นมาล่ะก็ อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของระบบแฟรนไชส์ในการประมวลผลทางบัตรเครดิตก็เป็นได้

 

โดยหากคุณพบเห็นหรือรู้สึกถึงการละเมิดที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิตของคุณ คุณก็สามารถที่จะไปยกเลิกบัตรนั้นหรือเปลี่ยนแปลงมันได้ แต่สำหรับใครที่จ่ายเงินไปแล้วและถูกขโมยไปเงินในบัตรเครดิตนั้นไป บางทีการประกันภัยทางไซเบอร์อาจจะเป็นคำตอบเพียงหนึ่งเดียวสำหรับการบรรเทาถึงปัญหาและผลกระทบเหล่านี้

ภาพจาก bit.ly/310D3QC

แต่การเปลี่ยนหมายถึงบัตรเครดิต PII นั้นอาจจะทำได้ยากกว่าและอาจจะไม่สามารถทำได้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่หมายเลขประกันสังคมของคุณได้ถูกขโมยไป นั้นเป็นไปไม่ได้เลยว่า คุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลเหล่านั้นได้ ยกตัวอย่างเช่น บัตรข้อมูลในการบันทึกสุขภาพของคุณ เป็นต้น แน่นอนล่ะว่า สำหรับแฟรนไชส์ส่วนใหญ่แล้ว ความลับทางการค้า เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ตัวอย่างเช่น สูตรซอสลับความอร่อยที่ทำขึ้นเอง เป็นต้น อีกทั้งแฟรนไชส์ส่วนใหญ่มักจะมีซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ที่ใช้สำหรับ franchisor และ franchisees โดยเฉพาะ ดังนั้น ธุรกิจแฟรนไชส์จึงมักเป็นเป้าหมายหลักในการโจมตีทางไซเบอร์รองลงมาจากรัฐบาล

 

ภาพจาก bit.ly/2p2iLcs

แน่นอนว่า บริษัทแฟรนไชส์ส่วนใหญ่อาจจะไม่มีงบประมาณทางด้านเทคโนโลยีและการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอในการที่จะป้องกันระบบข้อมูลภายในบริษัทของคุณ ดังนั้นแล้ว ข้อมูลจำนวนมหาศาลจึงอาจจะถูกรั่วไหลได้ง่ายโดยที่คุณไม่รู้ตัว อีกทั้งหากแฟรนไชส์ได้ถูกแฮคเอาระบบข้อมูลความลับทางการค้าไปแล้วล่ะก็ ผู้ที่ทำธุรกิจแฟรนไชส์อาจจะต้องสูญเสียทุกอย่างและอาจจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้ใช้บริการของคุณด้วยเหตุที่คุณไม่ได้ก่อ แต่เพราะระบบความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอเหล่านั้น ทำให้ธุรกิจของคุณนั้นอาจมีความเสี่ยงถึงขั้นล้มละลายได้โดยง่าย ฉะแล้วผู้ที่ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ควรที่จะต้องระวังในจุดนี้ให้ดี อย่าได้ประมาทโดยเด็ดขาด!

ภาพจาก bit.ly/2Vqvu4E
 

ยิ่งยุคนี้เป็นยุคของสังคมออนไลน์ ข้อมูลที่จะถูกแฮคมาก็ทำได้โดยง่าย เพราะบางธุรกิจนั้นอาจจะต้องมีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า หรือส่งเอกสารให้กับลูกค้าหรือพนักงานของคุณผ่านทางสื่อออนไลน์ ดังนั้นแล้ว เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผู้ที่ธุรกิจแฟรนไชส์จึงต้องระวังตัวให้มาก พยายามหมั่นตรวจเช็คความปลอดภัยในธุรกิจของคุณให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเกิดเรื่องน่าเศร้าในธุรกิจของคุณก็เป็นได้

 

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน