หลังจาก สตาร์บัคส์ เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ทำการเปิดร้านค้าในประเทศจีนอีกครั้ง โดยอ้างว่าสัญญาณการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19” ลดน้อยลง โดยร้านสตาร์บัคส์กว่า 85% ของร้านค้าทั้งหมดในประเทศจีน ได้เปิดให้บริการลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากปิดกิจการร้านชั่วคราวเนื่องจากความกังวลของ “โควิด-19”

 

โดยในช่วงการแพร่ระบาดไวรัส “โควิด-19” อย่างหนักในประเทศจีน ได้ทำให้ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ได้ปิดสาขาไปหลายพันแห่งเป็นการชั่วคราว ทำให้ปัจจุบันมีร้านกาแฟสตาร์บัคส์เปิดให้บริการแล้ว 85% ทั่วประเทศจีน จากจำนวนสาขาร้านกาแฟสตาร์บัคส์ในจีนทั้งหมดมากกว่า 4,200 แห่ง ถือเป็นสัญญาณการเริ่มฟื้นตัวของธุรกิจต่างๆ ในประเทศจีน  

ภาพจาก bit.ly/2PWZCmT
 

แม้ว่าร้านสตาร์บัคส์ในจีนจะเริ่มเปิดให้บริการ แต่มีการคาดการณ์ว่า ยอดขายจะลดลงครึ่งหนึ่งในไตรมาสที่ 1 เนื่องจากวิกฤติ “โควิด-19” คาดว่ายอดขายสตาร์บัคส์ในประเทศจีนทั้งหมดจะลดลงถึง 78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

 

โดยก่อนที่จะเกิดการระบาดไวรัส “โควิด-19” สตาร์บัคส์มีเป้าหมายในการสร้างยอดขาย 3% ในประเทศจีนในช่วงการเปิดร้านอย่างน้อย 13 เดือน แต่ปัจจุบันบริษัทคาดการณ์ยอดขายจดลดลง 50% ในไตรมาสแรก และชะลอการเปิดสาขาในจีนออกไป

ภาพจาก bit.ly/2VSVs37

 

ทั้งนี้ ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ในประเทศจีนส่วนใหญ่ ได้ทำการปิดร้านค้าชั่วคราวเมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อปกป้องพนักงานและลูกค้าจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19” อย่างไรก็ตามหลังการแพร่ระบาดของโรคลดลง สตาร์บัคส์เตรียมที่จะเปิดร้านค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องให้ถึง 95% ของสาขาทั้งหมดในจีนภายในไตรมาสที่สอง 

ภาพจาก bit.ly/2v6snpZ

 

นอกจากสตาร์บัคส์ที่เริ่มทยอยเปิดร้านค้าในจีนแล้ว ร้านค้าปลีกอย่าง Ikea China กำลังเปิดสาขาเพิ่มอีก 9 แห่ง หลังจากกลับมาค้าขายอีกครั้ง 5 สาขาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” เริ่มลดน้อยลง 

 

อ้างอิงข้อมูล

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)