บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
5.7K
2 นาที
20 ธันวาคม 2562
ส่อง! 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง-ร่วง ปี 2563


มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ในปี 2563 พร้อมคาดเศรษฐกิจปีหน้าโตร้อยละ 3.1 เกี่ยวกับเรื่องนี้ “นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์” อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยถึงผลสำรวจ 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่งและร่วงในปี 2563 จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจปี 2562 โดยคาดว่า จีดีพีขยายตัวร้อยละ 2.5 ส่งออกหดตัวร้อยละ 5.1 
 
รวมถึงปัจจัยด้านอื่นๆ โดยเฉพาะความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนการทำสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมในปี 2562 ไม่ดีเท่าที่ควร แต่จากการประเมินปัจจัยสนับสนุนและเป็นตัวบั่นทอนธุรกิจในปี 2563 ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะความเสี่ยงสงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน
 
โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะมีโอกาสเติบโตต่ำกว่าร้อยละ 6 ขณะที่ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะแข็งค่าเฉลี่ย 29.75-30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุนของต่างชาติ รวมถึงต้นทุนการดำเนินธุรกิจสูงขึ้นที่มาจากค่าจ้างขั้นต่ำ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
 
ธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ดาวรุ่งอันดับ 1 ปี 63


ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยถึง 10 อันดับธุรกิจ ดาวรุ่งในปี 2563 ว่า ธุรกิจแพลตฟอร์ม ถือเป็นธุรกิจเด่นอันดับ 1 สำหรับปี 2563 เนื่องจากมีหลายปัจจัยสนับสนุน ทั้งความหลากหลายและ รูปแบบการให้บริการ รวมทั้งความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการทำธุรกิจออนไลน์มากขึ้น
 
ประกอบกับประชาชนมีการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในชีวิตประจำวัน, พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จึงหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น และมีความคุ้นชินกับการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น, กระแสการพัฒนาแพลตฟอร์มทั่วโลก 
 

ทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะ ที่ภาครัฐมีการผลักดันผ่านนโยบายและมาตรการต่างๆ ในธุรกิจแพลตฟอร์มด้านออนไลน์
  • อันดับ 2 ธุรกิจ e-commerce, ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ และอุปกรณ์ รวมทั้งผู้ให้บริการเครือข่าย 
  • อันดับ 3 ธุรกิจ เกมส์ และธุรกิจพัฒนา application 
  • อันดับ 4 ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ 
  • อันดับ 5 ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต, ธุรกิจบริการทางการแพทย์ และความงาม
  • อันดับ 6 ธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจ Street Food
  • อันดับ 7 ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ 
  • อันดับ 8 ธุรกิจด้าน fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี และธุรกิจพลังงาน 
  • อันดับ 9 ธุรกิจก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน, ธุรกิจที่ปรึกษาด้าน กฎหมาย/บัญชี 
  • อันดับ 10 ธุรกิจด้านท่องเที่ยว Hostel modern tourism และ Lifestyle tourism และธุรกิจเครื่องสำอาง-ครีม บำรุงผิว
 
ธุรกิจเช่าหนังสือ-โทรศัพท์พื้นฐาน ดาวร่วงปี 2563


สำหรับ 10 อันดับธุรกิจดาวร่วงในปี 2563 อันดับ 1 คือ ธุรกิจเช่าหนังสือ
  • อันดับ 2 ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน และเครื่อง โทรสาร 
  • อันดับ 3 ธุรกิจร้านให้บริการอินเตอร์เน็ต 
  • อันดับ 4 ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และวารสาร ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใช้แรงงานมากและขาย ในประเทศ 
  • อันดับ 5 ธุรกิจหัตถกรรม และเฟอร์นิเจอร์ไม้
  • อันดับ 6 ธุรกิจการค้าแบบดั้งเดิม 
  • อันดับ 7 ธุรกิจคนกลาง 
  • อันดับ 8 ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ความจำ Storage media เช่น CD, DVD, Blu-Ray, External Hard Drives, Memory Card อันดับ 9 ธุรกิจดั้งเดิมที่ไม่มีดีไซน์และใช้แรงงานสูง 
  • อันดับ 10 ธุรกิจสถานศึกษาเอกชน และธุรกิจร้านถ่ายรูป
 
ธุรกิจร้านกาแฟ-ชาไข่มุกเล็กๆ ทำเลไม่ดี เสี่ยงเจ๊งสูง


ภาพจาก bit.ly/2ZbMlu6
 
นอกจากธุรกิจดาวรุ่ง-ร่วง ในปี 2563 ยังมีธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงในปี 2563 เช่น ธุรกิจร้านกาแฟที่ทำเลไม่ดี ไม่มีแฟรนไชส์ และขนาดเล็ก ธุรกิจร้านชานมไข่มุกที่ ทำเลไม่ดี เนื่องจากธุรกิจมีจำนวนมาก และมีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการตัดราคา 


ภาพจาก bit.ly/2rbRWnz
 
ส่วนธุรกิจที่มีความเสี่ยงปานกลาง คือ ธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ธุรกิจเครื่องสำอาง-อาหารเสริม เนื่องจากธุรกิจมีจำนวนมาก มีการแข่งขันสูง และมีต้นทุนการดำเนินธุรกิจสูง รวมทั้งธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทำเลไม่ดี เนื่องจากมี Over Supply รวมทั้งผลจากมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย รวม ทั้งผลจากการบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
 
ปี 63 ปัญหาเพียบ!! ภาครัฐเตรียมเข็นมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเต็มสูบ


ภาพจาก bit.ly/34Lfyxa
 
นายธนวรรธน์ มองว่า ในปี 2563 มีปัจจัยสนับสนุนสำหรับการดำเนินธุรกิจ เช่น มาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐที่ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศราว 41-42 ล้านคน, ภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ, การลงทุนของภาครัฐมีโอกาสเร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน 
 
รวมทั้งการลงทุนของภาคเอกชนเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC รวมถึงธนาคารกลางทั่วโลกได้มีการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ให้เข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน 
 
นอกจากนี้ กำลังซื้อของประชาชนฐานรากมีเพิ่มขึ้น ตามมาตรการสวัสดิการแห่งรัฐ และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และการประกันราคาสินค้าเกษตร
 
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยที่บั่นทอนการดำเนินธุรกิจในปีหน้า เช่น ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ความเสี่ยงจาก สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งสถานการณ์ Brexit, เศรษฐกิจจีนในปีหน้า มีโอกาสเติบโตต่ำกว่า 6%, สถาบันการเงินของไทยจะเริ่มใช้มาตรฐานทางบัญชี TFRS9 ซึ่งจะทำให้มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น 


ภาพจาก bit.ly/2Sc51IG
 
เงินบาทยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีหน้าเงินบาทจะอยู่ที่ระดับ 29.75-30.50 บาท/ดอลลาร์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ปัญหา NPL ของสถาบันการเงินที่ส่งผลต่อการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ปัญหาภัยธรรมชาติ และต้นทุนการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ
 
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 

 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
 
อ้างอิงข้อมูล
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
791
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด