ใครว่าเป็นเด็กแล้วจะไม่มีทางหาเงินได้! สิ่งหนึ่งที่แตกต่างระหว่างพ่อแม่คนไทยกับพ่อแม่ฝรั่ง คือแนวคิดในการเลี้ยงที่เน้นให้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่กำหนดกรอบความคิด มีอิสระให้ลูกได้ลงมือทำ เราจึงเห็นเด็กฝรั่งส่วนใหญ่กล้าคิด กล้าทำ และก็นำมาซึ่งผลสำเร็จดังมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ซึ่งข้อดีในเรื่องนี้พ่อแม่ยุคใหม่น่าจะเอามาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการเลี้ยงดูบุตรหลาน

ทั้งนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีตัวอย่างที่น่าสนใจของการปล่อยให้บุตรหลานได้มีอิสระทางความคิด เป็นเรื่องของ Xeo Chu เด็กวัย 11 ขวบจากเวียดนามที่เขาสามารถสร้างรายได้จากการวาดภาพรวมกว่า 150,000 เหรียญ หรือประมาณ 4.5 ล้านบาท

ถ้าดูจากความสามารถด้านการวาดภาพและหารายได้ด้วยอายุเท่านี้ Xeo Chu ไม่ใช่คนแรกที่ทำได้ ในปี 2007 Marla Olmstead เด็กน้อยอายุ 4 ขวบเคยทำให้คนทึ่งมาแล้วกับภาพวาดของเขาที่ขายได้ถึง 300,000 เหรียญ หรือ Aelita Andre เด็กน้อยอายุแค่เจ็ดขวบแต่วาดภาพอะครีลิคที่ขายได้ถึง 50,000 เหรียญ ในส่วนของ Xeo Chu เด็กน้อยจากเวียดนามคนนี้เป็นการวาดภาพแบบการใช้พู่กันระบายสีในลักษณะของการสะบัดแปรงให้เกิดเป็นภาพตามจินตนาการที่บอกเล่าอารมณ์และความรู้สึกของผู้วาด

Ha Long Bay, 2019.

Autumn in Canada, 2019.
ภาพจาก bit.ly/34TMQdz

โดยภาพที่ Xeo Chu วาดนั้นขนาดประมาณ 15 ฟุต ขายในราคากว่า 150,000 เหรียญ (ประมาณ 4.5 ล้านบาท) ซึ่งหากเราไปติดตามภาพวาดของ Xeo Chu จะพบว่าเป็นภาพสีน้ำมันที่มีมิติของการเล่าเรื่อง อย่างน่าสนใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่ศิลปินชื่อดังระดับโลกจะให้ความสนใจกับภาพวาดของจิตรกรน้อยรายนี้ ถึงขนาดที่เอาภาพของ Xeo Chu ไปร่วมแสดงในงานศิลปะระดับโลก ที่ยิ่งตอกย้ำความเป็นสุดยอดในด้านศิลปะของ Xeo Chu ได้ดียิ่งขึ้น

 

 

Xeo Chu ได้เข้าร่วมการแสดงความคิดเห็นผ่านรายการชื่อดังที่สัมภาษณ์ตัวเขาถึงที่มาของความสำเร็จหนึ่งในคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจคือการที่ครอบครัวไม่ปิดกั้นความคิดปล่อยให้ Xeo Chu ได้ทำอะไรในแบบที่ตัวเองคิด ครอบครัวเพียงแค่คอยดูไม่ให้เกิดอันตรายกับเขาเท่านั้น

 

 

ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีมีบทบาทกับชีวิตเรามาก แต่ดูเหมือนว่าการใช้เทคโนโลยีจะเน้นไปที่ความบันเทิงเป็นหลักทั้งที่ความจริงหาก มองข้ามความบันเทิงไป และดึงเอาข้อดีของเทคโนโลยีมาใช้เช่นหาความรู้ ขยายช่องทางการตลาด เหมือนที่ Xeo Chu เองก็ดูผลงานศิลปะจากนักวาดระดับโลกและเอาแนวคิดมาผสมผสานในแนวทางของตัวเอง

 

 

การเลี้ยงลูกแบบสมัยใหม่ต้องให้ลูกกล้าคิด กล้าทำ กล้าลงมือ พ่อแม่ไม่ต้องคอยช่วยเหลือในทุกเรื่องจนลูกทำอะไรไม่เป็น นั้นคือการปิดกั้นความคิดและทำให้เด็กเกิดภาพจำแบบผิดๆ ว่าตัวเองไม่เก่ง ตัวเองทำอะไรไม่ได้ อยากได้อะไรก็ขอพ่อขอแม่ เป็นการสร้างพลังทางลบให้เกิดในความรู้สึก จนปิดกั้นพลังด้านบวกทั้งที่เด็กคนนั้นอาจมีความสามารถที่ซ่อนอยู่แต่ครอบครัวไม่เคยให้เด็กได้แสดงออกถึงสิ่งนี้

 

 

ภาพจาก bit.ly/392RYiA

ในวัย 10 ขวบ Maddie นำฝาขวดเก่าๆ มาออกแบบ วาดลวยลายลงไปแล้วมาติดกับแม่เหล็ก และนำไปติดไว้ที่ล็อคเกอร์ จนเพื่อนๆ เห็นแล้วเกิดอยากได้บ้าง เป็นจุดเริ่มต้นให้ Maddie ทำเป็นเครื่องประดับ จนอายุ 13 ปี เครื่องประดับจากฝาขวดนี้ขยายเป็นธุรกิจและก่อตั้งบริษัท m3 girl designs (a jewelry company) ในชื่อแบรนด์ว่า “Snap Caps®” สร้างรายได้ต่อปีมากกว่า $1.6 million ขายได้กว่า 60,000 ต่อเดือน ทั้งในอเมริกา, ร้านค้าต่างๆ รวมถึงเว็บไซต์

 

ภาพจาก bit.ly/2sbGlpa

 

เด็กน้อยผู้เป็นเจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์ ดูแลเส้นผม ในชื่อแบรนด์ “Leanna’s Hair” ซึ่งเป็นสูตรเด็ดเคล็ดลับของคุณย่ากับ Leanna  ธุรกิจนี้เริ่มจากส่งให้เพื่อนๆ ใช้ และดีเกินคาด Leanna จึงนำสูตรดูแลเส้นผมนี้สร้างเป็นธุรกิจ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ Leanna ทำมาจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีใดๆทั้งสิ้น และสามารถสร้างรายได้ให้เฉลี่ยน $100,000 ต่อปี 

 

ภาพจาก bit.ly/392RYiA

เด็กน้อยในวัย 15 ปีผู้เป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์ Fish-Flops รองเท้าแตะสำหรับเด็กและวัยรุ่น ด้วยวัยเพียง 15 ปี จำหน่ายคู่ละ $25  และสร้างรายได้ให้ Madison มากกว่า $1 Million นั้นทำให้ Madison มีเงินเพียงพอเพื่อการศึกษาของตัวเองนอกจากนี้ Madison ยังบริจาครองเท้าแตะจำนวน 20,000 คู่ เพื่อการกุศลอีกด้วย

 

ภาพจาก bit.ly/392RYiA

เด็กสาววัย 16 ปี เจ้าของเว็บไซต์ missoandfriends.com สำหรับสาววัยรุ่น ที่จะเข้ามาพูดคุยหรือแชร์เรื่องราวต่างๆ ทั้งเรื่องในชีวิตประจำวันและเรื่องในโรงเรียน เป็นเว็บไซต์ที่นิยมมากๆ มีคนเข้าชมต่อเดือนกว่า 10 ล้าน คนและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้สร้างรายได้มากกว่า $15 million โดยจะมีคาเร็กเตอร์เป็นตัวการ์ตูนชื่อ “Miss O & Friends” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดตัวการ์ตูนของ Juliath ในวัย 10 ปี

 

ภาพจาก bit.ly/2s9ogIh

 

เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าวัยเพียง 12 ปี เริ่มจากการสนใจและหลงใหลในแฟชั่นหูกระต่ายตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และได้ยึดถือมาเป็นแบบการแต่งตัวมาโดยตลอด จากนั้น Moziah เริ่มสะสม และคิดอยากลองทำเองจึงไปปรึกษากับคนในครอบครัวจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจเล็กๆ เริ่มเปิดแบรนด์ของตัวเองที่ชื่อว่า “Mo’s Bows” ในปี 2011 วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าและเว็บไซต์ มียอดขายของเขาถล่มทลาย ทำกำไรได้กว่า $150,000 (ราว 4.5 ล้านบาท)

 

ตัวอย่างและความสำเร็จเหล่านี้บ่งบอกให้รู้ว่าเมื่อใดที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าที่จะก้าวออกมาจากจุดที่เคยอยู่ เพื่อไปสู่โลกกว้างที่เราไม่เคยเห็นแม้การเริ่มต้นธุรกิจจะไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ได้การันตีว่าทุกคนที่ทำแล้วจะสำเร็จ แต่อย่างน้อยการที่ได้คิด ได้ทำ ก็เป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ เรียนรู้ข้อผิดพลาดเอาไปแก้ไขให้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่ทำ ได้แต่คิด คิดแค่อยากมีเงินแต่ไม่ลงมือ มันก็จะเป็นแค่จินตนาการที่ไร้ค่า และไม่มีวันที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)