ผลจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบนี้หนักหนาสาหัสมาก หลายกิจการเริ่มเดินต่อไม่ไหว แม้กระทั่งธุรกิจเครื่องเขียนอย่างบริษัท ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ จำกัด เจ้าของสินค้าสุดฮิตอย่างปากกา Lancer ที่ตลอดระยะเวลาทำธุรกิจไม่เคยเจอกับคำว่าขาดทุน ก็ยังทนไม่ไหวกับสถานการณ์ในตอนนี้ถึงกับประกาศ “ขอหยุดกิจการชั่วคราว” และจะกลับมาดำเนินกิจการใหม่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น

 

www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่าหลายคนที่ได้ยินข่าวนี้ต้องรู้สึกใจหายและคงไม่อยากให้ปากกา Lancer ที่เราคุ้นเคยต้องมีอันหายไปอย่างถาวร ในตอนนี้อย่าเพิ่งไปคิดอะไรล่วงหน้า มาดู 10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! ปากกา Lancer ยอดฮิตที่เรารู้จักมีอะไรที่เรายังไม่รู้บ้าง

 

 

 

ภาพจาก https://citly.me/Fabkl

บริษัท ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของสินค้าปากกา Lancer ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2506 เป็นผู้ผลิตเครื่องเขียนภายใต้แบรนด์ LANCER, CANDY, CHEETAH, CLASSMATE และ GOLDMEDAL แรกเริ่มทำธุรกิจนำเข้าปากกาลูกลื่นแบรนด์ BIC จากฝรั่งเศสมาจำหน่าย

 

จากนั้นในปี พ.ศ. 2514 ได้ผันตัวเป็นผู้ผลิตปากกาภายใต้แบรนด์ LANCER ผลิตปากกาลูกลื่นมากกว่า 15 แบบ และยังผลิตปากกาเคมี, ปากกาสีเน้นข้อความ, ดินสอดำ, ดินสอสี, แท่นประทับตรา, ถาดใส่เครื่องเขียน, ยางลบ และแฟ้มเอกสารรูปแบบต่างๆ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจร เพื่อจำหน่ายสินค้าทั้งในประเทศและส่งออก ขายในต่างประเทศ

 

 

ทางบริษัทได้พยายามพัฒนาสินค้าของตัวเองมาอย่างต่อเนื่องจนสามารถผลิตปากกาลูกลื่นขึ้นได้เองเป็นรายแรกในประเทศไทย เมื่อปี 2514 โดยผลิตตัวด้าม ปากกา ไส้ปากกา และหัวปากกา จากการคิดสร้างสรรค์แบบผลิตภัณฑ์ ประดิษฐ์แม่พิมพ์ขึ้นผลิตสินค้าเองจนครบวงจร

 

 

ทางบริษัทได้จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ของสินค้าปากกาไว้หลายแบบด้วยกัน ทั้งที่เป็นสิทธิบัตรไทย และสิทธิบัตรของประเทศต่างๆ ทั่วโลก และเครื่องหมายการค้าไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะเครื่องหมายการค้า คำว่า “LANCER” ที่คุ้นหู

 

 

ภาพจาก https://citly.me/cRfB6

แบรนด์ปากกา Lancer ถือว่า ติดตลาดอย่างมาก เห็นได้จากผลวิจัยโดย สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อสิงหาคม 2550  (อ้างอิงจากรายงานประจำปี 2561 ของ DTCI)  ที่ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,200 คน พบว่า "ทั้งหมด" ต่างก็รู้จักปากกายี่ห้อ Lancer โดยมีการรับรู้ "ตราสินค้า" ของปากกา Lancer พบว่ามีถึงร้อยละ 96.1 ที่รู้จักตราสินค้าของปากกายี่ห้อนี้

 

 

นอกเหนือจากปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดก่อนหน้านี้ทางบริษัทก็ได้เผชิญกับปัญหาที่ภาครัฐได้ประกาศลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าสาเร็จรูปให้เหลือเพียง 5% และ 0% จึงเป็นช่องทางให้คู่แข่งมีการนำเข้าปากกาจากประเทศจีน ซึ่งมีรูปแบบปากกาที่มีความหลากหลาย สีสันสวยงามมาจำหน่ายในราคาถูกกว่า จึงนำมาสู่ความพยายามปรับตัวของ ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต รวมถึงลดต้นทุน ลดปริมาณของเสียระหว่างการผลิตให้ได้มากที่สุด

 

 

โดยผลประกอบการ 5 ปีล่าสุด (2557-2561) ที่บริษัทฯ แจ้งไว้กับตลาดหลักทรัพย์ "ไม่มีปีไหนที่ขาดทุนเลย" โดยในปีล่าสุด คือ 2561 ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ มีรายได้รวม 223 ล้านบาท กำไรราว 18 ล้านบาทเศษ

 

ขณะที่ปี 2560 มีรายได้รวม 240 ล้านบาท มีกำไร 25 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้รวม 232 ล้านบาท ทำกำไรได้ 30 ล้านบาท

 

ส่วนปี 2558 มีรายได้รวม 247 ล้านบาท มีกำไร 17.7 ล้านบาท และปี 2557 มีรายได้รวม 238 ล้านบาท มีกำไรราว 3 ล้านบาทเศษ

 

7. วิกฤติ COVID-19 ปัญหาใหญ่ที่ยังแก้ไม่ได้
 

ภาพจาก https://citly.me/zW0Nc

วิกฤติในแง่การตลาด จากรายงานประจำปี 2561 บริษัทฯได้อธิบายถึงการจัดจำหน่ายสินค้าไว้ว่า “บริษัทฯ ไม่มีลูกค้ารายใหญ่ที่รับซื้อสินค้าไปจำหน่ายที่มีเกินร้อยละ 30 ของยอดขายรวมแม้แต่รายเดียว แต่มีลูกค้ากระจายไปทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ ทั่ว่ประเทศ”

 

ดังนั้น เมื่อต้องพบกับคำสั่ง “ปิด” ห้างร้านต่างๆ ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ปากกาแลนเซอร์ในตำนาน และในความทรงจำของใครหลายๆ คนจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจนถึงขั้นต้องปิดกิจการชั่วคราวเช่นนี้

 

 

บริษัท ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DTCI ผู้ผลิต ปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน แลนเซอร์ สไปรัล” ได้ทำหนังสือแจ้งมายังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 23 เม.ย. 2563 โดยระบุว่า

 

“ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินกิจการของบริษัท คือ ไม่มีรายการสั่งซื้อจากลูกค้าที่เคยสั่งซื้อ และทางบริษัทไม่สามารถจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าได้ เนื่องจากลูกค้าซึ่งเป็นร้านค้าต่างๆ ล้วนต้องปิดร้านตามคำสั่งรัฐ และยังไม่อาจทราบได้ว่าจะกลับมาเปิดดำเนินการได้เมื่อไร เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากเหตุดังกล่าวนั้น บริษัท ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ จำกัด (มหาชน) จึงได้ประกาศปิดกิจการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2563 เป็นต้นไป และจะเปิดดำเนินการต่อไปเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น”

 

 

ปากกา Lancer Spiral 825 เป็นรุ่นยอดนิยมก็เพราะมีหัวปากกาที่แหลมคม จับถนัดมือ เขียนแล้วลื่นไหล ซึ่งบางคนใช้แล้วก็รู้สึกว่า เวลาเขียนจะทำให้ลายมือสวยขึ้น และปากกามีราคาที่ถูก เพียงด้ามละ 5 บาทเท่านั้น ทำให้หลายคนใช้เป็นปากกาด้ามโปรด และพกติดในกระเป๋าเครื่องเขียนตลอดเวลา

 

ซึ่ง จริงๆแล้ว Lancer มีปากกาอีกรุ่นที่เป็นตำนานไม่แพ้กันเลย ก็คือ Lancer Clic 878 ปากกาแบบกด รูปร่างคลาสสิก มีลำตัวสีขาว ปลอกหัวปากกาสีตามหมึกซึ่งมักเห็นรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ของเรานิยมซื้อมาใช้

 

 

ในวัยเรียนใครที่เคยใช้ ปากกา Lancer ย่อมต้องเคยมีกิจกรรมเหล่านี้กับเพื่อน เช่น การฝึกควงปากกา Lancer ใครควงได้นานกว่ากันชนะ หรือการแข่งตบปลอกปากกา Lancer ที่ได้ชื่อว่ามีความเหนียว วิธีการตบคือ นำปลอกปากกามาสอดระหว่างนิ้วแล้วตบให้หัก หรือการใช้ปากกา Lancer แทนลูกดอก แต่วิธีหลังนี้ถือว่าอันตรายส่วนใหญ่จึงถูกห้ามจากครูอยู่เสมอๆ 

 

ปากกา Lancer ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มในตำนานที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี แม้ในยุคนี้จะมีการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือมากขึ้น การเขียนหนังสือด้วยปากกาน้อยลงแต่ ปากกา Lancer ก็ยังเป็นลูกลื่นที่หลายคนยังพกติดตัวไว้เสมอๆ ซึ่งก็คาดว่าในอนาคต ปากกา Lancer จะกลับมาจำหน่ายสินค้าและให้บริการเหมือนเดิมอีกครั้ง

 

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3ekIDr7 , https://bit.ly/3aZ7iiQ

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)