บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.6K
3 นาที
28 สิงหาคม 2563
10 เรื่องจริง สุดปัง! ที่คนจำไม่ลืม


 
“บางสิ่งที่อยากจำเรากลับลืม บางสิ่งที่อยากลืมกลับจำ” เป็นท่อนหนึ่งของเพลง “อยากลืมกลับจำ” ของเดอะฮอทเปปเปอร์ ที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้าง ซึ่งในปี 2563 ตั้งแต่ต้นปีมาถึงตอนนี้ มีเหตุการณ์น่าสนใจเกิดขึ้นมากมายแต่ละเหตุการณ์เรียกได้ว่าเป็นเรื่อง “สุดปัง” ที่มีผลกระทบกับชีวิตและความเป็นอยู่ของคนทั้งประเทศ คำว่าเรื่องสุดปังจึงหมายถึงเรื่องดังที่ต่อให้เราไม่อยากรับรู้แต่เราก็ต้องรู้และเอาตัวรอดให้ได้ มูลเหตุตั้งต้นที่ทำให้ปีนี้มีเรื่องสุดปังมากมายแน่นอนว่าเริ่มต้นจาก “การแพร่ระบาดของ COVID 19” แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับ COVID 19 แต่ก็กลายเป็นเรื่องสุดปังได้เช่นกัน
 
www.ThaiFranchiseCenter.com ได้รวบรวม 10 เรื่องจริงสุดปัง ที่เชื่อว่าคนไทยจะจำไม่มีวันลืมมาฝาก
 
1. นโยบาย “งดใช้ถุงพลาสติก”


ภาพจาก bit.ly/2YCjCiX
 
เรื่องสุดปังรับต้นปี 2563 เมื่อภาครัฐมีนโยบายต้องการเลิกใช้ถุงพลาสติกให้ได้ภายในปี 2564 ทำให้เริ่มต้นจริงจังกันตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ในช่วงเวลาดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสในโซเชี่ยลร้อนแรงอย่างมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะเห็นด้วย ก่อให้เกิดมุขตลกล้อเลียนวิถีชีวิตการเข้าไปซื้อของในห้างค้าปลีกที่จะเปลี่ยนไป เช่นบางคนโชว์ภาพเอาเสื้อห่อของกลับบ้าน บางคนโชว์ภาพเอาตะกร้าใส่ผ้ามาใส่ของกลับบ้าน เป็นต้น และถึงตอนนี้ห้างค้าปลีกบางแห่งก็ยังคงเข้มงวดกับนโยบายงดใช้ถุงพลาสติกดังกล่าว
 
2. ทั่วโลกได้รู้จักกับ “COVID 19”


ภาพจาก bit.ly/2EMvXK4

น่าจะเป็นเรื่องสุดปังที่ร้อนแรงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โลกได้รู้จักไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 นับตั้งแต่จีนประกาศว่าพบผู้ติดเชื้อที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เมื่อเดือน ธ.ค. 2562 ที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ โดยที่เชื้อไวรัสตัวนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านการ ไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ในประเทศไทยเริ่มพบผู้ป่วยครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 เป็นหญิงจากเมืองอู่ฮั่น ส่วนคนไทยที่ป่วยพบครั้งแรกเมื่อ 31 มกราคม 2563 เป็นชายไทยวัย 50 ปีอาชีพขับแท็กซี่ ซึ่งช่วงแรกคนไทยและคนส่วนใหญ่ทั่วโลกก็ไม่คาดคิดว่า 
COVID 19 จะระบาดรุนแรงได้มากขนาดนี้
 
3. เศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลก


ภาพจาก bit.ly/31yZaRO

จากการแพร่ระบาดของ COVID 19 ก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างนักเศรษฐศาสตร์จากหลายสถาบันออกมาชี้ชัดว่าหายนะจากการแพร่ระบาดนี้หนักกว่าการแพร่ระบาดของซาร์สเมื่อปี 2546 โดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ(IATA) ประเมินว่ารายรับการท่องเที่ยวโลกจะลดลง 63,000 ล้านดอลลาร์โดยเอเชียจะได้รับผลกระทบสูงสุด รองลงมาคือ ยุโรป ซึ่งภาพรวมถึง ณ ตอนนี้ก็ชัดเจนว่าเศรษฐกิจทั่วโลกเสียหายอย่างหนัก และยังไม่มีท่าที่ว่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงเวลาอันสั้นด้วย
 
4. ปัญหาคนตกงานหนักสุดในรอบหลาย 10 ปี


ภาพจาก bit.ly/2QzHAHb

น่าจะเป็นเรื่องที่คนไทยได้รับผลกระทบชัดเจนและไม่มีใครอยากจำเรื่องนี้ กับปัญหาการตกงานที่หนักสุดในรอบหลาย 10 ปี โดย ทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ปัญหาการว่างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจการทำงานขอประชากร เดือนมีนาคม 2563 มีผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน 38.21 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 37.33 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.92 แสนคน และหากธุรกิจต้องปิดกิจการเพิ่ม โดยเฉพาะภาคบริการ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยประเมินว่าจำนวนแรงงานที่ตกงานปีนี้อาจพุ่งถึง 3-4 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10
 
5.ปัญหา PM2.5


ภาพจาก bit.ly/31CyTCd

นอกจากเรื่อง COVID 19 ในปีนี้เรื่องสุดปังที่ไม่อยากจำคือสถานการณ์ PM2.5 หรือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนที่วิกฤติอย่างหนัก โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคม2563 กรมควบคุมมลพิษตรวจวัดค่าปริมาณฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน (ไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ถึง 38 พื้นที่ ส่งผลให้ค่าอากาศของกรุงเทพแย่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก ถึงขนาดที่ภาครัฐต้องออกมากำหนดมาตรการต่างๆ และจากปัญหานี้ยังทำให้เกิดปัญหาหน้ากาก PM2.5 ราคาพุ่งสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัวด้วย
 
6. มือปืนปล้นร้านทอง / เหตุกราดยิงที่โคราช


ภาพจาก bit.ly/3lyLGh9

ทั้ง 2 ข่าวนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทยชนิดช็อคความรู้สึกอย่างแรงเริ่มจาก วันที่ 9 มกราคม 2563 เกิดเหตุคนร้ายสวมหมวกไอ้โม่งบุกชิงทองในห้างสรรพสินค้าจังหวัดลพบุรี มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะติดตามและจับตัวคนก่อเหตุได้ และต่อจากนั้นอีกไม่นานหลังจากข่าวแรกยังไม่เงียบหายดี วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เกิดเหตุช็อคยิ่งกว่าเมื่อเกิดเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าในโคราช เป็นคดีสะเทือนขวัญที่คนทั้งประเทศตามข่าวกันแบบข้ามคืน โดยเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตถึง 30 ราย บาดเจ็บ 57 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 32 คน ก่อนที่คนร้ายจะถูกวิสามัญได้ในที่สุด
 
7. สนามมวยลุมพินี จุดเริ่มต้นซูเปอร์สเปรดเดอร์ COVID 19


ภาพจาก bit.ly/31BS0fS

นับตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2563 ที่มีประกาศจากรัฐบาลว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID 19 คนแรกในประเทศไทย แม้จะเป็นชาวต่างชาติ แต่ก็นับว่าเป็นคนแรกที่พบภายในประเทศ หลังจากนั้นเป็นต้นมามีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID 19ตั้งแต่เลขหลักเดียวไปจนถึงเลขสองหลัก กระทั่งวันที่ 13 มีนาคม 2563 ที่มีนักแสดงชื่อดังและพิธีกรสนามมวยลุมพินีประกาศว่าติดเชื้อ COVID 19 และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่มีการแพร่ระบาดของ COVID 19 พุ่งขึ้นจากสิบแตะหลักร้อย และเข้าสู่หลักพันกว่าที่ตัวเลขจะเริ่มคงที่และควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดได้ก็ใช้เวลานานหลายเดือนจนถึงทุกวันนี้ที่ COVID 19 เริ่มมีมาตรการผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ 
 
8. ราคาน้ำมันดิ่งแรง / ราคาทองคำพุ่งสูง


ภาพจาก bit.ly/31CfaCs

ช่วงการแพร่ระบาดของ COVID 19 หลายประเทศมีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลงจากหลายเหตุปัจจัย โดยในช่วงเดือนมีนาคมราคาน้ำมันในประเทศดิ่งลงอย่างแรง ราคาไปแตะอยู่ที่ประมาณ 18 บาท/ลิตร ซึ่งถือว่าต่ำมาก แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นที่คนไทยก็ไม่สามารถเดินทางไปไหนได้สะดวกจึงทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันโดยรวมในประเทศก็น้อยเช่นกัน แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องจดจำกับราคาน้ำมันที่ไม่คิดว่าจะถูกได้ขนาดนั้น สวนทางกับราคาทองคำที่เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาราคาทองคำแท่งสูงกว่า 30,200 บาท ในขณะที่ทองรูปพรรณขายออกราคาสูงถึง 29,700 บาท ทำให้มีการเทขายทองกันเป็นจำนวนมากก่อนที่ราคาจะค่อยๆ ขยับลงมาในภายหลัง
 
9. ปีที่ไร้เทศกาลสงกรานต์


ภาพจาก bit.ly/3b60leL

ประเพณีสงกรานต์ที่อยู่กับคนไทยมานานใครจะคิดว่าปีนี้เราจะไม่มีเทศกาลสงกรานต์ อันเนื่องมาจากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID 19 ที่ภาครัฐต้องการควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัดจึงได้งดการจัดกิจกรรมสงกรานต์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แถมยังให้สงกรานต์ปีนี้เป็นวันทำงานตามปกติ ซึ่งเป็นอารมณ์แปลกใหม่ที่คนไทยไม่เคยเจอ ซึ่งภายหลังภาครัฐได้ให้สัญญากับประชาชนว่าจะมีการชดเชยวันหยุดสงกรานต์ให้ในภายหลัง ถึงตอนนี้ได้หยุดชดเชยให้แล้ว 1 วันส่วนอีก 2 วันคาดว่าจะเป็นวันที่ 4 และ 7 กันยายน
 
10. หวยหยุดออกรางวัล 3 งวดติด เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์


ภาพจาก bit.ly/3jpR6J4

สลากกินแบ่งรัฐบาลคือความหวังของคนอยากรวยแต่ใครจะเชื่อว่าจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID 19 ทำให้ต้องงดการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลติดต่อกันถึง 3 งวดคือ งวด 1 เม.ย. 63 , งวด 16 เม.ษ 63 และงวด 1 พ.ค.63 โดยกลับมาออกรางวัลอีกครั้งในงวดที่เป็น 16 พ.ค. 63 และจากการเลื่อนออกรางวัลดังกล่าวคาดว่าภาครัฐสูญรายได้รวมกันถึง 5,400 ล้านบาท และคนที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลและบรรดาคอหวยต่างๆ ก็ต้องรอคอยการออกรางวัลกันอย่างยาวนานเลยทีเดียว
 
ความจริงเหตุการณ์สุดปังในปีนี้ก็ยังไม่มีเท่านี้ เพราะนี่คือปีที่คนไทยได้รู้จักกับคำว่า “New Normal” และต้องมีการปรับตัวหลายอย่าง เช่นร้านอาหารที่ต้องนั่งกินคนเดียว การมีฉากกั้นระหว่างพ่อค้ากับคนซื้อตามตลาดสด  การเว้นที่นั่งในที่สาธารณะ  การต้องสวมหน้ากากอนามัย การต้องพกเจลล้างมือติดตัว รวมถึงอีกหลายปรากฏการณ์ที่เกิดจากการล็อคดาวน์และการประกาศเคอร์ฟิวของภาครัฐ ถือเป็นปีที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายซึ่งแต่ละเรื่อง “สุดปัง” มีทั้งที่อยากจำและไม่อยากจำผสมกันไป
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
503
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
421
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด