ปัจจุบันการเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของชนชั้นกลางในเวียดนาม ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นสมรภูมิการแข่งขันของธุรกิจจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะวงการค้าปลีกเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่แข่งขันกันรุนแรง 

 

โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่มีทั้งเชนร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนของเกาหลีระบุว่า ช่วงปี 2556-2561 ค้าปลีกเวียดนามเติบโตปีละ 10.9%

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในเวียดนาม มานำเสนอให้ทราบครับ 

ภาพจาก bit.ly/2pXATF0

 

เริ่มจากธุรกิจค้าปลีกของญี่ปุ่นนั้น “อิออน” (AEON) เป็นผู้เริ่มรุกตลาดเวียดนามในปี 2554 และเดินหน้าสร้างและบริหารช็อปปิ้งมอลล์ในเมืองโฮจิมินห์, ฮานอย และบินห์เซือง ทางตอนเหนือของโฮจิมินห์ ด้วยเม็ดเงินลงทุน 190 ล้านเหรียญสหรัฐ

ภาพจาก bit.ly/2R0QfUo

 

แม้ขณะนี้จะดูเหมือนว่าเกาหลีใต้ จะได้เปรียบจากการที่สามารถยึดพื้นที่ในเซ็กเมนต์ค้าปลีกขนาดใหญ่ได้ ด้วยจำนวนสาขา ช็อปปิ้งมอลล์และห้างสรรพสินค้า ที่มากกว่าก็ตาม แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหลังจากนี้ ร้านสะดวกซื้อจะเป็นเซ็กเมนต์ต่อไปที่ทั้ง 2 ประเทศจะเข้าชิงความเป็นเจ้าตลาด เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตที่สูง

 

ทั้งนี้ บริษัทวิจัยไอจีดี ระบุว่า เวียดนามจะเป็นประเทศที่มีการเติบโตของร้านสะดวกซื้อรวดเร็วที่สุดในเอเชียภายในปี 2564 ด้วยปัจจัยบวกหลายด้าน อาทิ การขยายตัวของสังคมเมือง รายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนผู้บริโภควัยรุ่นที่คุ้นเคยกับการใช้บริการและความสะดวกของร้านสะดวกซื้อ

 

โดยในเซ็กเมนต์นี้เดิมมีผู้เล่นสัญชาติญี่ปุ่นเข้ามาปักธงอยู่ก่อนแล้ว เช่น ยักษ์ร้านสะดวกซื้อ “7-11” ที่เข้ามาในปี 2560 ปัจจุบันมี 24 สาขา พร้อมเดินหน้าโฟกัสขยายสาขาในเมืองหลักทั้งโฮจิมินห์และฮานอยด้วยเป้าหมาย 1,000 สาขา หรือ “แฟมิลี่มาร์ท”

ภาพจาก bit.ly/2qUgwZO

 

ที่ปัจจุบันมีสาขา 160 แห่ง เป็นผู้เล่นอันดับ 4 ส่วน “ฟูจิ มาร์ต” (Fuji Mart) เชนร้านสะดวกซื้อของ “ซูมิโตโม” (Sumitomo) หนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหญ่ของญี่ปุ่นที่จับมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเมื่อปี 2561

ภาพจาก bit.ly/2Dojtoa

 

แต่ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเชนร้านสะดวกซื้อสัญชาติเกาหลีหลายรายเริ่มเข้ามาตั้งธุรกิจในเวียดนาม เช่น “จีเอส25” (GS25) ได้เข้าเปิดสาขาแรกในกรุงโฮจิมินห์ตั้งแต่ ม.ค. 2561 และขยายสาขาอย่างต่อเนื่องจน

ภาพจาก bit.ly/2R2bMfC

 

ปัจจุบันมี 40 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงมีแผนขยายให้ครบ 2,000 สาขาภายในเวลา 10 ปี เช่นเดียวกับ “บีจีเอฟ รีเทล” (BGF Retail Co.) ผู้บริหารเชนร้านสะดวกซื้อ “ซียู” (CU) ได้เซ็นสัญญาตั้งมาสเตอร์แฟรนไชส์กับ “ซียูวีเอ็น” (CUVN) เพื่อเตรียมขยายสาขาในเวียดนาม

 

จากข้อมูลของบริษัทวิจัยบีแอนด์คอมปะนี ณ เดือน พ.ค. 2561 เวียดนามมีร้านสะดวกซื้อ 14 แบรนด์ มีสาขารวมกันประมาณ 2,100 สาขา โดยท็อป 5 ประกอบด้วย อันดับ 1 “วินมาร์ต” (Vinmart) ผู้เล่นท้องถิ่นรายใหญ่มี 1,100 สาขา ตามด้วยมินิซูเปอร์มาร์เก็ต “แบค ฮัว ซันห์” (Bach hoa Xanh) ผู้เล่นท้องถิ่น

ภาพจาก bit.ly/34y7nEP

 

อีกรายที่มี 372 สาขา เชนสะดวกซื้อจากสหรัฐ “เซอร์เคิลเค” (Circle K) 274 สาขา และ “แฟมิลี่มาร์ท” จากประเทศญี่ปุ่นมี 160 สาขา ปิดท้ายด้วย “บีส์มาร์ต” (B”s Mart) จากเมืองไทยมี 147 สาขา 

 

ฝั่งเกาหลีใต้ จะมี “ลอตเต้ กรุ๊ป” (Lotte Group) ที่เข้ามาปักธงตั้งแต่ปี 2551 จนปัจจุบันมีช็อปปิ้งมอลล์ 14 แห่ง ห้างสรรพสินค้า 1 แห่ง และร้านค้าปลอดภาษีอีก2 แห่ง รวมเป็นเม็ดเงินลงทุนกว่า 390 ล้านเหรียญสหรัฐ

ภาพจาก bit.ly/35EochA

 

จะเห็นได้ว่า จากแนวโน้มความเคลื่อนไหวของธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ ทั้งจากญี่ปุ่นและเกาหลี นับจากนี้เป็นต้นไปน่าจะทำให้การแข่งขันในตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศเวียดนามดุเดือดมากยิ่งขึ้น

 

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)