อินเดียเป็นหนึ่งใน 69 ประเทศในโลกที่เป็นผู้ผลิตชา ลำพังการบริโภคชาในอินเดียก็มหาศาลเพราะวัฒนธรรมการดื่มชา หรือที่เรียกในภาษาฮินดีว่า จัย (Chai) ก็ฝังรากลึก แทบจะเรียกว่าอยู่ใน DNA ของคนอินเดียกว่า 1,300 ล้านคน โดยเมนูชายอดนิยมคือ “Masala Chai” ที่ใช้ใบชาดำจากรัฐอัสสัมเป็นหลัก และผสมเข้ากับส่วนประกอบเครื่องเทศแบบอินเดียมากมาย อาทิ กระวาน, โป๊ยกั๊ก, เมล็ดผักชีล้อม, จันทน์เทศ อบเชย ขิง พริกไทยดำ และกานพลู

Masala Chai
ภาพจาก bit.ly/388RKFm

 

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าประเทศอินเดียมีศักยภาพที่น่าลงทุนมาก ด้วยจำนวนประชากรที่มากเป็นอันดับ 2 ของโลกและคาดการณ์ว่าอาจจะมากเป็นอันดับหนึ่งของโลกภายในปี 2022 รวมถึงการเติบทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าซึ่งหากเข้าใจถึงวิถีชีวิตของคนอินเดียได้ดีโอกาสสร้างธุรกิจในอินเดียก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ภาพจาก bit.ly/2Nvdqng

 

ยกตัวอย่างของเครื่องดื่ม “ชา” ที่กำลังเติบโตอย่างสดใส เนื่องด้วยเป็นวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับคนอินเดียที่ผูกพันกับการดื่มชามานานกว่า 150 ปี ตัวเลขยังระบุว่าคนอินเดียดื่มน้ำชาคนละ 176 ถ้วยต่อปี เทียบกับกาแฟที่อัตราการดื่มต่อหัวตกราวๆ 15 ถ้วยต่อปี

 

จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นบรรดาผู้ประกอบการธุรกิจชาจำนวนมากในอินเดีย แม้ปัจจุบันจะมีบรรดาร้านกาแฟเข้ามาแข่งขันมากขึ้นแต่ส่วนใหญ่คนอินเดียก็ยังนิยมดื่มชามากกว่า ซึ่งมีหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ “Chai Kings” ธุรกิจเครื่องดื่มชาจากเมือง Chennai ที่ตั้งเป้าจะขยายสาขาให้ถึง 100 แห่งภายใน 5 ปี

ภาพจาก bit.ly/2Nww0eE

 

ซึ่งปัจจุบัน Chai Kings มีสาขารวม 40 แห่ง และในตอนนี้ Chai Kings ก็วางแผนเติบโตเพื่อไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ซึ่งก็ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากกลุ่มนักลงทุน angel ที่ระดมทุนให้กับ Chai Kings เพราะมองว่านี่คือธุรกิจเครื่องดื่มชาที่พร้อมจะเติบโตและมีกำไรมากขึ้นในอนาคต

 

หนึ่งในเหตุผลที่กลุ่มนักลงทุนระดมทุนให้กับ Chai Kings เพราะนี่คือธุรกิจที่อยู่ในเมือง Chennai ซึ่งเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในอินเดีย และผลการสำรวจของสถาบัน Mercer พบว่า Chennai เป็นเมืองที่น่าอยู่เป็นอันดับสองรองจากกรุงนิวเดลี แต่ในด้านความปลอดภัย เจนไนมีอัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยที่สุดในอินเดีย สิ่งนี้เป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนให้มีการลงทุนจากต่างชาติในเกณฑ์ที่สูง 

Balaji Sadagopan (ซ้าย) และ Jahabar Sadique (ขวา)

ภาพจาก bit.ly/36Y7dbl

 

พูดถึง Chai Kings นี่คือธุรกิจที่ก่อตั้งโดย Jahabar Sadique และ Balaji Sadagopan ในปี 2016  ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง Jahabar Sadique และ Balaji Sadagopan ไม่ได้คลุกคลีธุรกิจนี้ แต่ทั้งคู่ทำงานในอุตสาหกรรมสายไอที แต่เมื่อได้ลองวิเคราะห์ความน่าสนใจและความเป็นไปได้ทั้งคู่มองว่า “ธุรกิจชา” จะเติบโตได้อีกมาก จึงตัดสินใจลงทุนร่วมกันก่อตั้ง

แบรนด์ Chai Kings

ภาพจาก bit.ly/2NwGLxF

โดยเริ่มจากร้านน้ำชาขนาดเล็กในเมือง Kilpauk บนพื้นที่ 350 ตารางฟุตพร้อมการลงทุนประมาณ 25 ล้านรูปีแต่ด้วยการพัฒนาสินค้าที่ดีและเป็นที่ต้องการของลูกค้า จนในเวลา 2 ปี ธุรกิจสามารถขยายสาขาเป็น 17 แห่ง และกลายเป็น 40 แห่งในปัจจุบัน

ภาพจาก facebook.com/ChaifullyYours

พร้อมกันนี้ Chai Kings ยังได้ตั้งเป้าจะขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น และพื้นที่ของร้านก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 400 ตารางฟุต นำไปสู่การเขียนแผนการตลาดเพื่อนำเสนอสู่นักลงทุนเป็นที่มาของการระดมทุนเพื่อสร้างรากฐานของธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น

ภาพจาก facebook.com/ChaifullyYours

อย่างไรก็ดีแม้จะได้ชื่อว่าเป็นธุรกิจร้านชา แต่ Chai Kings ก็ไม่ได้มีเมนูแค่เครื่องดื่มชาเท่านั้น ที่ร้านแห่งนี้เสิร์ฟตั้งแต่บะหมี่จนถึงคุ้กกี้ และขนมหวาน รวมถึงยังมีนมปั่น และ Chai Kings ยังเพิ่มบริการในการจองออนไลน์และบริการเดลิเวอรี่จัดส่งสินค้าให้ถึงบ้าน นอกจากนี้ Chai Kings ยังมีบรรจุภัณฑ์เป็นขวดกระดาษแบบพิเศษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถบรรจุเครื่องดื่มร้อนได้อีกด้วย

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)