ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้ปิดปรับปรุงตั้งแต่ 26 เมษายน 2562 เป็นต้นไปหลังจากที่เปิดเป็นพื้นที่จัดแสดงงานต่างๆ มานานกว่า 27 ปี โดยการปิดปรับปรุงครั้งนี้ตั้งใจจะทำให้เป็น “Central Business District” หรือก็คือศูนย์ Exibition Downtown ที่ใหญ่ที่สุดในย่านใจกลางเมือง โดยจะขยายพื้นที่สำหรับจัดแสดงงานให้ใหญ่ขึ้นเป็น 70,000 ตารางเมตร จากเดิมที่มีทั้งหมด 20,000 ตารางเมตร การปิดปรับปรุงครั้งในครั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาทั้งหมด 3 ปี และจะเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ปี 2565 โดยการกลับมาเปิดตัวอีกครั้งจะกลับมาพร้อมกับสัญญาที่ต่อเพิ่มไปอีก 50 ปี

 ภาพจาก JS100

 

ตลอดระยะเวลากว่า 27 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ฯสิริกิติ์ ก็เป็นสถานที่จัดงานใหญ่ๆ อยู่หลายงาน เช่น งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ งานโมบายเอ็กซ์โป สหกรุ๊ปแฟร์ ฯลฯ และเมื่อศูนย์สิริกิติ์ปิดตัวลง แน่นอนว่าเหล่าผู้จัดงานเหล่านี้ต่างต้องย้ายไปจัดงานตามสถานที่จัดงานอื่นๆอย่างเมืองทองธานี ไบเทคบางนา หรือศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

ภาพจาก bit.ly/2MwWknT

อย่างเช่น งานโมบายเอ็กซ์โป ที่นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มวิชั่น ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป เปิดเผยว่าจากการปิดปรับปรุงขอศูนย์ฯ สิริกิติ์ ทำให้ทางบริษัทมีแผนที่จะย้ายไปจัดงานที่ไบเทค บางนาแทน ถึงแม้ว่าผู้ร่วมงานอาจจะเดินทางไกลขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ก็ถือว่ายังสะดวกเพราะมีบีทีเอสไปถึง ลงสถานีบางนาก็ถึงสถานที่จัดงานเลย อีกทั้งไบเทคยังมีพื้นที่จอดรถมากกว่าศูนย์สิริกิติ์อีกด้วย

ภาพจาก bit.ly/311Ju63

ประวัติของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นั้น เริ่มต้นขึ้นในปี 2532 ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ครั้งที่ 46 ที่กรุงเทพมหานคร รัฐบาลจึงรีบวางแผนการจัดสร้างสถานที่การประชุมนี้ขึ้นในทันที จนในสุดด้วยความร่วมมือของหลายๆ ฝ่าย ทำให้ศูนย์ฯ สิริกิติ์ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในระยะเวลาเพียง 16 เดือน มีพื้นที่ทั้งหมดรวมแล้วกว่า 65,000 ตารางเมตร และมีพื้นที่จัดนิทรรศการ (ก่อนการปิดปรับปรุงครั้งใหญ่นี้) ทั้งหมด 20,000 ตารางกิโลเมตร

ภาพจาก bit.ly/311HY3R

ต่อมาในปี 2534 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้พระนามเป็นชื่อของศูนย์ประชุมเนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ดังนั้น ศูนย์ประชุมที่รองรับการประชุม world Bank นี้ จึงได้มีชื่อว่า “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา โดย ศูนย์ฯ สิริกิติ์ อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทเอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง ให้ลงนามในสัญญาร่วมกับกรมธนารักษ์

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com/document