หลังจากมูลนิธิเสถียรธรรมสถานได้ออกแถลงการณ์แจ้งข่าวการคืนสู่ธรรมชาติของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน โดยระบุว่าท่านป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และเข้ารับการรักษา ตั้งแต่ พ.ศ.2560 
 

กระทั่งวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564 พบว่าก้อนมะเร็งได้ขยายขนาดและลุกลามอย่างมาก ผู้ดูแลจึงตัดสินใจพาท่านกลับมาพำนักที่เสถียรธรรมสถานตามปณิธานที่ต้องการและท่านได้คืนสู่ธรรมชาติอย่างสงบในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2564 เวลา 18.23 น. สิริอายุ 68 ปี 1 เดือน 7 วัน และนับเป็น 41 พรรษา www.ThaiFranchiseCenter.com ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปในครั้งนี้และเชื่อว่ามีลูกศิษย์อีกจำนวนมากที่พร้อมจะนำคำสอนของท่านไปปฏิบัติใช้ในการดำเนินชีวิต อย่างไรก็ดีเพื่อให้รู้จักตัวตนของ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต มากยิ่งขึ้นลองไปติดตามเรื่องจริงที่คุณอาจยังไม่รู้

 

ภาพจาก facebook.com/sdsface

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต มีนามเดิม ศันสนีย์ ปัญญศิริ ชื่อเล่น ตุ๊กตา เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2496 เป็นบุตรีของ คุณเฉลียว จรัสศรี นายอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นางจำลอง พรหมินทะโรจน์ คุณครูประจำโรงเรียนบางปะหัน (เชื่อมประชานุกูล) และมีพี่สาว 1 คน คือ สายสัมพันธ์ ปัญญศิริ ชื่อเล่น ตุ๋มติ๋ม

 

2.เดินทางเข้ากรุงเทพศึกษาต่อที่โรงเรียนฝึกหัดครู
 

เมื่ออายุได้ 15 ปี ชีวิตของแม่ชีศันสนีย์ได้เปลี่ยนไป เมื่อมารดาของท่านได้เสียชีวิต ท่าน จึงตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ มาศึกษาต่อที่โรงเรียนฝึกหัดครูวิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา ซึ่งปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และยังได้เข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์อีกมากมาย

 

 

ภาพจาก facebook.com/sdsface

ก่อนหน้าที่ท่านแม่ชีศันสนีย์ จะหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม ในช่วงหนึ่งของชีวิตท่านเคยเข้าสู่วงการบันเทิงนางแบบโดยท่านถูกชวนให้เข้าประกวด 10 ยอดนางแบบระพี ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนตัดเสื้อที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในยุคนั้น และได้รับรางวัล จากนั้นก็ได้ขยับมาประกวดในเวทีอื่นๆมากขึ้น เกียรติยศรางวัลที่ได้รับคือ “รองมิสออด๊าซ” ควบรางวัลนางงามบุคลิกภาพ และในปี พ.ศ. 2519- 2523 ยังได้เป็นเจ้าหน้าที่ PR สถานออกกำลังกายและเสริมความงามครบวงจร World Club ช่วงประมาณอายุ 27 ปี แม่ชีศันสนีย์ รู้สึกว่า ชีวิตนี้ไม่สุขสงบ ไม่สบาย เหมือนตอนเด็กๆ จึงตัดสินใจหันหน้าเข้าพึ่งพาพระพุทธศาสนา ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต

 

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 ท่านได้ตัดสินใจยุติบทบาททางโลก เข้าสู่เส้นทางธรรม เป็นพุทธสาวิกาที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต โดยมี พระครูภาวนาพิธาน ( เส็ง ยสินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตเป็นพระอุปัชฌาย์ โดยงานแรกในบทบาทพุทธสาวิกา ท่านได้รับมอบหมายจากพระครูภาวนาพิธาน ( เส็ง ยสินฺธโร) ให้รับผิดชอบดูแลศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งเป็นศูนย์ที่หลวงพ่อตั้งขึ้น (ปัจจุบันคือศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต)

 

 

ภาพจาก facebook.com/sdsface

หลังจาก 7 ปี ของการบวชเรียน ศึกษา และปฏิบัติธรรม จนได้พบว่าธรรมะของพระพุทธองค์สามารถแก้ปัญหาความทุกข์ในชีวิตได้จริง ผนวกกับความกตัญญูซึ่งท่านมีต่อ พระครูภาวนาพิธาน พระอุปัชฌาย์ที่ชี้แนะไว้ก่อนล่วงลับว่า “ถ้ามีปัญญา สมบัติก็ไม่เป็นทุกข์”เสถียรธรรมสถานจึงถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2530 กลายเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยมีพระธรรมนำทาง ทำงานสร้างชีวิตในทุกช่วงวัย ตั้งแต่เกิดจนตาย เพื่อสร้างสังคมให้อยู่เย็นเป็นสุข พ้นทุกข์ร่วมกัน และสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นที่พึ่งทางใจแก่ผู้คนมากมายจนถึงปัจจุบัน

 

เสถียรธรรมสถาน เป็นชื่อที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภะ) ผู้เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อภาวนาพิธานเป็นผู้ตั้งให้ ความหมายคือ ‘สถานที่ที่มีธรรมอันยั่งยืน’ โดยมุ่งเน้นใช้หลักพุทธนำสังคม ผลักดันให้ผู้หญิงได้รับการพัฒนาสติปัญญาที่มีความรู้ทางธรรมเป็นรากฐาน รวมทั้งสามารถใช้ศักยภาพของตนเองในการช่วยเหลือผู้อื่น

 

7.ก่อตั้ง “บ้านสายสัมพันธ์” ในปี 2534
 

ภาพจาก facebook.com/sdsface

ปี 2534 แม่ชีศันสนีย์ได้เริ่มต้นงาน ‘บ้านสายสัมพันธ์’ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เด็กและสตรีที่เคยถูกทารุณกรรมทางเพศและตั้งครรภ์แบบไม่พึงประสงค์ ให้ยืนหยัดด้วยพลังใจและพลังความเป็นแม่ของตัวเอง และในปี 2547 ท่านได้ตั้งโครงการจิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ เพื่อส่งเสริมให้พ่อและแม่ได้ศึกษาและปฏิบัติตนตามหลักธรรมะเป็นแนวทางในการครองชีวิตครอบครัว และให้กำเนิดลูกที่มีจิตใจใฝ่ธรรมะ

 

ในปี 2549 แม่ชีศันสนีย์ ได้เดินทางไปยังเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา และได้รับมอบ‘พระอารยตารามหาโพธิสัตว์’ อายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ที่ชาวพุทธวัชรยานให้ความนับถือ จาก ดร. ฮง เชม อดีตผู้อำนวยการกองบำรุงกำลัง องค์การสหประชาชาติซึ่งนับตั้งแต่วันนั้น พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ก็กลายมาเป็นพลังใจในการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของท่านแม่ชีศันสนีย์และชาวชุมชนเสถียรธรรมสถาน

 

 

ภาพจาก facebook.com/sdsface

นอกจากผลงานที่ได้กล่าวมาข้างต้นท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ยังมีผลงานด้านศาสนาที่น่าสนใจอีกมากมายได้แก่

 

ภาพจาก facebook.com/mountainofbodhisattva
 

ประมาณปี 2562 คุณแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ได้ระดมพลังกายพลังใจของสนักบวชสตรี ชุมชนกัลยาณมิตร และเหล่าศิษยานุศิษย์ สร้าง “หุบเขาโพธิสัตว์” โดยพัฒนาพื้นที่ร้อนแล้ง เป็นพื้นที่สีเขียว ณ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรีให้เป็นสถานที่ที่เพื่อ ‘ปลูกป่า ปลูกชีวิต ปลูกหัวใจโพธิสัตว์’ โดยตั้งเป้าหมายให้ชีวิตภายในชุมชนแห่งนี้ ‘พึ่งตัวเองได้’ และ ‘ให้คนอื่นเป็น’ หุบเขาโพธิสัตว์จึงเปรียบเสมือนบ้านที่ทุกคนสามารถเข้ามาภาวนา อาบป่า อาบใจ และ อาบธรรม ซึ่งผู้เข้าร่วมเรียนรู้จะได้ร่วมตระหนักรู้ในวิถีชีวิตและวิถีธรรมอันดีงามให้คงอยู่ต่อไป

 

นอกจากนี้ แม่ชีศันสนีย์ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวแทนนำเสียงผู้หญิงไปสู่เวทีโลก ในงานประชุมผู้นำสตรีทางศาสนาและจิตวิญญาณเพื่อสันติภาพโลก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี พ.ศ. 2545 ทำให้ได้เจอกับ "วิคตอเรีย โฮลท์" มืออาชีพด้านการเขียนบทและการสร้างภาพยนตร์ จนนำไปสู่การสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องอะ วอล์ก ออฟ วิสดอม (A Walk of Wisdom) ที่ฉายในหลายประเทศทั่วโลก

 

อย่างไรก็ดีแม้ว่าท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุตจะได้คืนสู่ธรรมชาติอย่างสงบแต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่คือคำสอนที่ได้ถ่ายทอดไว้ให้เหล่าศิษย์ทั้งหลายสามารถนำไปใช้ในดำเนินชีวิตได้ โดยมีคำสอนที่น่าสนใจเช่น

หลังจากนี้สิ่งที่แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ได้เริ่มต้นไว้จะถูกสานต่อด้วยคนรุ่นหลังรวมถึงคำสอนดีๆที่ยังจะอยู่ในใจของคนไทยเสมอไป

 

ติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://www.thaifranchisecenter.com/document/

 

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3DyKX76 , https://bit.ly/3y3TApa , https://bit.ly/3Dx88if , https://bit.ly/3EzERVF , https://bit.ly/3lK358i , https://bit.ly/303S8GO 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)