บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    กระแสเงินสด เงินทุนหมุนเวียน
6.6K
1 นาที
15 มิถุนายน 2556
วิธีคำนวณหาอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท

สภาพคล่องทางการเงินถูกจัดเป็นตัวแปรต้นที่มีความสำคัญมากที่สุดของระบบการเงินภายในบริษัท เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดนโยบายการลงทุนภายของบริษัททั้งหมดว่าสามารถดำเนินการในเรื่องใดได้บ้าง


และจะมีวิธีบริหารอย่างไรเพื่อให้สอดรับกับสถานะทางการเงินที่บริษัทมีอยู่ ซึ่งการค้นหาสภาพคล่องทางการเงินสามารถคำนวณได้จากสูตร “การหาอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท” หรือที่เรียกกันว่า “Current Ratio” โดยวิธีการ ดังนี้
 
การคำนวณหาสภาพคล่องทางการเงินด้วยวิธีการคำนวณหาอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทนั้น ก่อนอื่นผู้ประกอบการจะต้องค้นหาข้อมูล 2 ตัวแปรนี้ก่อน นั่นคือ สินทรัพย์หมุนเวียนที่บริษัทมีอยู่ กับ หนี้สินหมุนเวียนภายในทั้งหมด ซึ่งหลังจากได้ข้อมูลทั้ง 2 ส่วนมาครบถ้วนแล้ว ก็ให้ผู้ประกอบการนำตัวเลขของสินทรัพย์หมุนเวียนเป็นตัวตั้งแล้วนำมาหารด้วยหนี้สินหมุนเวียนทั้งหมด ตามหลักสมการด้านล่างนี้
 
ซึ่งหากผลลัพธ์ที่ได้มามีค่ามากกว่า 1 ขึ้นไปนั่นแสดงว่าธุรกิจมีสภาพคล่องทางการเงินอยู่ในระดับที่ดีมาก ยิ่งหากตัวเลขผลลัพธ์มีค่าสูงมากเท่าไหร่นั่นจะยิ่งเป็นเรื่องดีเพราะสภาพคล่องทางการเงินก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ตามหลักทฤษฏีความคล่องตัวทางการเงิน
 
แต่ถ้าหากผลลัพธ์มีค่าที่ได้ต่ำกว่า 1 นั่นเป็นการบ่งบอกว่าตัวธุรกิจดังกล่าวกำลังประสบกับปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง และจะมากยิ่งขึ้นไปอีกหากตัวเลขลดระดับต่ำกว่า 1 ลงไปเรื่อยๆ ซึ่งมันจะพัฒนากลายเป็นปัญหาทางการเงินชนิดดินพอกหางหมูและจะเป็นสาเหตุการล้มละลายของบริษัทไปในที่สุด
 
ตัวอย่างที่ 1

คุณพิศมัยเปิดธุรกิจส่งออกสินค้าไปขายยังต่างประเทศ เธอต้องการทราบสภาพคล่องทางการเงินของกิจการตนเองว่ามีมากขนาดไหนเพื่อนำไปใช้วางแผนนโยบายทางการเงินให้บริษัท โดยบริษัทของคุณพิศมัยมีสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งหมดอยู่ที่ 15,000,000 บาท มีหนี้สินหมุนเวียนทั้งระบบอยู่ที่ 4,000,000 บาท สามารถคำนวณหาสภาพคล่องทางการเงินด้วยการใช้สูตรค้นหาอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทบริษัทโดยแทนที่ด้วยหลักสมการด้านล่างนี้
  
ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือ 3.75 นั่นแสดงว่าธุรกิจส่งออกของคุณพิศมัยมีสภาพคล่องทางการเงินมากพอสมควร และคุณพิศมัยเองสามารถนำเงินมาลงทุนต่อส่วนขยายให้กิจการของตนเองได้ เนื่องจากมีเงินทุนเหลือให้ใช้มากพอ และไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องทางการเงินในอนาคต
 
ตัวอย่างที่ 2

คุณวิไลทำธุรกิจค้าขายของเก่าเธอต้องการทราบสภาพคล่องทางการเงินของตนเอง เพื่อใช้วางแผนการลงทุนในอนาคต โดยเธอทรัพย์สินหมุนเวียนสุทธิอยู่ที่ 3,000,000 บาทและหนี้สินทั้งระบบอยู่ที่ 2,850,000 บาท ซึ่งแทนที่สมการเพื่อหาสภาพคล่องได้ ดังนี้ c
 
จากผลลัพธ์ที่ได้คือ 1.052 ซึ่งถึงแม้จะมีค่าเฉลี่ยที่มากกว่า 1 แต่นั่นก็เพียงแค่ 0.052 เท่านั้น และนั่นก็เป็นตัวเลขค่าเฉลี่ยที่น้อยมากทางการเงิน สภาพคล่องทางธุรกิจจึงเป็นไปในลักษณะที่มีรูปแบบประคองตัวเท่านัน และยังไม่มีความพร้อมในการลงทุนด้วยเนื่องจากธุรกิจมันไม่ได้มีผลกำไรที่มากจนสามารถนำมาลงทุนได้โดยปราศจากความเสี่ยงและการกินทุน
 
ก่อนที่ผู้ประกอบการจะลงทุนต่อยอดในสิ่งใหม่ๆให้กับธุรกิจของตนเอง คุณควรจะต้องสำรวจเงินในกระเป๋าคุณเสียก่อนว่ามันเอื้ออำนวยให้กับโครงสร้างทางธุรกิจหรือไม่ มิเช่นนั้นรับรองได้เลยว่ากระเป๋าสตางค์ของผู้ประกอบการจะต้องฉีกและแฟบตัวลงอย่างแน่นอน และนี่คือคัมภีร์ทางการเงินที่ผู้ประกอบการจะต้องนำไปใช้ชั่วชีวิต

อ้างอิงจาก INCquity
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แค่ใส่ใจ ใช้ให้เป็น Data-Driven Marketing อาวุธล..
2,362
ผู้กำกับ งานหด...สู่ครีเอเตอร์ TikTok ปั้นคอนเทน..
2,201
เศรษฐกิจไร้สัญญาณฟื้น! ทุบธุรกิจไทย เจ๊งแล้ว เจ๊..
1,288
จ่ายเท่าไหร่ ถ้านำสินค้าเข้าไปขายใน 7-Eleven
1,025
ร้านอาหารไทย หมดแรง กำลังซื้อหด ต้นทุนสูง ปิดตัว..
1,004
พลิกโฉม! 5 เทคนิค ทำธุรกิจแนวญี่ปุ่น ไม่เคยบอกใคร
927
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด