บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
3.2K
4 นาที
30 เมษายน 2563
5 เทคนิคการใช้ “TikTok” ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ


แพลตฟอร์มออนไลน์ในช่วงนี้ดูเหมือนว่า “TikTok” จะมาแรงอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่คนต้องอยู่บ้าน ต้องกักตัว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID 19 ในความเป็นจริง TikTok เองก็ไม่ใช่แค่ Social Media ที่เปิดตัวมาเพื่อให้ทุกคนได้เล่นสนุกสนานกันเท่านั้น ที่จริงแล้ว TikTok ยังมีประโยชน์สำหรับในการใช้โปรโมทธุรกิจต่างๆ ได้ดีอีกด้วย

ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com ได้เรียบเรียงเอาแง่มุมน่าสนใจของ TikTok มาฝากสำหรับคนทำธุรกิจที่อยากหาช่องทางออนไลน์ช่วยโปรโมทธุรกิจให้มียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงนี้
 
TikTok แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เปิดตัวเมื่อปี 2559


ภาพจาก bit.ly/35i17lP
 
TikTok หรือ “Douyin” ในประเทศจีน เป็นแพลตฟอร์ม Social Media ในสังกัดของ ByteDance ที่เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2559 โดยมีจุดเด่นคือ การสร้างและแชร์วิดีโอสั้นๆ กับเพื่อนบนโลกออนไลน์ โดยในตัวแอปจะมีเอฟเฟคต่างๆ ทั้งภาพและเสียง ให้ผู้ใช้ได้สนุกไปกับการแต่งวิดีโอของตัวเองตามที่ต้องการ ดังนั้นผู้ใช้ TikTok ส่วนมากจึงเน้นเข้ามาเพื่อรับชมความบันเทิงมากกว่าสาระ
 
ปัจจุบัน TikTok มีผู้ใช้รายวันทั่วโลกประมาณ 500 ล้าน และจากสถิติยังพบว่าแอพพลิเคชั่น TikTok ได้รับการยอมรับอย่างมากในประเทศแถบเอเชีย เช่น กัมพูชา, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย, และเวียดนาม ซึ่งหากนำมาเทียบกับแพลตฟอร์มรอย่าง Instagram ที่ใช้เวลา 6 ปีในการสร้างฐาน ผู้ใช้งานให้ได้ 500 ล้านคน TikTok ถือว่าได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วกว่ามากเพราะใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 3-4 ปีเท่านั้น
 
ในส่วนของยอดการดาวน์โหลด TikTok ก็นับเป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในปีที่ผ่านมา โดยมียอดดาวน์โหลดถึง 1,500 ล้านครั้ง (จากทั้งฝั่ง App Store และ PlayStore) ซึ่ง TikTok สามารถขึ้นเป็นแอพพลิเคชั่นอันดับหนึ่งของฝั่ง App Store ในขณะที่การดาวน์โหลดบน Play Store อยู่ในอันดับที่ 3 เป็นรองเพียงแอพรุ่นพี่อย่าง Whatsapp และ Facebook Messenger เท่านั้น
 
สถิติการใช้ TikTok ของคนทั่วโลก


ภาพจาก bit.ly/2yfisQe
 
จากการสำรวจพบว่าผู้ใช้ให้เวลากับ TikTok เฉลี่ย 52 นาที / วัน  โดย 90% ของผู้ใช้มักจะเข้า TikTok มากกว่า 1 ครั้ง / วัน และในแต่ละวัน มีวิดีโอถูกเปิดดูบน TikTok กว่า 1,000 ล้านครั้ง นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ในเวลาไม่ถึง 18 เดือน ฐานผู้ใช้ TikTok ที่เป็นผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา มีเพิ่มขึ้นถึง 5.5 เท่า จากสถิติจะเห็นได้ว่า TikTok สามารถทำให้ผู้ใช้เข้าถึงคอนเทนต์ได้ค่อนข้างมากในหนึ่งวัน หากนำเวลาเฉลี่ยต่อวันที่ใช้บน TikTok (52 นาที / วัน) มาเทียบกับแพลตฟอร์มอย่าง Facebook (58.5 นาที / วัน) และ Instagram (53 นาที / วัน) จะพบว่าเวลาที่ใช้มีความใกล้เคียงกันมาก
 
ในขณะที่คอนเทนต์บน TikTok ส่วนมากสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายกว่า ด้วยความเป็นคอนเทนต์บันเทิงที่ใช้เวลาสั้นมากๆ ในการรับชม ทำให้ข้อความที่แบรนด์สินค้าต้องการสื่อสามารถเข้าหากลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่โดนกดข้าม (เพราะจบเร็ว) และสามารถเข้าใจได้ง่าย เพราะต้องทำทุกอย่างให้กระชับที่สุด
 
นอกจากนี้สถิติยังระบุว่าแพลตฟอร์มยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มผู้ใหญ่อีกด้วย จากการที่ผู้ใช้ในช่วงวัยที่สูงกว่า Gen Z มีการเติบโตขึ้นถึง 5.5 เท่า ในระยะเวลาต่ำกว่า 18 เดือน เท่านั้น
 
เรียนรู้ระบบการทำงานของ TIKTOK ก่อนใช้ทำการตลาด


ภาพจาก bit.ly/2KLJDox
 
ปัจจุบันพื้นที่โฆษณาของ TikTok มีอยู่ 5 ส่วนด้วยกัน แบ่งเป็นโฆษณาแบบมาตรฐาน 3 ส่วน Brand Takeover ที่เมื่อผู้ใช้เปิดเข้ามาจะเห็นทันที TopView คือวิดีโอแรกที่เล่นซึ่งจะมีความยาวขึ้นสูงสุด 60 วินาที ต่อจากนั้นก็คือ In-Feed Ads ที่จะแทรกเข้าไปอยู่ระหว่างการใช้งาน อีก 2 ส่วนคือการสร้างโฆษณา หรือแคมเปญการตลาดสำหรับแต่ละแบรนด์ คือการสร้าง Hashtag Challenge เพื่อทำให้ผู้ใช้เกิดการตอบรับและทำตามชาเลนจ์ สุดท้ายคือการทำ Branded Effect ที่นำ AI มาช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้เพื่อให้เกิดเอฟเฟกต์
 
เมื่อมีการอัปโหลดวิดีโอใหม่ใน TIKTOK ระบบจะทำการแสดงวิดีโอนี้ให้กับผู้ใช้งานบางคน แบบที่แทรกไประหว่างวิดีโอยอดนิยมต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับชมหลากหลาย ไม่เบื่อ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงคน ให้กับผู้สร้างสรรค์วิดีโอใหม่ๆด้วย  หลังจากนั้นระบบจะทำการวัด ว่าวิดีโอที่ลงไปนั้น มีผู้ชมมากน้อยแค่ไหน มีการดาวน์โหลด แชร์ แสดงความคิดเห็น หรือกดไลก์หรือไม่
 
อัตราส่วนเหล่านี้ ระบบ TIKTOK จะนำไปพิจารณาว่าควรจะแสดงวิดีโอนี้ให้คนเห็นมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งโดยปกติจะปรับให้วิดีโอเข้าถึงคนมากขึ้น เมื่อวิดีโอมียอด 1 ไลค์ต่อทุกๆ การรับชม 10 ครั้ง  นอกจากนี้ ถ้าวิดีโอที่ปล่อยออกไป ได้รับการกดไลค์มากกว่า 40% ของยอดวิวภายในหนึ่งวัน วิดีโอนี้ก็จะถูกกระจายออกไปให้คนเห็นมากขึ้น 
 
5 เทคนิคการใช้ TIKTOK เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ


ภาพจาก bit.ly/3aVHstq
 
1. สร้างสรรค์วิดีโอที่คนทั่วไปมีความรู้สึกร่วม
 
ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้วิดีโอของธุรกิจเป็นที่นิยม คือการออกแบบคอนเทนต์ ซึ่งคอนเทนต์ที่จะทำให้เป็นที่นิยมใน TIKTOK จะต้องมีความตลก สนุก ไม่เหมือนใคร ถ้าเราสามารถทำให้ผู้ชมวิดี รู้สึกมีความสุขหลังดูจบ อยากจะกดไลก์ หรือคอมเมนต์อะไรบางอย่าง อยากจะนำไปทำตาม เต้นตาม ร้องตาม หรืออัดคลิปตามได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ 
 
ตัวอย่างนี้เป็นวิดีโอจาก Challenge หนึ่งที่โด่งดังใน TIKTOK นั่นก็คือ Challenge #fliptheswitch ที่ให้คนสองคนสลับเสื้อผ้าและบุคลิกกัน สิ่งที่ทำให้วิดีโอ Challenge นี้โด่งดังนั่นเพราะทำให้คนดูรู้สึกอยากจะทำตามได้ คลิปมีความสนุกสนาน รับชมแล้วอยากจะชวนเพื่อน ชวนแฟน มาสลับบุคลิกกันบ้าง
 
2. เลือกใช้เพลงที่กำลังเป็นที่นิยม
 
เพื่อเพิ่มโอกาสให้คลิปวิดีโอของเราถูกแนะนำไปยังผู้ใช้คนอื่นๆในหน้า “For You” เราจะต้องเลือกใช้เพลงที่ ณ เวลานั้นกำลังนิยม โดยปกติ ผู้คนมักจะชอบฟังเพลงที่กำลังนิยม หรือเลือกดูวิดีโอที่ใช้เพลงดังเหล่านั้น ซึ่งถ้าเราเลือกใช้เพลงดังด้วย ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนเห็นวิดีโอของเรามากขึ้นด้วยนั่นเอง
 
ดังนั้นเมื่อเราทำการปรับแต่งวิดีโอใส่เสียง ใสเอฟเฟกต์ต่างๆ ก็อย่าลืมคำนึงถึงความสำคัญขององค์ประกอบเหล่านี้ด้วย เพราะนอกจากจะช่วยทำให้วิดีโอเราน่าสนใจแล้ว ถ้าเลือกเพลงหรือเอฟเฟกต์ที่กำลังนิยมอยู่ ก็ช่วยให้คนพบเห็นมากขึ้นด้วย 
 
3. ทำเป็นคลิปโต้ตอบกับ Influencer คนอื่นๆ


ภาพจาก bit.ly/3cVvT6A
 
การโต้ตอบกับ Influencer หรือผู้ที่โด่งดังบน TIKTOK คนอื่นๆ เป็นอีกวิธีที่ยอดเยี่ยมในการได้รับจำนวนการรับชมที่มากขึ้น และช่วยให้ธุรกิจเรรกลายเป็นที่รู้จักใน TIKTOK ได้ หลายครั้งๆจะเห็นว่า วิดีโอที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยนำวิดีโอต้นแบบจาก Influencer มาอัดคลิปโต้ตอบ มักจะได้รับความนิยม เพราะเรามักจะได้ฐานการรับชมจาก Influencer ต้นแบบที่มีอยู่แล้ว ทำให้พวกเขารู้จักเรามากขึ้น หรือเราอาจจะร่วมมือกันโดยตรง สร้างสรรค์คลิปร่วมกันสักชิ้น ก็ช่วยเพิ่มอันดับความนิยมได้ดีมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
 
4. คลิปวีดีโอแสดงความสามารถที่ไม่ซ้ำแบบใคร
 
ถ้าต้องการใช้คลิปวีดีโอโปรโมทธุรกิจ อีกเทคนิคน่าสนใจคือการทำคลิปที่แสดงความสามารถที่เรามีเช่น เต้น ร้องเพลง เล่นมายากล เล่นตลก หรืออะไรก็ตามที่คิดว่า สิ่งนั้นเป็นทักษะที่น่าสนใจ เพราะผู้คนชื่นชอบที่จะรับชมอะไรก็ตามที่มองว่า “เจ๋ง เก่ง แปลก น่าตื่นเต้น”  ซึ่งเราจะต้องแสดงออกมาให้เป็นตัวของเราเองมากที่ที่สุด ไม่ซ้ำใคร และห้ามไปลอกเลียนแบบคนอื่นมาเด็ดขาดเราต้องคิดเอง และทำเองใหม่หมดทุกอย่าง
 
5. ใช้ #แฮชแท็ก ที่กำลังเป็นที่นิยม 


ภาพจาก bit.ly/2yYuePi
 
เมื่อเราจะเขียนคำบรรยายวิดีโอ หรือหัวข้อวิดีโอ อย่าลืมที่จะใส่ แฮชแท็ก ที่กำลังเป็นที่นิยมลงไปด้วย เพราะแฮชแท็ก จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนพบเห็น และยังช่วยเพิ่มโอกาสให้วิดีโอเป็นที่รู้จักมากขึ้นได้ หลายครั้ง แฮชแท็กก็เป็นแหล่งของไอเดียดีๆ เราสามารถเลือกดู แฮชแท็ก ที่ขณะนั้นกำลังเป็นที่นิยม นำมาใช้เป็นโจทย์ตั้งต้น เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องได้ แต่ทำให้ต่างออกไปในแบบตัวเอง วิธีนี้จะช่วยให้คอนเทนต์เรามีความเกี่ยวข้องกับแฮชแท็ก ซึ่งถ้าแฮชแท็กนั้นกำลังเป็นที่นิยมอยู่ด้วย ก็จะทำให้คลิปวิดีโอของเรานั้นเข้าถึงคนได้เยอะขึ้น และเพิ่มโอกาสที่คลิปจะเป็นที่นิยมตามกระแสของแฮชแท็กนั้นตามไปด้วยเช่นกัน
 
ตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้ TIKTOK ช่วยโปรโมทธุรกิจอย่างได้ผล


ภาพจาก bit.ly/2SiH2qi
 
เริ่มจากยูนิโคล่ (Uniqlo) คือ อีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นจากญี่ปุ่นที่มองเห็นประโยชน์จาก TikTok ในการสร้างชุมชนชาว ยูนิโคล่ในระดับโลกด้วยการเปิดตัว แคมเปญ #UTPlayYourWorld ท้าทายกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ให้ร่วมสร้างสรรค์วิดีโอ ที่แสดงออกถึงความเป็นตัวตน บ่งบอกถึงช่วงเวลาดีๆ ของทุกคนกับเสื้อยืด ลายกราฟฟิกจาก ยูนิโคล่ (UT Moment) จนโด่งดังมียอดวิวรวมสูงกว่า 684 ล้านวิว!
 
หรือจะเป็นซัมซุง (Samsung) ที่คว้าเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง BLACKPINK มาร่วมโปรโมทโทรศัพท์ มือถือ Galaxy A ภายใต้ แคมเปญ #danceAwesome ท้าทายเหล่าครีเอเตอร์ ให้มาโชว์ลีลาการแดนซ์กระจายด้วยความแรงของ Influencer ระดับโลก อย่าง BLACKPINK ผนวกกับความสนุกของแคมเปญจึงส่งผลให้ มียอดวิวรวมกว่า 11.9 พันล้านวิว!


ภาพจาก bit.ly/2WaJPmv
 
ในประเทศไทย มีแคมเปญที่แบรนด์ต่าง ๆ ได้เข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์ และเกิดเป็นกระแสในโลกโซเชียล ยกตัวอย่างเช่น #จิ้มเคี้ยวดูด ของแฟนต้า ซึ่งได้ดึง Influencer มาท้าทายเหล่าครีเอเตอร์คนไทยให้เข้าร่วมเล่นสนุกกับเพลง แฟนต้าและสติกเกอร์สุดคูลกับท่าเต้นชิคๆ ซึ่งสร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลินให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างมาก โดยแคมเปญนี้ประสบ ความสำเร็จด้วยยอดวิวรวมกว่า 30 ล้านวิว และยอดไลค์กว่า 1.5 ล้าน


ภาพจาก bit.ly/3cUgSlA
 
อย่างไรก็ดีธุรกิจเองก็ต้องศึกษาวิธีการและเทคนิคการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ให้เข้าใจถึงหลักการทำงานและระบบการทำงาน เพื่อจะได้คิดคอนเทนต์ที่สอดคล้อง และคาดว่าหลังสถานการณ์ COVID 19 คลี่คลายพฤติกรรมผู้บริโภคก็อาจจะเปลี่ยนไปและช่องทางออนไลน์จะกลายมาเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญมาก
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
ขอบคุณข้อมูล
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
799
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
715
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
642
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
532
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
447
เจ้าของธุรกิจกุมขมับ! วิกฤตเด็กไทยเกิดน้อยกระทบธ..
433
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด