บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    รีวิวหนังสือ สปอยหนัง
1.7K
3 นาที
9 มีนาคม 2564
#รีวิวหนังสือ เราทำงานอย่าปล่อยให้งานทำเรา
 

ในโลกที่สับสนวุ่นวายคนส่วนใหญ่หลงลืมจิตวิญญาณที่แท้จริงของตัวเอง และปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามกระแสของโลกยุคใหม่ และคิดว่าสิ่งวุ่นวายที่เราทำทุกวันมันคือเรื่องปกติ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าชีวิตของเราได้ดำดิ่งไปสู่โลกของงาน เงิน และสังคม และคงจะดีกว่านี้หากเราได้หันมามองตัวเองใหม่และปรับตัวไม่ให้ไหลไปกับกระแสทุนนิยมเกินไป และจุดนั้นอาจนำเราไปสู่วิถีชีวิตแบบใหม่ เส้นทางชีวิตแบบใหม่ ที่ทำให้เรามีความสุขได้เช่นกัน

โดย : Alan Lightman แปล โตมร ศุขปรีชา
จำนวน : 120 หน้า
ราคา : 225 บาท 
 


 
รีวิวหนังสือ เราทำงานอย่าปล่อยให้งานทำเรา เนื้อความในหนังสือ "เราทำงานอย่าปล่อยให้งานทำเรา" บอกเล่าภาพของวันเวลาในอดีตเพื่อให้เราทบทวนว่า เพราะเหตุใดเราจึงยอมให้ตัวเองมีเวลาวางแบบในช่วงวัยเด็กไม่ได้ เพราะเหตุใดเราจึงช้าลงกว่าจังหวะการหมุนของโลกทุนนิยมไม่ได้ และเพราะเหตุใดเราจึงไม่ยอมที่จะไม่มีตัวตนในโลกเสมือนไม่ได้แล้วเรากลับยอมให้ตัวตนในโลกเสมือนและเงื่อนไขต่าง ๆ กลายเป็นข้อบังคับสำคัญของการใช้ชีวิตของเราไปเสียอย่างงั้น 
 
ซึ่งในท้ายที่สุดหนังสือเล่มนี้ ได้บอกกับเราว่าในท้ายที่สุดแล้วความเร็ว ความเร่งรีบ ทำให้เราหลงลืมอะไรบางอย่าง และเพราะมันทำให้เราเคยชินจนเราละเลยที่จะใช้ชีวิตในจังหวะของตัวเองจริง ๆ จนในท้ายที่สุดเราก็เลือกที่จะละเลยชีวิตขอฝตัวเอง เพียงเพราะเรายอมรับที่จะทำในแบบที่สังคมกำหนดเอาไว้ หากแต่ละเลยการกำหนดควบคุมของตัวเองอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้สะท้อนข้อคิดออกมาในชื่อของหนังสืออยู่ในทีแล้วว่า "เราทำงานอย่าปล่อยให้งานทำเรา"
 
หมู่บ้านแห่งหนึ่งในกัมพูชา


ในโลกที่พัฒนาแล้ว ได้สร้างวิถีชีวิตวุ่นวายที่กระทั่ง 1 นาทีก็ไม่อาจเสียเปล่าไปได้
 
ปัจจุบันชีวิตคนเราอัดแน่นไปด้วยตารางงาน สิ่งที่ต้องทำ และสื่อ เชื่อมต่อหนาแน่นจนไม่มีพื้นที่สำหรับคิดใคร่ครวญถึงตัวเอง และโลก ทำให้สูญเสียโอกาส
การทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ไป
 
นักจิตวิทยารู้มานานแล้วว่า ความสร้างสรรค์จะผุดขึ้นมาในช่วงเวลาที่ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ระหว่างเล่น ระหว่างคิดไปเรื่อย ระหว่างเตร็ดเตร่
 
โครงข่ายจำนวนคนหนุ่มสาวในอเมริกาที่ “ไม่มีความสุข” เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติรายงานว่า ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2015 สัดส่วนของวัยรุ่น(อายุ 12 ถึง 17 ปี) ที่รายงานว่ามีภาวะซึมเศร้ารุนแรงอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา เพิ่มจากราว 8% มาเป็นเกือบ 13%
 
ตัวขับเคลื่อนหลัก คือ การปรากฏขึ้นของโครงข่ายดิจิทัลที่ทั้งมหึมาและแผ่กว้างจึงทำให้มีโอกาสหรือความปรารถนาที่จะหยุดเชื่อมต่อน้อยมาก โครงข่ายเปลี่ยนความจริงแบบมีเลือดมีเนื้อตรงหน้าให้เป็น ความจริงเสมือน และความจริงเสมือนนั้น เสียงดังกึกก้อง  กลืนกิน ทำลายความเป็นมนุษย์ และไม่หยุดหย่อน มันอาจดูดดึงเวลาทั้งหมดไปได้ ทั้งยังพุ่นไปข้างหน้าโดยไม่รอใคร เจนิส วิตล็อก(Janis Whitlock) 
 
สำนักวิจัยพิว (Pew) วัยรุ่นอเมริกันโดยเฉลี่ยทุกวันนี้ส่งหรือรับข้อความกันมากกว่าวันละ 110 ข้อความ 
 
ที่มาของอาการซึมเศร้า และวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นในวัยรุ่นคือ ความสะพรึงกลัวการอยู่ลำพัง วัยรุ่นยุคใหม่ที่มีชีวิตอยู่ในโลกเสมือน พวกเขาเชื่อมต่อตลอดเวลา
 
FOMO : Fear of Missing Out หรือ การ”กลัวพลาดโอกาส”การเสพติด การพึ่งพิงกระแสการไหลของดิจิทัล เฝ้ารอจะเสพครั้งต่อไปพยายามตามกระแสให้ทันอยู่เสมอ แต่เราก็ช้ากว่าเสมอ
 
เทคโนโลยีสื่อสารยุคใหม่ได้หล่อหลอมความเข้าใจที่เรามีต่อโลกต่อ อัตลักษณ์ ต่อวิธีประเมินคุณค่าส่วนตัว ต่อความสัมพันธ์ แม้กระทั่งการรับรู้เวลาและสถานที่
 
เร่งรีบรุมเร้า
 

ความเร็วในการเดินของคนเดินเท้าจาก 32 เมืองทั่วโลกเพิ่มขึ้น 10%ในช่วง 10 ปี ตั้งแต่ปี 1995 ถึง 2005 
 
คนเราจะใช้เวลาทำกิจกรรมยามว่างน้อยลงถ้าเวลาทำงาน (ที่ได้ค่าจ้าง)ทำกำไรให้เรามากขึ้น
 
เราปล่อยตัวเองให้ลอยไปตามคลื่นแห่งเทคโนโลยีและความเจริญโดยไม่ได้มองว่ากำลังไปทางไหน โลกของเราเปลี่ยนแปลงทีละน้อยๆ เราเสียความเงียบเสียเวลาที่จำเป็นในการใคร่ครวญ
 
เล่นนักวิจัยชาวเดนมาร์ก ซีน ยูห์ล มุลเลอร์ (Signe Juhl Møller)และคนอื่นๆ ค้นพบว่า เมื่อเด็กกำลังเล่นอยู่ ความหมายของของเล่น หรือ วัตถุหนึ่งๆ อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ ทำให้เกิดวิธีใหม่ๆ ในการใช้งานของเล่นนั้นๆ
 
นักการศึกษาชาวแคนาดา ซิสเตอร์วาเลอรี แวน โกเวนแบร์ก(Sister Valerie Van Cauwenberghe) กล่าวว่า “การเล่นคือกิจกรรมที่สร้างสรรค์และเกิดขึ้นเองโดยแท้ เด็กๆ สามารถเลือกเข้าร่วมอย่างเป็นอิสระ
 
นายแพทย์เคนเนท อาร์. กินส์เบิร์ก (Kenneth R.Ginsburg) การเล่น ช่วยให้เด็ก ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์พร้อมกับพัฒนาจิตนาการความคล่องแคล่ว รวมไปถึงความแข็งแกร่งทางร่างกายทางกระบวนการรับรู้และทางอารมณ์
 
ปัจจัย สำคัญที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์น่าจะได้แก่การปล่อยให้มีช่วงเวลาครุ่นคิดปัญหาตามสบายในระดับจิตใต้สำนึก ได้สำรวจความเป็นไปได้ต่างๆ ระหว่างเล่น
 
ไอน์สไตน์ว่าไว้ ความคิดดีๆ และทางแก้ปัญหาดีๆ มากมาย มักเกิดในระดับจิตใต้สำนึก และเราต้องการทั้งเวลาและสถานที่ให้มันเกิดขึ้น
 
จิตที่ท่องไปในเสรี 

  • แพทย์ชาวเยอรมันชื่อ ฮันส์ แบร์เกอร์ (Hans Berger)
  • สิ่งที่แบร์เกอร์ค้นพบอย่างหนึ่งก็คือ สมองนั้นวุ่นวายเสมอ
  • แม้ในช่วงที่ดูเหมือนพักผ่อนอยู่ ที่จริงแล้ว เวลาพัก สมอง
  • ใช้พลังงานน้อยกว่าเวลาทำงานโดยรู้ตัวเพียง 5%
  • นักจิตวิทยา ลูว์อิส เทอร์แมน (lewis Termag) ได้ติดตามชีวิตคน
  • 1,500 ที่มีไอคิวสูงในระดับ 135 ถึง 200
แม้คนกลุ่มนี้จะประสบความสำเร็จในชีวิตและอาชีพการงานมากกว่าคนทั่วไป แต่ก็พบว่าพวกเขาไม่ได้มีความคิดสร้างสรรค์เหนือกว่าปกติพบว่าคนที่มีความสร้างสรรค์สูงมักมีไอคิวอยู่ที่ค่าเฉลี่ย คือราว 120
 
นักจิตวิทยา อับราฮัม มาสโลว์ (Abraham Maslow)ความสร้างสรรค์ขั้นพื้นฐานเกี่ยวข้องกับการหลีกหนีจากความเครียดในชีวิตประจำวัน
 
วิเคราะห์ผลจากแบบทดสอบ ความคิดสร้างสรรค์ปี 1990 ความสามารถในการสร้างแนวคิดพิเศษไม่เหมือนใครของเด็กๆลดลงมาก รวมถึงการคิดแบบพิจารณาและลงรายละเอียดด้วย
 
เด็กๆแสดงออกทางอารมณ์น้อยลง กระตือรือร้นน้อยลง ช่างพูด และแสดงออกทางคำพูดน้อยลง มีอารมณ์ขันน้อยลง มีจินตนาการน้อยลง ออกนอกกรอบน้อยลง
มีชีวิตชีวาและหลงใหลคลั่งไคล้น้อยลง รับรู้น้อยลง เชื่อมโยงสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันได้น้อยลง สังเคราะห์ได้น้อยลง และมองอะไรๆ ในมุมที่ต่างออกไปได้น้อยลงด้วย
 
ปิดเครื่องและเติมพลัง

ขณะอยู่ในสมาธิเราทำจิตให้นิ่งสงบมากที่สุเท่าที่จะทำได้ เมื่อความคิดใดๆ ผุดขึ้นมาอย่างที่มักจะเป็น เราเรียนรู้ที่จะไม่อยู่กับมันแค่รับรู้มัน  แล้วปล่อยมันไป สุขภาวะทางจิตวัดออกมาเป็นคะแนนโดยใช้ปัจจัย 6 อย่าง
  1. การยอมรับตัวเอง
  2. ความสัมพันธ์ในแง่บวกกับผู้อื่น
  3. อัตตาณัติ
  4. การปรับตัวรับสถานการณ์
  5. เป้าหมายแห่งชีวิต
  6. การเติบโตส่วนตัว
หนึ่งในนิยามเบื้องต้นที่สุดของสิ่งมีชีวิตก็คือ เป็นสิ่งที่สามารถแยกตัวเองออกจากสภาพแวดล้อม และสร้างสิ่งแวดล้อมภายในที่มั่นคงและเป็นระเบียบขึ้นมา สมดุลที่มั่นคงนี้เรียกว่า ภาวะธำรงดุล (Homeostasis)
 
หากไม่มีช่วงปิดเครื่อง เราอาจไม่ได้ตายทางกาย แต่เราจะตายทางจิต ทางอารมณ์ ทางวิญญาณ ในช่วงปิดเครื่อง ไม่เพียงเราจะได้ทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เรายังได้ทำความเข้าใจชีวิตของเราด้วย 
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
782
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
705
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
639
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
516
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
431
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด