MINISO แบรนด์ร้านค้าปลีกสัญชาติจีน รูปแบบร้านแทบจะถอดแบบร้านค้าปลีก MUJI โดยขายสินค้าในร้านราคาที่จับต้องได้ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ในร้านราคาขายจะอยู่ที่ 10 หยวน ส่วนในประเทศไทยตั้งราคาสินค้าเริ่มต้นไว้ 69 บาท ได้ทำการเปิดสาขาแห่งใหม่ที่ Estancia Mall ประเทศฟิลิปปินส์ ถือเป็นสาขาที่ 100 ของ MINISO ในประเทศฟิลิปปินส์ 

ภาพจาก bit.ly/2FU2tY0

 

สำหรับสินค้าในร้าน MINISO ฟิลิปปินส์ ราคาขายเหมือนกับในหลายๆ ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าคุณภาพ แต่ราคาถูก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า, สุขภาพและความงาม, เครื่องประดับแฟชั่น, ผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล, อาหารและเครื่องดื่ม โดยร้าน MINISO แห่งที่ 100 ของฟิลิปปินส์ ได้จัดโปรโมชั่นมอบของขวัญในช่วงเทศกาลวันหยุดให้ลูกค้าด้วย เช่น แก้ว กระเป๋าสีพาสเทล เป็นต้น

ภาพจาก bit.ly/2NpBWWO

 

ปัจจุบัน MINISO มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เปิดให้บริการสาขากว่า 4,000 แห่งในกว่า 90 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา แคนาดา รัสเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกาหลี มาเลเซีย ฮ่องกง เวียดนาม มาเก๊า รวมถึงไทยด้วย

ภาพจาก bit.ly/35Sq5ab

 

ทั้งนี้ MINISO บริษัทที่มีต้นกำเนิดจากกวางเจา ประเทศจีน ได้รับเงินสนับสนุนจากภายนอก นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2013 เหตุผลสำคัญก็มาจากกลยุทธ์ที่รุกสู่ตลาดต่างประเทศในปี 2015 ด้วยแนวคิด  “คุณภาพสูง ราคาถูก” ซึ่งการก้าวออกนอกกำแพงเมืองจีน นั่นทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใน Supply Chain ครั้งสำคัญ เพราะ Miniso กลายเป็นร้านรีเทลที่มี 3,000 สาขาทั่วโลกทันที โดยแบ่งเป็น 2,000 สาขาในประเทศจีน และอีก 1,000 สาขาในต่างประเทศ 

 

ร้านค้าแบรนด์ดังกล่าว มีลูกค้าถึง 1 พันล้านคน! และมีสินค้าที่ถูกจำหน่ายไปแล้ว 300 ล้านรายการ ท่ามกลางการแข่งขันและการปิดตัวของห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ในยุค Digital Disruptive แต่ MINISO กลับขยายสาขารัวๆ

ภาพจาก bit.ly/2NmfEW3

 

สำหรับร้านค้าปลีกแบรนด์นี้เป็นของ 2 ผู้ก่อตั้ง Miyake Junya ดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่น และ Ye Guofu อดีตดีไซน์เนอร์จีนที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจ ทำให้เป็นร้านค้าที่ใส่ใจกับเรื่องดีไซน์เป็นอย่างมาก

 

โดยแนวคิดของทั้งสองตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า “เคารพต่อลูกค้า” สินค้าของเขามีความคิดสร้างสรรค์ มีคุณภาพ บนภาพลักษณ์โมเดิร์น ในราคาที่จับต้องได้ สินค้าในร้านราคาจะอยู่ที่ 1-30 ดอลลาร์สหรัฐ 

ภาพจาก bit.ly/35SqNEn

 

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเปลี่ยนของบนเชลฟ์ทุกอาทิตย์ เพื่อให้ลูกค้ากลับมาเข้าร้านใหม่เรื่อยๆ ความคาดหวังของแบรนด์ คือ อยากให้ลูกค้าเข้าร้าน 7 วันต่อสัปดาห์ รวมทั้งมีสินค้าเบ็ดเตล็ด หลากหลาย ตั้งแต่ขนมขบเคี้ยว เครื่องสำอาง ของแต่งบ้าน เสื้อผ้า ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก

 

สำหรับในประเทศไทยนั้น ก้าวแรกการทำธุรกิจของ MNISO ได้เริ่มต้นเมื่อปี 2016 ภายใต้การดำเนินงานของ ‘บริษัท มินิโซ (ไทยแลนด์) จำกัด’ โดยปัจจุบันมีสาขามากกว่า 74 แห่งทั่วประเทศ  

 

ภาพจาก bit.ly/35X7ium

 

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)